ตอนที่ 5
ตอนที่ 5
“เป็นไงบ้าง ไหวไหม” ผมถามคนตัวเล็กกว่าอย่างห่วงใย
“ฮื่อ...ไหว แต่พี่ช่วยหน่อยได้ไหม...หัวผมเหมือนลูกแตงโมเลย หนักชะมัด” ศรวัณเอนศีรษะบนไหล่คาย ยอมให้อีกฝ่ายโอบเอวพาเดินไปห้องน้ำ
“ก็กินอย่างกับน้ำแบบนั้น...ไม่เมาก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว” สงสัยเขินจัดที่ถูกผมหอมแก้มเอาบ่อยๆ ก็แหม...แก้มยอดรักหอมและนุ่มจะตาย
“เป็นความผิดของพี่นั่นแหละ”
‘ก็ยอดรักน่ารักและน่าแกล้งอย่างที่เพื่อนพูดจริงๆ นี่น่า’ แต่ผมไม่ได้พูดไป เพราะถึงห้องน้ำและพอดีกับที่มีคนเปิดประตูออกมา ผมจึงดันให้ศรวัณเดินเข้าไปในห้องหนึ่งและ...
“พี่จูบผมทำไม”
“ก็...ปากยอดรักดูอิ่มน่าจะรสชาติหวานดี พี่อยากรู้ ก็ต้องจูบใช่ไหมล่ะ”
ผมไม่คิดว่าการเลือกที่จะไม่ไปเที่ยวร้านประจำในค่ำคืนนี้จะนำโชคมาให้...ทำให้ได้เจอกับหนุ่มน้อยตัวเล็กหน้าใส ปากแดงที่นั่งทำท่าจ๋องๆ เซื่องๆ คนนี้
ปกติแล้วร้านธรรมดาพื้นๆ ผมกับเพื่อนๆ ไม่ค่อยมาเที่ยวกันหรอก แต่คราวนี้อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ก็เลยลองแวะดู ตอนที่เดินเข้ามาในร้าน ไอ้เหมทำหน้าสงสัยอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ถามนะ ทำเพียงเดินตามมาเงียบๆ แต่ตอนที่ผมสะดุดใจกับคนตรงหน้า ไอ้เหมที่ชอบทำหน้านิ่งราวกับหุ่นปูนปั้น ไอ้คนไม่ยุ่งเรื่องของคนอื่นกลับพูดขึ้นมา...
“สนใจ?”
ยังไงผมก็ปิดความรู้สึกและความจริงที่เกิดขึ้นกับชโนทัยไม่ได้อยู่แล้วก็เลยเลือกที่จะยอมรับ “ฮื่อ แต่ก็ยังไม่แน่ คงต้องดูไปก่อน...มึงไม่ต้องหัวเราะเลยเหม มึงเองก็สะดุดเหมือนกันไม่ใช่หรือไง” ผมถามกลับบ้าง ก็ผมยอมรับความจริงได้ง่ายๆ อยู่แล้ว แต่ชโนทัยนี่นะซิ...ไม่ใช่แค่ปากแข็ง แต่ยังหัวแข็งอีกด้วย แม้จะเจอในสิ่งที่ชื่นชอบ แต่ก็ยังลังเลและเลือกที่จะหนี
“เปล่า แค่มาดู...คนไหน แล้วจะพาเขาไปอยู่ด้วยได้ยังไง”
“เชื่อไหม จะพาไปคืนนี้เลย” ผมคารมดีอยู่แล้ว กล่อมไม่นานหรอก ได้คนที่ต้องการมาอยู่ใกล้ตัวแน่นอน
“หือ...ง่ายขนาดนั้นเชียว” ชโนทัยเลิกคิ้ว
“เชื่อมือเถอะ”
“จะคอยดู แต่ถ้าไม่ได้ละ จะให้อะไร”
“ให้ไอ้ที่อยากได้คันหนึ่ง”
“ลงทุนขนาดนั้นเลยเหรอ...ชักน่าสนใจแล้วล่ะ เอาซิ...ได้ดูคาติมาขับฟรีๆ ตั้งคัน ไม่เอาก็โง่เต็มที” ชโนทัยกลั้วหัวเราะ มองกลุ่มชายหนุ่มสามคนที่นั่งกินเหล้ากันอยู่ไม่ไกลตาวาว
“แล้ว...ตอนจูบผม พี่รู้สึกยังไงบ้าง” เออ...แล้วเขาจะถามทำไมเนี่ย ถูกผู้ชายด้วยกันจูบ มันควรจะรังเกียจและขยะแขยงไม่ใช่หรือไง แต่เขากลับรู้สึกเหมือนจะ...ชอบมัน
ผมหยุดคิดเรื่องที่คุยกับไอ้เหม หันมาสนใจชายหนุ่มหน้าใสและหอมตรงหน้า
“รู้สึกยังไงเหรอ ยังตอบไม่ได้ ถ้ายังไงคงต้องจูบอีกที ถึงจะบอกได้ ได้ไหมล่ะ” รสจูบแต่ละครั้งมันจะเหมือนกันได้ยังไง
ศรวัณทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สงสัยว่าฤทธิ์จากน้ำเมาผสมโซดาที่กินเข้าไปคงจะทำให้เพี้ยนไปแล้ว ก็เลยยกมือพาดบนบ่าคายและตอบไปว่า...
