ตอนที่สี่ สิ่งแลกเปลี่ยน2
ตอนที่สี่
สิ่งแลกเปลี่ยน
หญิงสาวจำได้ว่าครานั้น จางซื่อยกแม่น้ำทั้งห้ามาพร่ำพรรณนาไม่ให้นางตอบรับการสู่ขอของอ๋องเจิ้งโดยบอกว่าเขาดุร้ายมีนิสัยเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทั้งไร้ความคิดเบาปัญญาจึงได้รับมอบหมายแต่งานที่ไม่สำคัญ
แม้แต่งงานแล้วนางจะได้เป็นถึงชายาเอกซึ่งมียศศักดิ์ แต่ตำแหน่งเลื่อนลอยเช่นนั้นหรือจะสู้เป็นฮูหยินเอกของขุนนางซึ่งมีอำนาจวาสนามิดีกว่าหรือ
ความจริงถังลี่หงไม่ได้เชื่อคำของมารดาทั้งหมด เพียงแต่นางยังไม่อยากแต่งงานออกไปมากกว่าจึงยอมปฏิเสธการสู่ขอครั้งนั้น
ฟากอ๋องสูงศักดิ์เมื่อเห็นหญิงสาวซึ่งเคยมอบการสู่ขออย่างให้เกียรติแต่บัดนี้ชีวิตดั่งคุณหนูแสนสุขกลับต้องพลิกผันกลายเป็นแค่ลูกไก่ในกำมือจึงไม่วายชอบใจ
เขาเคยชอบที่นางไม่เหมือนหญิงอื่นซึ่งชอบสร้างเรื่องวุ่นวายจึงขึ้นยกย่องเชิดชูให้เป็นถึงชายาเอก
ในเมื่อนางมาขอร้องเขาเอง คราวนี้มาดูสิว่านางจะทำให้เขาพอใจได้หรือไม่
อ๋องหนุ่มเรียกผู้ดูแลใหญ่ของสำนักสังคีตหลวงเข้ามาสั่งการก่อนจะลุกขึ้นตรงเข้าลากแขนบางให้เดินตาม
“เดี๋ยวๆๆ จะพาหม่อมฉันไปที่ใด” ถังลี่หงรีบประท้วงจนหลงลืมคำลงท้ายที่เหมาะสม
นางถูกส่งมาใช้แรงงานที่นี่ จะออกไปได้อย่างไร
“ข้าอยากพาเจ้าไปที่ใดก็ย่อมได้ หรือว่าเจ้าไม่อยากได้ความเมตตาแล้ว” น้ำเสียงแสดงอำนาจทั้งท่าทางเอาแต่ใจของผู้สูงศักดิ์ทำให้ถังลี่หงเพิ่งนึกได้จำต้องปิดปากเพื่อไม่ให้อ๋องผู้มีอำนาจเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา
ครั้นนางยอมเดินตามโดยดีกลับถูกโยนขึ้นรถม้าอย่างไร้ความปรานี
“โอ๊ย!...”
หญิงสาวร้องออกมาได้เพียงเท่านั้นก็ต้องรีบลุกขึ้นนั่งจับขอบหน้าต่างเอาไว้ให้แน่นด้วยรถม้าเคลื่อนออกอย่างเร็วโดยไม่ทันระวัง
หลังจากนั่งหัวสั่นหัวคลอนจนเวียนหัวแทบอาเจียน หญิงสาวจึงพบว่ารถม้าได้หยุดลงแล้ว
มือใหญ่เปิดผ้าม่านขึ้นอย่างแรงแล้วกระชากลากถูร่างบางให้เดินตามด้วยความไม่ทะนุถนอม
“ช้าหน่อยเพคะ หม่อมฉันเดินไม่ทัน”
หางตาวางอำนาจเพียงตวัดมองแต่แรงเดินลดช้าลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
กว่าถังลี่หงจะได้หยุดยืนหอบหายใจก็เมื่อรู้สึกตัวว่าถูกพาตัวมายังเรือนกลางน้ำหลังใหญ่แห่งหนึ่ง
“ที่นี่คือ?”
