
จับนายไว้ในอ้อมกอดฉัน
บทย่อ
ผมยอมรับอย่างหน้าไม่อายเลยครับว่าเป็นคนโง่ ไม่ใช่แค่โง่ธรรมดานะครับ แต่โง่มาก ถึงได้ถูกพี่คายหลอกให้มาอยู่ด้วย แต่แล้วเป็นไงล่ะ ในที่สุดพี่มันก็ตกหลุมผมจนได้ คงต้องมาลุ้นกันแหละว่าพี่มันตกหลุมผมอิท่าไหนเข้า ถึงได้ไปไหนไม่รอด... น้องชอบคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรดี ไม่ได้เป็นคนน่าสนใจ แต่เพราะน้องเป็นแบบนี้ เขาถึงได้คิดว่าตัวเองโชคดีที่สามารถดึงน้องมาอยู่ในชีวิต “รู้ไหมว่า...เรานะผอมไป อ้วนกว่านี้สักหน่อย พี่จะได้กอดแบบเต็มไม้เต็มมือ” ผมทอดสายตาเว้าวอนเรียกร้องมองริมฝีปากยอดรักก่อนจะไล่ขึ้นไปถึงดวงตา ได้เห็นแก้มนิ่มๆ ของน้องแดงระเรื่อแล้วอยากจับฟัดรัดกอดให้หนำใจ อา...เขาถึงได้บอกว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า แต่เหนือยอดรักก็คือพี่คาย “กิน...กินเข้าไปเลย” ยอดรักกลบความเขินอายด้วยการยื่นข้าวโพดปิ้งกะทิไปที่ปากคาย “ปากจะได้ไม่ว่าง” ฮึ! ดีใจมากเลยใช่ไหมที่ทำให้เขาอายได้นะ ชิ...ยอดรักยื่นปากจู๋และย่นจมูกเล็กน้อย “พี่ว่า...พี่กินหลังยอดรักดีกว่านะ จะได้แบบว่า...จูบกับยอดรักทางอ้อมไง”
ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
อืม...สบายจังเลย เตียงนอนวันนี้ทั้งนุ่มทั้งหอม สบายจนไม่อยากตื่นเลย แต่...
เตียงนอนนุ่ม...ผ้าห่มก็อุ่นและมีกลิ่นหอมด้วย อยากหลับไปยาวๆ เลย แต่...ในความรู้สึกมันบ่งบอกว่ามีอะไรผิดปกติ ก็ห้องที่ผมพักอยู่มันแคบ ไหนจะกลิ่นอับชื้น เสียงจ้อกแจ้กจอแจที่ดังรบกวนอยู่ตลอดเวลา แต่ที่นอนหลับเพราะเหนื่อยจากการทำงานและร่างกายต้องการพักผ่อน
ความรู้สึกมันบอกว่า...ผมไม่ได้อยู่ห้องที่ตัวเองเช่า!
ผมลืมตาตื่นทันควัน สิ่งที่ได้เห็น...
โคมไฟ...แชนเดอร์เลียเหมือนที่เห็นในหนังในละคร เปิดไฟสีเหลืองนวลตารับกับเพดานสีออกเหลืองจางๆ ด้านบน
ที่นี่มันที่ไหนวะ? ไม่ใช่ห้องที่ผมเช่าอยู่นี่น่า แล้วผมอยู่ที่ไหน?
ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน ขณะคิดทบทวนถึงเรื่องก่อนที่ตัวเองจะมาอยู่ที่นี่...
เมื่อคืนผม...ไอกันต์และไอ้พิชญ์ไปฉลองที่สอบเข้ามหาลัยที่เดียวกัน แม้จะคณะเดียวกันแต่คนละสาขาก็เถอะ ก็เลยนัดกันไปฉลองนิดหน่อย ผมเผลอกินเหล้าไป...นิดหน่อย เออ...ยอมรับก็ได้ว่าไม่หน่อยหรอก หลายแก้วอยู่เหมือนกัน ผมเลยเมา...แล้วหลังจากนั้นล่ะ มันเกิดอะไรขึ้นต่อ...
ทำไมถึงจำไม่ได้วะ โอ๊ย! ปวดหัวฉิบหายเลย ผมยกมือจับขมับก่อนจะเลื่อนมาที่คอแห้งผากจนกลืนน้ำลายแทบไม่ลง มีอาการเจ็บคอนิดๆ ด้วย ถ้าได้น้ำสักแก้วคงจะดี แต่...ทำไมถึงลุกไม่ขึ้น อะไรบางอย่างหนักๆ ทับอยู่บนตัว
นอนบ้านใครอยู่ก็ไม่รู้ จังจะโดนผีอำอีก...ไม่ใช่โว้ย เช้าแล้วผีที่ไหนจะมาอำ ถ้าอย่างนั้นแล้วมันคืออะไร?
