ตอนที่สอง งานชั้นต่ำ2
ตอนที่สอง งานชั้นต่ำ
ร่างอวบของหญิงผู้ดูแลส่ายสะโพกโยกกายเดินจากไปปล่อยให้เหล่าสตรีในสกุลถังมองของใช้ที่เปรอะเปื้อนและต้องเช็ดล้างกองใหญ่ตรงหน้าด้วยสายตาเหลือเชื่อ
“มากเพียงนี้จะทำเสร็จทันเวลาได้อย่างไร”
“ทันหรือไม่ก็ต้องเร่งมือให้เร็วที่สุด เอาล่ะ พวกเรามาช่วยกัน”
คุณหนูใหญ่แห่งจวนสกุลถังลงมือทำงานชั้นต่ำไปพร้อมกับแม่นมและเหล่าสาวใช้ทั้งที่แม่นมเมิ่งพยายามห้ามปรามและกุลีกุจอเข้าช่วยเหลือ
“ให้ข้าทำเถิดแม่นม ยามนี้พวกเราไม่อาจแบ่งแยกนายบ่าว” เสียงอ่อนโยนทั้งสองมือที่อ่อนนุ่มแต่กลับต้องมาจับงานหยาบช้าทำให้น้ำตาของแม่นมรินไหล
“โธ่ คุณหนูของบ่าว” แม่นมเมิ่งคร่ำครวญด้วยความเวทนาสงสาร
คุณหนูของนางเคยต้องตกต่ำเพียงนี้ที่ใดกัน ต้องโทษบิดาไร้ความสามารถและขาดคุณธรรมผู้นั้นที่นำพาเรื่องเช่นนี้มาสู่คนในตระกูล
แล้วมารดากับน้องสาวที่เอาแต่โวยวายนั่นอีก ไม่เสนอหน้าออกมาช่วยสักนิด
แม้ไม่อยากให้คุณหนูใหญ่ต้องลำบาก แต่ยามนี้ไม่ว่าเจ้านายหรือสาวใช้ล้วนกลายเป็นแรงงานที่ต้องทำงานตามที่ได้รับมอบหมายด้วยกันทั้งสิ้น
ถังลี่หงจึงก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่โดยไม่ปริปาก แต่ผู้ดูแลร่างอวบซึ่งเข้ามาตรวจงานกลับไม่พอใจเมื่อเห็นสตรีสองคนซึ่งเคยเป็นเจ้านายยังคงวางท่าหลบอยู่แต่ในห้องไม่ยอมสำนึกในฐานะ
“คิดว่าตนเองยังเป็นนายหญิงและคุณหนูสกุลใหญ่อยู่อีกหรืออย่างไร ในเมื่อไม่ทำงานทั้งยังทำตัวไร้ค่าเปล่าประโยชน์เช่นนั้นก็ไม่ต้องกินข้าว”
เสียงก้าวเท้าปึงปังพร้อมประตูที่ปิดดังทำให้ทุกคนต่างสะดุ้งตกใจ
“ท่านแม่ พวกนางช่างหยาบช้านัก” ถังลี่ซูไม่อาจยอมรับความอับอายทั้งคับแค้นใจ
ฝ่ายถังลี่หงย่อมทนเห็นมารดาและน้องสาวอดอยากไม่ได้ เมื่อได้รับอาหารจึงนำส่วนของตนเองไปให้พวกนางกินจนหมดส่วนตนเองต้องอดข้าวแทน
แม่นมเมิ่งหรือจะทนเห็นคุณหนูของนางต้องอดอาหารจนท้องกิ่ว จึงรีบนำส่วนของตนเองไปให้คุณหนูใหญ่ทดแทน
“พวกเราแบ่งกันกินก็แล้วกัน” ถังลี่หงไม่อาจให้ผู้ใดต้องอดเพื่อนาง ข้าวห่อเดียวจึงถูกแบ่งออกเป็นสองเพื่อต่อชีวิตให้ไม่หิวจนเกินไป
การกระทำของพวกนางย่อมมีหูมีตาแลเห็น วันต่อมาจางซื่อและถังลี่ซูจึงถูกเรียกใช้ให้ไปทำงานซึ่งน่ารังเกียจยิ่งกว่าเดิม
“ยังคิดว่าตนเองเป็นเจ้านายอีกหรือ เช่นนั้นคงต้องให้สำนึกในฐานะตนเองสักที วันนี้พวกเจ้าสองคนไปล้างกระโถนเทของเสียให้หมด อ้อ...ห้ามผู้ใดเข้าช่วยเหลือ หาไม่ ข้าจะลงโทษทุกคนให้อดข้าวอดน้ำสักหลายวัน”
คำข่มขู่ของหญิงผู้ดูแลที่แข็งกร้าวย่อมทำให้ทุกคนจนใจได้แต่มองถังลี่ซูและจางซื่อซึ่งเอาแต่พร่ำรำพันความทุกข์ยากทั้งเทอุจจาระที่เน่าเหม็นจนอาเจียนออกมาอยู่หลายครา
“ท่านแม่ ข้าไม่ไหวแล้ว ขืนต้องทำเยี่ยงนี้ทุกวัน ข้าต้องตายแน่ๆ”
“อดทนอีกหน่อยเถิด ซูเอ๋อร์”
คำโอดครวญและน้ำตาได้รับเพียงการปลอบโยนเพราะแม้แต่ผู้เป็นมารดาก็จำต้องทำงานหยาบเหล่านี้เช่นกันแม้ในใจจะอยากให้สาวใช้เข้ามาช่วยเต็มแก่
“หากผู้อื่นทำแทนหรือช่วยเหลือก็คงได้อดตายกันทั้งหมด”
ถ้อยคำของแม่นมเมิ่งตอกย้ำให้สองแม่ลูกจำต้องกล้ำกลืนฝืนทนก้มหน้ารับคำตะโกนด่าทอว่ามือเท้าเชื่องช้าอยู่ทั้งวัน