“อือ”
สิ้นเสียงตอบรับในลำคอ ผมก็รีบกดปากลงบนปากอิ่ม พลางจัดองศาใบหน้าเพื่อให้จูบคนตัวเล็กเพื่อลิ้มรสความหวานละมุนอย่างถนัดถนี่ ขณะเดียวกันก็ทำให้คนตัวเล็กเสพติดรสชาติจูบหวานๆ ที่ผมมอบให้ จะได้ยอมให้ผมจูบบ่อยๆ
นี่หรือรสชาติของการถูกจูบ...มันเร่าร้อน ดุดัน แต่ขณะเดียวกันก็แฝงความหวานละมุนเหมือนกับได้กินของที่ชอบ...ชอบมากถึงมากที่สุด จนในความรู้สึกมันบอกว่า...อยากจะถูกจูบบ่อยๆ เสียแล้วซิ
ผมขบย้ำกดจูบปากอิ่มนุ่มอย่างหนักหน่วง สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปกวาดเคล้าลิ้มรสความหวานละมุนภายในโพรงปากนุ่มสลับกวัดเกี่ยวกับลิ้นเล็กที่แรกๆ ก็ถดถอยหนี หากเมื่อถูกกระตุ้นมากๆ เข้าก็เริ่มตอบสนองกล้าๆ กลัว ๆ
“มีคนมา...ยอดรักอย่างเสียงดังนะ”
มีคนมาแล้วมันจะแปลกอะไร แล้วศรวัณก็เข้าใจเมื่อคายกดปากลงมาอีกครั้ง บดเบียดขบกัดปากและดึงปากอิ่มนุ่มเบาๆ ขณะที่มือก็เริ่มจะป้วนเปี้ยนบนเอว ดึงเอาชายเสื้อออกจากกางเกงแล้วลูบไล้สัมผัสกับผิวเนื้อไล่ไปถึงยอดอก...
เพราะถูกบอกว่าให้อยู่เงียบๆ เขาก็ต้องทำตาม แต่ใบหน้าที่คลอเคลียซอกคอ ปากที่ขบกัดผิวเนื้อจนรู้สึกเจ็บจี๊ดผสมกับความรู้สึกเสียววาบๆ จนท้องไส้ปั่นป่วนทำให้ผมต้องรีบยกมือปิดปากเอาไว้อย่างเร็ว
“คนที่เข้ามา...คงไปแล้ว พี่...พี่หยุดจูบผมก่อนได้ไหม”
“ทำไมละ ไม่ชอบให้พี่จูบ...ไม่ชอบที่ถูกจูบเหรอ” ผมเลิกคิ้วขึ้น มันอยากรู้จริงๆ ศรวัณจะตอบมายังไง
“เปล่าๆ เปล่าครับ คือผมรู้สึกแปลกๆ และตอนนี้ก็...ปวดฉี่ด้วย”
ผมหัวเราะกลั้วคอ “อือ...เอาไว้เราไปต่อกันที่บ้านพี่นะ...ยอดรัก”
อีกครั้ง จึงได้ปล่อยให้ศรวัณได้ทำกิจกรรมส่วนตัวของตัวเอง ก่อนจะประคองร่างเล็กบางเดินออกจากห้องน้ำ ที่นั่นผมได้เห็นเพื่อนกำลังถูกรุมกินโต๊ะ ไม่ได้อยากจะร่วมวงอะไร เพราะรู้ว่าแค่นี้ไม่พอมือชโนทัย แต่เพราะคนในอ้อมแขนผมโดนด้วย ผมเลยยอมไม่ได้ ต้องจัดให้หนัก ก่อนจะถือโอกาสพาศรวัณเลี่ยงกลับมาบ้านแทน...
“ให้ช่วยถูกหลังไหมยอดรัก” ผมตะโกนถามคนในห้องน้ำที่คงจะต้องครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ระหว่างตัวเองและเขา...จนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่แน่ๆ
“ไม่...ไม่ต้องโว้ย”
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบๆ เข้าหน่อย ป่านนี้เพื่อนยอดรักคงจะรอแย่แล้ว เดี๋ยวเกิดเจอกับไอ้ทีโลเข้าจะแย่เอา”
ใครวะ ‘ทีโล’ ชื่อแปลกฉิบหาย แต่...ช่างแม่งเหอะ ตอนนี้เขาควรรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนไอ้พี่คายจะเข้ามาช่วยอาบน้ำให้ เพราะมันจะกลายเป็นเรื่องอื่นแน่ๆ
“อาบเสร็จแล้วเหรอ พี่กำลังคิดว่าจะเข้าไปช่วยยอดรักถูหลังอยู่เลย”
“ผมยังจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ไม่หมด แต่มีอย่างหนึ่งที่พอจะแน่ใจได้ พี่คงเข้าใจอะไรผมผิดๆ ไปแน่”
แม่งเอ๊ย! ขนาดทำหน้าสงสัยยังจะหล่อเลย ทำบุญด้วยอะไรมาวะ
“ยอดรักคิดว่าพี่เข้าใจผิดเรื่องอะไร”
“คือ...” ผมกลืนน้ำลายลงคอ อายจนพูดเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ออก “ก็เรื่องที่เพื่อนผมพูด...เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราเมื่อคืนนี้ไง”
“ยอดรักยังจำไม่ได้ แล้วจะรู้ได้ยังไง มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราบ้าง” คายถามคนที่อายจนต้องรีบเลี่ยงไปหยิบเสื้อผ้าไปใส่อย่างระมัดระวังตัว มันชวนให้เขาอยากที่จะแกล้ง...
“เฮ้ย!” จะไม่ให้ผมอึ้ง...ได้ยังไง ก็อยู่ดี ร่างใหญ่ๆ น้ำหนักก็ไม่น้อยอย่างผมลอยไปอยู่บนเตียงโดยมีไอ้พี่คายอยู่ข้างบนอย่างง่ายดาย...อย่างกับกระดาษปลิวไปกับลม
ตาจ้องตา...ที่ทำให้ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง...แม้จะหลบสายตาแล้ว แต่ใบหน้าพี่คายก็ยังคงอยู่ในสายตา...
