บท
ตั้งค่า

ตอนที่3. ประหนึ่งเป็นลูกในไส้

“เอาเถิด อยู่ไปนานๆ ก็คุ้นชินไปเอง” หลินเหิงอี้แหงนหน้าหัวเราะ “ลุงไม่ให้อยู่ว่างเป็นแน่”

“หากมีสิ่งใดที่หลานทำได้ หลานยินดีทำให้เจ้าค่ะ” นางหัวเราะคิกคัก แม้ไม่ได้พบกันบ่อยนัก แต่เมื่อครั้งที่ยังเด็ก นางจำได้ว่าหลินเหิงอี้เอ็นดูนางมาก เคยอุ้มนางดูโคมไฟ ตามใจนางประหนึ่งเป็นลูกในไส้ก็ว่าได้ บิดาไม่ห้ามปรามด้วยเข้าใจว่าหลินเหิงอี้เห็นนางเป็นเหมือนลูกจริงๆ เพราะหลินเหิงอี้เสียทั้งภรรยาและลูกไปก่อนที่นางจะเกิดแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น

หลินเหิงอี้หัวเราะอารมณ์ดีซึ่งไม่ค่อยมีใครได้เห็นเขาเป็นแบบนี้นัก อาจเป็นเพราะได้อยู่กับหลานรักก็เป็นได้ เขาพานางเดินเข้ามาในบ้านพักของตน เรือนหลังขนาดกำลังดีไม่ใหญ่โตเกินไป มีบ่าวรับใช้อยู่ประมาณยี่สิบคน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่เก็บสินค้าที่ซื้อมาเพื่อนำไปขายต่ออีกเมือง

“ท่านปู่ท่านย่าฝากยาสมุนไพรมาให้ท่านลุงไว้บำรุงร่างกายด้วยเจ้าค่ะ” แม้นางจะไม่สนิทสนมกับท่านปูและท่านย่า แต่ก็ไปมาหาสู่กันสม่ำเสมอ

“เหตุใดไม่เก็บไว้เองหนอ” หลินเหิงอี้โคลงศีรษะไปมา เขาเป็นลูกชายคนโตแต่ไม่ได้อยู่ดูแลบิดามารดา ต้องให้น้องชายคนรองรับผิดชอบหน้าที่นี้

“ท่านปู่กับท่านย่าเป็นห่วงท่านลุงนี่เจ้าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงสดใส “ท่านลุงไม่มีผู้ใดดูแลข้างกาย เอ๊ะ! หรือจะมี?”

ด้วยความสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก หลินอวี้เจินจึงกล้าหยอกล้อ ยังไม่ทันที่หลินเหิงอี้จะเอ่ยตอบอะไร หญิงสาววัยประมาณยี่สิบปีก็เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ

“อาหารเตรียมพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”

หลิวเหิงอี้พยักหน้ารับ “หลานอยากกินข้าวก่อนไหม หรืออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดี”

หลิวอวี้เจินสบตากับหญิงสาวเบื้องหน้า นางแต่งกายเรียบง่าย ใบหน้าแต้มแต่งสีสันบางๆ แลดูสุภาพเรียบร้อย แล้วนางก็กลอกตามองทางท่านลุงที่ยืนรอคำตอบของนางอยู่ แม้นางไม่เอ่ยปากถามอะไร แต่กลับรู้ได้ว่าหลานสาวสงสัยเรื่องใดอยู่

“บ่าวชื่อหวังหมิ่นเจ้าค่ะ หากคุณหนูหลิวอวี้เจินมีสิ่งใดต้องการสามารถเรียกใช้บ่าวได้”

“ไม่ต้องเรียกข้าคุณหนูหรอก” นางโบกไม้โบกมือไปมา “หากท่านลุงไม่ถือสา หลานอยากอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเจ้าค่ะ”

“เอาเถิด เราอยู่กันเอง ลุงไม่เคร่งครัดอะไร”

หลินเหิงอี้มองหลานสาวเต็มตาอีกครั้ง เด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่เคยอุ้มหยอกล้อนั้น บัดนี้กลายเป็นสาวงามไม่น้อย หลินยี่ห้านแทบไม่เคยขอความช่วยเหลือใดๆ จากเขาเลย จนกระทั้งมีจดหมายเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เดิมเขาเองก็ไม่ค่อยชอบคู่หมั้นของหลินอวี้เจินนัก เป็นผู้ชายที่ดูเหลาะแหละมากกว่าที่จะเป็นผู้นำครอบครัวได้ แต่เมื่อหลานสาวรักใคร่ชอบพอและหลินยี่ห้านเห็นเหมาะสม เขาเป็นแค่ลุงจึงไม่ได้คัดค้าน แต่สุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นมาจนได้

“เช่นนั้นหลานพักผ่อนก่อนเถิด” หลินเหิงอี้พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต “ลุงต้องเตรียมหาของขวัญไปมอบให้ท่านเจ้าเมือง”

“ท่านลุงสนิทสนมกับท่านเจ้าเมืองด้วยหรือเจ้าคะ”

นางอดประหลาดใจไม่ได้ ต้นตระกูลของนางเป็นชาวนา มีท่านลุงใหญ่บุกเบิกทำการค้า แต่จากที่บิดาเล่าให้นางฟัง รุ่นหลานอย่างนางถือว่าเกิดมาไม่ต้องพบความยากลำบากเพราะท่านลุงหลินเหิงอี้

“อีกสองวันวันเกิดท่านเจ้าเมือง” หลินเหิงอี้อธิบาย “ใต้เท้ากัวจื่อหราน อายุเพียงยี่สิบห้า แต่ผลงานมากมายนัก ที่นี่เคยประสบปัญหาโจรดักปล้นสินค้าบ่อยครั้ง ใต้เท้ากัวนำทหารไม่กี่ร้อยนายกวาดล้างจนสงบ ทำให้ชาวเมืองไม่ต้องอยู่อย่างอกสั่นขวัญแขวน ลุงเองแม้เป็นคนต่างถิ่นแต่อยู่ที่นี่มาหลายปี อย่างไรก็ควรมีของขวัญไปคารวะใต้เท้ากัว”

“ใต้เท้ากัวจื่อหราน” หลินอวี้เจินทวนคำ

“อืม หล่อเหลางามสง่า ยิ่งอยู่บนหลังอาชาองอาจดุจแม่ทัพใหญ่เชียวล่ะ”

หลินเหิงอี้ลอบมองหลานสาวแล้วกระตุกยิ้ม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel