บทที่ 3 ตัวประกัน
แผ่นดินสีเขียวกว้างใหญ่เหยียดยาวไปจรดแนวเทือกเขาที่ทอดตัวราวกับงูยักษ์จอมขี้เกียจใต้ม่านหมอกขาวที่ระเรี่ยเกือบถึงเชิงเขา สายฟ้าทอดสายตามองอย่างชื่นมื่น
บางทีเขาอาจจะต้องจัดระเบียบชีวิตเสียใหม่ การเว้นวรรคเพื่อมาพักผ่อนอย่างแท้จริงในแต่ละปี อาจจะทำให้จิตใจและสมองปลอดโปร่งขึ้น
“เอ็งอยากเห็นความยิ่งใหญ่ของไร่เราให้เต็มตาไหมล่ะ
“ข้าไม่คิดเลยว่า ไร่ของพ่อพวกเราจะกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้” สายฟ้ากวาดตามอง ที่ดินผืนใหญ่ ช่างกว้างกว่าที่เขาจินตนาการไว้ยิ่งนัก
“ดูสิ แค่บ้านของเอ็ง ข้าก็ไม่คิดว่า ต่างจังหวัดจะมีบ้านแบบนี้อยู่”
หนุ่มนักออกแบบมีประกายตาชื่นชมบ้านที่ครอบครัวพฤกษ์สร้างไว้ รวมถึงเรือนนอนหลังเล็กที่อยู่ด้านหลังของเขาด้วย ดูเป็นรีสอร์ทที่มีกลิ่นอายอาคารบ้านเรือนแบบท้องถิ่นโอ่อ่าน่าอยู่ ไม่ดูไม่แปลกแยกจากสภาพแวดล้อม
ตัวบ้านสองชั้นสร้างเน้นแนวยาว ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่และสวนสวย ส่วนบ้านพักสำหรับแขกเป็นหลังเล็กๆ อยู่ด้านหลัง เลยแนวสวนไปเล็กน้อย
ช่วงนี้พ่อกับแม่ของพฤกษ์ไปเที่ยวต่างประเทศ จึงปล่อยให้ทุกหน้าที่ในไร่เป็นของปลัดหนุ่ม
“เราไปซ่อนผ้ากัน” พฤกษ์เตรียมรถจิ๊ปไว้ตั้งแต่เช้า วันนี้เขากับสายฟ้าจะไปรำลึกความหลังกันที่น้ำตกด้านหลังไร่ ติดกับภูเขาฟากโน้นสักหน่อย
“เอาสิ!”
ไม่ถึงสิบนาทีต่อมาชายหนุ่มทั้งสองก้าวขึ้นไปยืนจังก้าบนโขดหินขนาดใหญ่ถอดเสื้อและกางเกงยีนส์ไว้บนนั้น เหลือเพียงกางเกงว่ายน้ำคนละตัว
“ไงเพื่อน เอ็งดูข้างล่างสิ”
สายฟ้าชะโงกหน้าลงไปมองผืนน้ำด้านล่าง แอ่งน้ำสีฟ้าใสจนมองเห็นก้อนหินเบื้องล่าง น่าลงแหวกว่ายยิ่งกว่าสระว่ายน้ำสระใดที่เขาเคยลงเล่น
“นั่นล่ะ เรามาแข่งกันว่า ใครจะกระโดดลงไปแล้วทำให้น้ำกระจายได้มากกว่ากัน” ปลัดหนุ่มเริ่มรู้สึกคึกคัก
“เอ็งนี่ ยังอุตริเหมือนเดิม ปกติเขาแข่งกันประเภทให้น้ำกระจายน้อยสุดไม่ใช่เหรอวะ”
“แต่เราไม่ใช่นักกีฬานี่หว่า ฉะนั้นกติกาต้องเป็นแบบตามใจข้านะโว้ย! ในฐานะที่ข้าเป็นเจ้าถิ่น” พฤกษ์ที่ร่างหนากว่าโวเสียงดังลั่น
“เริ่มที่ข้าก่อนล่ะกัน ไปละ” พูดจบ เขาก็กระโจนลงสู่แอ่งน้ำเย็นเยียบ
ตู้ม! ร่างหนาใหญ่กระทบแผ่นน้ำเสียงดังก้องหน้าผาเล็กๆ แห่งนั้น น้ำตกท้ายไร่ไหลมาจากปลายเทือกเขา พักน้ำด้านบนก่อนที่จะตกลงมาเป็นแอ่งเล็กๆ ต่ำลงมามีลักษณะคล้ายหน้าผาสูงเท่าหลังคาบ้านชั้นเดียว
ตัวแอ่งด้านล่างมีขนาดเท่าสระว่ายน้ำขนาดกลาง มุมแอ่งด้านหนึ่งมีร่องน้ำขนาดไม่เกินสองเมตรเป็นทางไหลของน้ำต่อไป ต้นไม้นานาพรรณเขียวขจีขึ้นอยู่รายรอบ แต่ก็ไม่รกครึ้มจนน่ากลัว เพราะแสงแดดสาดสอดเล็ดลอดยอดไม้ไปทั่วอาณาบริเวณ
“ไอ้ฟ้า แน่จริงเอ็งกระโดดตามมาเลย”
“ได้เล้ย! งั้นเองคอยดูข้าบ้างก็แล้วกัน” สายฟ้ากางแขนกางขากระโดดตามลงมาอย่างไม่ยอมแพ้
“เอาเล้ย...ใครแพ้เลี้ยงข้าวสามวันนะโว้ย!”