ลมอุ่นๆ ที่เป่ารดข้างแก้ม ทำให้ผมต้องรีบเหลียวไปมอง
เฮ้ย!
ตาเหลือกซิครับงานนี้...
ใครวะนี่...กูมานอนอยู่กับใครวะนี่ โอ๊ย! กูตายแน่งานนี้ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ใครก็ได้ช่วยบอกกระผมที...
ผมยกมือตบหน้าผากไปหลายหน...ก่อนจะโล่งใจเมื่อคนใกล้ตัวที่กอดอยู่ยังไม่ตื่น
ผมควรจะ...จรลีหนีก่อนที่ไอ้บ้าที่นอนกอดอย่างกับผมเป็นหมอนข้างชั้นดีตื่น เพราะดูถ้าเรื่องมันคงจะไม่จบง่ายๆ แน่ แต่ไม่ทันแล้ว…
ตายแน่กู!
“ตื่นแล้วเหรอ...เป็นยังไง เจ็บตรงไหนบ้าง”
ผมรีบปัดมือที่จับข้างปากที่รู้สึกเจ็บแทบไม่ทัน ที่มันทำให้พอจะนึกขึ้นมาได้ว่า...เมื่อคืนโดนต่อยมา
เออ...แล้วมีเรื่องอะไร ทำไมถึงได้โดนต่อยวะ?
ทำไมเมื่อคืนมันมีเรื่องมากมายจัง แล้วทำไมถึงได้นึกออกทีละนิดๆ แบบนี้ด้วย...มึนโว้ย!
“ไม่...ไม่เจ็บ นาย...นายเป็นใคร”
“อืม...แสดงว่าอาการดีขึ้นบ้างแล้วจริงๆ แต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้ ยังไงก็ต้องให้หมอดูก่อน เผื่อเป็นอะไรมาก จะได้รักษาทันท่วงที”
หาหมอ! เฮ้ย! ทำไมต้องหาหมอด้วยวะ ผมเป็นไรมากขนาดไหนวะนี่? แต่...ยกแขนยกขาแล้วก็ไม่เห็นเจ็บตรงไหนเลย ยกเว้นที่มุมปากเท่านั้น
“ไม่...ได้เป็นอะไรสักหน่อย ไม่ต้องไปหาหมอ เอาแขนออกไปด้วย หนักฉิบหายเลย”
“หน้าตายังซีดอยู่เลย”
ไอ้เชี่ยนี่เป็นใครวะ ไม่ฟังผมพูดบ้างเลย ว่าแต่...ทำไมไอ้เชี่ยนี่ถึงได้ถอดเสื้อด้วยและผมก็มองมันตาค้าง เมื่อได้เห็นกล้ามเนื้อแน่นเป็นมัดๆ six pack...seven pack ที่ผมพยายามแทบตายแต่ไม่เคยมี มีแต่พุงกลมๆ อย่างกับพุงหมู แต่ของคนตรงหน้า...โอ๊ย! ถึงผมเป็นผู้ชาย ก็ยังอดมองไม่ได้ ใจสั่นด้วย แม่ง...เวลายิ้มก็ดูหล่อจนใจละลาย แล้วผมจะยิ้มตามทำไมวะนี่
หยุด! ตอนนี้ผมจะต้องรีบกลับบ้านโดยด่วน ถ้าจ่ายค่าเช่าห้องไม่ทันในวันนี้ ผมได้โดนไล่ออกจากห้องเช่า ได้นอนข้างถนนแน่นอน…
โอ๊ย! ตายแน่เลย เมาแล้วลืมทุกอย่างแบบนี้ ต่อไปจะไม่เมาอีกเด็ดขาด
“ไม่เป็นไรแล้ว จะรีบกลับบ้าน” เพราะรีบลุกจนเกินไป ผลก็เลยท้องไส้ปั่นป่วน ขมคอเหมือนจะอ้วก แถมยังจะเวียนศีรษะจนต้องหลับตาลงอีกครั้ง ว่าแต่ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ล่ะ ปกติผมเป็นคนแข็งแรงออกจะตาย แทบไม่เคยป่วยเลย แต่วันนี้แค่เคลื่อนไหวหน่อยเดียวเอง กลับมึนจนต้องรีบหลับตา
“จะรีบลุกไปไหน เรานี่ดื้อจริง”
อ้าว...แล้วใครจะไปรู้ล่ะว่าตัวเองจะอ่อนแอได้ขนาดนี้ แต่...