“สถานที่เสพสุขของพวกเราอย่างไรเล่า” ถ้อยคำที่เอ่ยออกมาตามตรงสร้างความตื่นตะลึงจนหญิงสาวตาเหลือกค้าง
“ถังลี่หง เจ้ายอมรับปากว่ายอมทำทุกอย่าง ในใจเจ้าย่อมรู้ดีว่า บุรุษจะต้องการสิ่งใดจากสตรีเล่าหากมิใช่ร่างกาย โชคดีที่เจ้ายังมีร่างกายงดงามเพียงพอให้ข้ายอมยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
อีกทั้งยังต้องขอบคุณสวรรค์ที่เจ้ายังไม่ได้แต่งงานกับชายใดสักคน แต่ความบริสุทธิ์อันน่าค้นหาจะยังคงรักษาไว้ได้จนป่านนี้หรือไม่ คงต้องมาลองดูกัน เจ้าควรรู้ไว้ก่อนว่าข้าไม่ชอบซ้ำรอยของผู้ใด”
คุณหนูใหญ่สกุลถังโกรธจนตัวสั่นกำมือแน่นด้วยไม่คิดว่าอ๋องสูงศักดิ์จะหยาบคายทั้งดูหมิ่นนางถึงเพียงนี้
“หม่อมฉันช่างไร้เดียงสานักไม่คิดว่าท่านอ๋องผู้มีศักดิ์สูงจะมัวคิดมากกับเรื่องใต้กระโปรงเช่นนั้น หม่อมฉันเพียงคิดว่าทรงมีเมตตาและพาหม่อมฉันมาช่วยดูแลเรื่องอื่น”
“อย่าแสร้งไร้เดียงสาไปหน่อยเลย ถังลี่หง” สายตาเย็นชาถูกสาดออกมาพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยัน
อ๋องหนุ่มที่เดินตรงเข้ามาด้วยท่าทางหาเรื่องทั้งลำตัวที่ตั้งตรงสองมือไพล่หลังทำให้หญิงสาวรีบก้าวถอยหลัง
“เจ้าอายุมากแล้ว ไม่ใช่เด็กน้อยจึงจะแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ” อ๋องเจิ้งตอกย้ำทั้งยังตวัดส่งสายตาไม่พอใจ
ภายในห้องโถงโล่งเปลือยแห่งจวนอ๋อง บ่าวรับใช้รอบข้างล้วนหมอบต่ำหลบมุมราวกับไม่มีตัวตน
ยกเว้น...นาง
หญิงสาวในชุดผ้าหยาบหม่นหมอง ผมยาวสยายปราศจากเครื่องประดับ แม้จะซูบซีดและสิ้นสง่าราศีเพียงใดแต่ถังลี่หงยังคงเชิดหน้าทำให้อ๋องหนุ่มรู้สึกราวถูกท้าทาย
มือใหญ่เอื้อมมาจับแขนบางเอาไว้แน่นเพื่อบ่งบอกว่าหญิงสาวไม่มีสิทธิ์จะเอ่ยหรือทักท้วงอันใดอีก
“ตามมา”
แรงกระชากที่หยาบคายทั้งไม่ให้เกียรติทำให้ถังลี่หงต้องเบหน้าด้วยความเจ็บ ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองสีหน้าเย็นชาที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยและความสะใจ
แม้ไม่อยากขยับแต่ร่างบางก็ต้องเซถลาเมื่ออ๋องหนุ่มกระชากลากถูไปยังห้องนอนด้านใน
“ในเมื่ออยากให้ข้าช่วย เช่นนั้นก็ควรต้องอยู่ในฐานะสตรีของข้าจึงจะเหมาะสม” คำพูดนี้ตอกย้ำให้หญิงสาวยอมรับความต่ำต้อยของตัวเอง
“หรือเจ้าอยากได้กลางแจ้ง ที่นี่บรรยากาศดีนัก พวกเราเปิดแสดงกิจกรรมเข้าจังหวะให้เหล่าคนรับใช้ได้เปิดหูเปิดตาดีหรือไม่”
ถังลี่หงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ถูกเหยียดหยามอย่างที่สุดแต่นางจำต้องอ่อนข้อเมื่อคิดถึงความทุกข์ยากของคนในครอบครัวและสถานการณ์ที่ไม่อาจย้อนกลับ
นางเป็นคนขอความช่วยเหลือจากเขาเอง ขณะที่เขาก็รับปากจะช่วยดูแลท่านแม่กับคนอื่นๆแล้ว หากนางไม่ยอมรับและไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างโดยดี คงไม่อาจสู้กับท่านอ๋องที่มีอำนาจมากมายผู้นี้
หญิงสาวจึงรีบส่งเสียงอ้อนวอนแม้จะโดนกึ่งลากกึ่งประคองเข้าไปจนเกือบถึงหน้าประตูด้านใน
“ท่านอ๋องโปรดเมตตาด้วย”
