ตอนที่สาม ขอความเมตตา2
ตอนที่สาม
ขอความเมตตา
ถังลี่หงถอนหายใจด้วยไม่คิดว่าการเข้าไปขอร้องของนางจะได้ผล
ยามนี้สถานะของนางเปลี่ยนไปแล้วย่อมต้องสำนึกตนเอง
แต่เมื่อหันไปเห็นใบหน้าชุ่มน้ำตาของมารดาและน้องสาว ทั้งแววตาแห่งความหวังของสาวใช้คนอื่น หญิงสาวจึงสูดหายใจเข้าให้ลึกเพื่อตั้งสติแล้วคิดคำพูดดีดีออกมาเพื่อว่าอ๋องผู้นั้นจะเห็นใจ
“คุณหนูใหญ่ไม่ต้องไปหรอกเจ้าค่ะ อ๋องเจิ้งอาจจะผูกใจเจ็บที่คุณหนูเคยปฏิเสธการสู่ขอแล้วหาทางกลั่นแกล้งนะเจ้าคะ”
แม่นมเมิ่งเห็นสายตาของถังลี่หงแล้วจึงรีบก้าวเข้ามาขัดขวาง ไม่ว่าเมื่อใดคุณหนูของนางก็มักใจอ่อนให้กับมารดาและน้องสาวเสมอแม้ตนเองจะต้องลำบากใจเพียงใด
แต่ครานี้ ผู้ที่กำลังต้องเผชิญหน้าคืออ๋องสูงศักดิ์ขณะที่พวกนางกลายเป็นแรงงานชั้นต่ำไม่ใช่คุณหนูเช่นเดิมแล้วจึงไม่อาจเทียบชั้น
“แม่นมเมิ่งอย่าพูดมาก” จางซื่อรีบกระแทกแม่นมให้ห่างออกแล้วเข้าปลุกปลอบบุตรสาว
“หงเอ๋อร์ แม่รู้ว่าเจ้าไม่อยากก้มหัวหรืออ้อนวอนท่านอ๋อง แต่ซูเอ๋อร์พูดถูก อ๋องเจิ้งมีอำนาจเหนือทุกคนที่นี่ ยามนี้เห็นทีต้องยอมทิ้งศักดิ์ศรีเอาไว้ก่อน หากเจ้ายอมคุกเข่าขอโทษและขอร้องเขา พวกเราคงได้อยู่สุขสบายกว่านี้
เจ้าดูสิ แม่กับซูเอ๋อร์ลำบากมากเพียงใด ขืนให้พวกเราทำงานเช่นนี้อีก แม่กับน้องสาวของเจ้าคงต้องตายก่อนแน่ๆ”
น้ำตาที่ร่วงรินเป็นสายทั้งท่าทางราวจะเป็นจะตายของมารดาทำให้ถังลี่หงตัดสินใจขอเข้าพบจ้าวเจิ้งหลงหรืออ๋องเจิ้งตามลำพังทันที
“คุณหนูใหญ่อย่าไปเลย” แม่นมเมิ่งพยายามขัดขวาง แต่ถังลี่หงใช้ชีวิตด้วยความรักและปรารถนาดีกับคนในครอบครัวมาตลอดจึงได้แต่ปลอบใจแม่นมผู้เลี้ยงดู
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะระวังตัว”
อ๋องสูงศักดิ์นั่งจิบชารอคอยอยู่นานแล้ว เขาคาดเดาไว้ล่วงหน้าว่านางต้องมาขอร้องเขาแน่จึงอดทนไม่ยอมจากไปหลังจากเดินไปเห็นสภาพน่าอเนจอนาถของเหล่าสตรีสกุลถัง
ความจริงอ๋องเจิ้งไม่ได้รู้มาก่อนว่าถังหานจะโดนลงโทษร้ายแรงเพียงนั้นด้วยไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับงานหลวง
แต่ทันทีที่รู้ข่าวว่าสตรีของสกุลถังจะโดนลงโทษด้วยการใช้แรงงาน เขาจึงรีบเสนอให้ส่งตัวพวกนางมายังสำนักสังคีตหลวงซึ่งตนเองเป็นผู้รับผิดชอบดูแล
แม้อ๋องหนุ่มจะเป็นอนุชาคนโปรดและได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจอยู่บ้างด้วยได้รับการเลี้ยงดูจากมารดาคนเดียวกันและอาศัยในตำหนักเดียวกับฮ่องเต้อยู่หลายปี
แต่เขายังอยากใช้ชีวิตสุขสบายและไม่อยากสร้างความหวาดระแวงแก่พระเชษฐาจึงขอรับผิดชอบเพียงงานไร้สาระซึ่งไม่สลักสำคัญ อย่างเช่นสำนักสังคีตหลวงแห่งนี้
ยามนี้อ๋องหนุ่มจึงอาศัยข้ออ้างตรวจกิจการมานั่งรออยู่ในห้องส่วนตัวอันหรูหรา
ทันทีที่ได้รับอนุญาตและประตูถูกเปิดออก ถังลี่หงจึงเดินเข้าไปด้วยท่าทางลังเล สายตาหวาดหวั่นจดจ้องไปที่พื้นไม้เรียบลื่นเพื่อก้าวให้ตรงไม่หกล้มไปเสียก่อน
จะขอร้องเขาอย่างไรดีจึงจะไม่ดูน่าสมเพชเกินไป
และจะขอความเห็นใจอย่างไรเพื่อให้เขาเมตตา
ในใจของหญิงสาวครุ่นคิดไม่หยุด เมื่อเห็นชายชุดเสื้อหรูหราซึ่งบังรองเท้าสีดำได้ไม่หมด จึงเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงสง่าที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่กลางห้องข้างโต๊ะน้ำชา
ใบหน้าเคร่งขรึมนั้นกำลังเบนสายตาออกไปนอกหน้าต่างไม่แม้แต่จะปรายตาหันมามองนางแสดงออกถึงความเย็นชาที่แผ่กระจายไปทั่วห้อง
เอ่อ...เขากำลังอารมณ์ไม่ดีหรือ