เสียงคนตะโกนโหวกเหวกจากแถวน้ำตก ทำให้พันดาวต้องกระตุกบังเหียนสองสามครั้ง เธอค่อยเลียบม้าไปใกล้ๆ ในไร่สุดเขตฟ้าพื้นที่แถวนี้เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะมาเที่ยวเล่นกับธาราตั้งแต่ยังเรียนมัธยมต้น ครอบครัวของธาราดูแลกิจการไร่ที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่จรดตีนเขาฟากโน้นมาเนิ่นนาน ทีแรกคุณแม่ของเธอซึ่งรู้จักกับคุณแม่ของธาราได้ฝากฝังให้เธอหัดเรียนขี่ม้าที่นี่ ต่อมาจึงกลายเป็นสถานที่สุดโปรดอีกแห่งหนึ่ง
‘เด็กที่ไหนกันนะ จะมาเล่นที่น้ำตกซ่อนผ้า ช่วงนี้ยังไม่ปิดเทอมนี่นา’ ตามปกติแล้ว ไร่สุดเขตฟ้ามักจะอ้าแขนรับญาติๆ และมิตรสหายอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งในช่วงปิดเทอมจะมีเด็กๆ เข้ามาเล่นที่น้ำตกแห่งนี้อยู่ไม่น้อย
เธอผูกม้าไว้ต้นไม้ริมทางเล็กๆ ถัดจากม้าสีน้ำตาลเข้มสองตัวของผู้มาก่อนหลายเมตร ก่อนลัดเลาะเขาไปในบริเวณน้ำตก
‘น่าจะไม่ใช่เด็กซะแล้ว’
ร่างเธอโดนพุ่มไม้ข้างหน้าบังไว้ แต่กลับมองเห็นชายหนุ่มในกางเกงว่ายน้ำตัวสั้นสีดำที่ยืนอยู่บนโขดหินชั้นสูงขึ้นไปของน้ำตกได้อย่างชัดเจน
‘นั่นเขา! ใช่แน่ๆ’ พันดาวรำพึง
“ข้านำไป หนึ่งต่อศูนย์หึๆ ยังเหลืออีกสี่ครั้งนะโว้ย! รีบแก้ตัว”
พฤกษ์อยู่ในแอ่งน้ำแล้ว โบกมือท้าทายคนชั้นบนอยู่ไหวๆ คนข้างบนรีบกระโจนลงมาอย่างรวดเร็ว
ตู้ม! แรงกระจายของน้ำรุนแรงยิ่งกว่าที่พฤกษ์ทำ เมื่อโผขึ้นมาบนผิวน้ำ สายฟ้าก็หัวเราะร่า
“เป็นไง? ข้าชนะแล้วล่ะ รอบแรก”
“เออ เอ็งเก่ง แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าแก้ตัวใหม่”
รอบที่สอง พฤกษ์กระโดดลงมา ทำให้ผืนน้ำแตกกระจายอย่างน่าตื่นใจ แต่เพื่อนรักของเขาก็ไม่มีท่าทีหวั่นเกรง ยังคงยิ้มพรายในหน้า เขากระโดดตามมา และยังคงนำหน้าไปเป็นสองต่อศูนย์
พฤกษ์รีบขึ้นจากแอ่งน้ำ แล้วปีนขึ้นไปชั้นบนน้ำตกอีกครั้ง ส่วนสายฟ้ายังคงโผไปมาอย่างสบายใจ
“เอ็งจะรีบไปไหน?”
“ไม่ได้ๆ ข้าต้องรีบชนะ นี่เจ้าถิ่นนะโว้ย!”
ท่าทีพฤกษ์ชะงักไปเล็กน้อย
“เดี๋ยวขอไปยิงกระต่ายแป๊บนึง”
“เออ รีบๆ เข้าล่ะ”
พันดาวแอบมองการแข่งขันอยู่สักระยะ เหลือบไปโขดหินใกล้ๆ มือ เห็นกองเสื้อผ้าสองชุด ใจก็นึกถึงความแค้นทั้งสองครั้งที่มีกับ ‘เขา’ ครั้งแรกเธอก็เสียจูบอย่างไม่ตั้งใจ ครั้งที่สองก็ยังโผไปทับเขาในท่าโถมเข้ากอดทั้งตัว จนหน้าอกเบียดกับแผ่นหลังจนเธอรู้สึกได้
‘ชิ!’ แม้จะไม่ได้ตั้งใจ แต่ เธอเคืองยิ่งนัก แค้นนี้ต้องได้ระบายออกไปบ้างสิน่า!