“ไม่ได้...ต้องรีบกลับบ้าน” ผมตวาดใส่ไอ้เสียงนุ่มที่คอยแต่ปลอบโยนไม่หยุด ที่มันทำให้ผมรู้สึก อุ่นใจชะมัด เฮ้ย! ไม่ได้ๆ ผมจะมาหวั่นไหวเพราะเสียงนุ่มๆ ของใครก็ไม่รู้ที่เพิ่งจะเจอหน้ากันแบบนี้ได้ยังไง ไม่ได้ๆ
“ถ้าไม่เชื่อฟัง...ได้เจอดีแน่”
อ้าว...เล่นขู่กันแบบนี้ก็สวยซิ ผมรีบยันตัวลุกขึ้น แต่...โอ๊ย! เป็นบ้าอะไรไปวะนี่ ทำไมถึงได้มึนหัวแบบนี้
“ก็บอกแล้วว่าไม่สบายอยู่ ไม่ยอมเชื่อกันเลย...ถ้าอย่างนั้นกินอะไรก่อนนะ จะได้พักผ่อน”
“ไม่! จะรีบกลับบ้าน” ไอ้เชี่ยนี่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงวะนี่
“ถ้าไม่เชื่อฟัง...”
ผมตาเหลือก เมื่ออยู่ดีๆ ไอ้เชี่ยที่ผมยังไม่รู้จักชื่อก็ก้าวขึ้นคร่อมพร้อมจับต้นไหล่เอาไว้ ใบหน้าหล่อเข้มแต้มด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ผมถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองสบตาผมไล่ลงมามองปาก ที่ทำให้ผมคิดถึงจูบ...รสของจูบที่มันคุ้นๆ ว่าได้ลิ้มลอง กลิ่นอายความหวานยังคงอบอวลอยู่ในอุ้งปาก
เฮ้ย! เชี่ยแล้ว ผมไปคิดเรื่องบ้าอะไรอยู่วะเนี่ย
“เออ...ยอมก็ได้” ผมกัดฟันพูด มองไอ้เชี่ยที่ไม่รู้จักตาขุ่นเขียว ถ้ามีแรงสักหน่อย ผมต่อยไอ้เชี่ยนี่คว่ำไปแล้ว แต่ไม่รู้เป็นบ้าอะไร เหนื่อยและเพลียอย่างกับไปแบกปูนมาสักห้าสิบกระสอบอย่างนั้นแหละ
“พูดง่ายๆ อย่างนี้ซิ น่ารัก...นายคงจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราไปด้วย ถ้าอย่างนั้นเราก็มาทำความรู้จักกันใหม่ นายเรียกฉันว่า ‘พี่คาย’ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะ ‘ยอดรัก’”
ผมได้แต่อ้าปากค้าง กลืนคำพูด ‘ไม่ยินดีที่ได้รู้จัก’ หายไปในลำคอ เพราะในหัวก็มีแต่คำว่า ‘เรื่องระหว่างเรา’ ดังก้องหู ไหนจะสายตาร้อนแรงแกมอบอุ่นนั่นอีกล่ะ ทำเอาผมถึงกับอายจนแก้มร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลย ฮื้อ...ไปไม่เป็นเลยผม
“เอาไว้ค่อยคุยกันตอนที่นายตื่นเต็มตาละกัน...ตอนนี้กินอะไรก่อน แล้วค่อยนอนต่ออีกสักพัก”
ผมได้แต่มองไอ้คนที่สั่งให้ผมเรียกว่า ‘พี่คาย’ ที่สั่งการผ่านโทรศัพท์ที่ตรงหัวเตียงอย่างงุนงงแกมไม่พอใจ แต่ก็พูดอะไรไม่ออก เพราะตอนนี้มีผู้ชายคนหนึ่งนำเอาอาหารหน้าตาแปลกๆ แต่ส่งกลิ่นหอมเสียจนท้องไส้ผมปั่นป่วน มันเหมือนกับผมอดอาหารมาเป็นวันๆ เลย
“กินซิ...หิวมากไม่ใช่หรือไง”
จะบอกว่าไม่ แต่...ผมกลับต้องอายจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เพราะท้องที่มันส่งเสียงร้องไม่หยุด
“ขอบใจ” นาทีนี้ผมต้องเก็บความอายไปก่อน รับเอาอาหารที่หน้าตาแปลกๆ แต่กลิ่นหอมจนน้ำลายสอมากินอย่างรวดเร็ว หลังจากท้องอิ่มและได้นอนหลับอีกสักงีบ ตื่นมาอะไรๆ คงจะดีขึ้น แต่...จะนอนหลับได้ยังไง ถ้ายังมีไอ้ ‘พี่คาย’ อยู่ใกล้ๆ แบบนี้
“ไหนว่าจะนอนไง ทำไมถึงยังลืมตาอยู่ละ”
