10 | ไม่มีสิทธิ์
“รักงั้นเหรอ หึ…เซ็กส์เพียงข้ามคืนวันไนท์แสตน”รอยยิ้มเหยียดของเธอชั่งทำให้เขาอยากจะฆ่าเด็กสาวให้ตายนัก ยุทธภพเข้าประกบร่างแน่งน้อยทุ่มเจ้าหล่อนลงบนที่นอนนุ่มอย่างแรง
“รู้หรือเปล่าว่ากำลังทำร้ายหัวใจของพี่อยู่!”น้ำเสียงกดลงต่ำพาร่างกายบึกบึนขึ้นคร่อมเจ้าหล่อนไว้ สองสายตาสบเข้าหากันแต่คนละความหมาย เธอมองเขาเพียงคนที่สอนเรื่องในเชิงชู้สาวให้ครั้งแรกทว่าชายหนุ่มมองเด็กสาวเป็นรักแรกพบ
“….”
“อย่าคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคือความผิดพลาดเพราะพี่ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นเอง…”พาทีโน้มหน้าลงต่ำหมายจะมอบจุมพิตแสนอ่อนหวานให้เธอ ทว่าเจ้าหล่อนกับเบือนหน้าหนี ลมหายใจถูกพ่นออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายใช้กำลังบังคับโดยการช้อนดวงหน้างามให้หันกลับมาเผชิญหน้า
“อืม….”ริมฝีปากบางถูกครอบครองบดขยี้ลิ้นสากปาดป่ายไปมาอย่างยั่วเย้า คางสวยถูกบีบเข้าหาให้ยอมเปิดปากรับจูบของเขา ความไร้เดียงสาที่ถูกปรนเปรอทั้งอกอวบถูกฟ้อนเฟ้นผ่านเนื้อผ้าบางกางกั้น
“อ่า~ เด็กน้อย…รู้ไหมว่ากำลังจะฆ่าพี่”ความหอมหวานในความสดใหม่ทำให้หัวใจหนุ่มกระชุ่มกระชวยลิ้นหนาตวัดไปมาพัวพันลิ้นเล็กที่เขาหลอกล่อให้เจ้าหล่อนโอนอ่อน
“ยะ…อย่า อ๊ะ!...ตรงนั้นมะ…มัน อู้ว!!!”ฝ่ามือร้อนลูบไล้เนินสามเหลี่ยมหนักสลับเบา เขากำลังทำให้สมองและร่างกายของเธอสับสนงุนงงไปหมด ทว่าเมื่อชายหนุ่มจูบต่ำมายังเนินอกสล้างที่โผล่พ้นเสื้อตัวสวยที่สวมใส่กชกรจึงดึงสติของตนกลับมาได้อีกครั้ง
“ออกไป!”หญิงสาวผลักไสร่างใหญ่โตให้ออกห่างรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีเพื่อดันเขาให้ผละหนี ชายหนุ่มจำยอมลุกจากเจ้าหล่อนแต่โดยดีลมหายใจถูกพ่นอย่างหนักระบายอารมณ์ร้อนที่กำลังปะทุ
“พี่น่ารังเกียจมากเหรอ!”
“ทีเมื่อก่อนพี่พาทียังทำท่าทีรังเกียจดิวเลย….”เธอตอกกลับจนเขาแทบหน้าหงายหลังเพียงถ้อยคำของเด็กสาวที่เปล่งออกมา ยุทธภพค่อยๆ โอบกอดหญิงสาวจากทางด้านหลังดึงร่างแน่งน้อยให้แนบชิดมากขึ้น
“พี่ขอโทษนะ เมื่อก่อนกับตอนนี้มันต่างกันที่รักตอนนั้นพี่ไม่รู้ว่าหนูเป็นคนยังไง”กระซิบบอกแผ่วเบาที่ข้างกกหูกดปลายจมูกหอมแก้มฟอดใหญ่กอดกระชับเอวบอบบางให้แนบชิดกับร่างกายเขามากขึ้น
“ตอนนี้พี่รู้จักหนูดีแค่ไหนกัน!”กชกรถามกลับเอี้ยวหน้ามองชายหนุ่มเล็กน้อย นัยน์แววตากชกรสั่นระริกสับสนงุนงงกับความอ่อนโยนที่ยุทธภพมอบให้ ศีรษะทุยเล็กพิงลงบนแผ่นอกกำยำก่อนที่เขาจะลูบหัวเธอเบาๆ
“พี่รู้จักหนูดิวไม่มากพอแต่พี่รักหนูมากที่สุดรู้บ้างไหม!”
“…..”
“รู้หรือเปล่าว่าผู้ชายปากร้ายคนนี้แอบมองหนูดิวทุกอกัปกิริยาเลยนะ อยู่ด้วยกันได้ไหมลองคบกันได้หรือเปล่า…”นั่นเป็นคำพูดที่ผู้ชายปากร้ายคนนึงที่ไม่เคยเอือนเอ่ยกับใครมาก่อน ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีคู่ใจแต่ทว่าไปกันไม่รอด เขารักใครรักจริงหากแม้จะยอมสละทุกอย่างก็ยอมได้เพื่อผู้หญิงที่ตนรัก
“ดิวอยากให้มันเป็นเพียงความหลงใหลเท่านั้นเอง อีกอย่างพี่พาทีก็มีดีหลายอย่างต่างจากดิวที่ไม่มีอะไรเลย”ใช่ที่สุดในความคิดของเธอ หนุ่มนักดนตรีสุดฮอตที่สาวๆ ต่างหลงใหลคลั่งไคล้ในความหล่อของเขา เธอเองก็เคยเห็นเขาในสถานบันเทิงต่างๆก่อนหน้านี้แถมดีกรีของพี่พาทียังเป็นนายแบบติดชาร์จประจำปีนี้อีกต่างหาก
“ขอโทษนะคนดีที่วันนั้นไม่รู้จักหนูดิวพอ…”มีเพียงคำขอโทษเท่านั้นร่างเล็กถูกยกขึ้นนั่งทับบนหน้าตักแกร่งโดยชายหนุ่มจับเธอหันหน้าเข้าหาเขาวงแขนโอบกอดเอวคอดกิ่วไว้แน่น
“เข้ามามีส่วนในชีวิตพี่นะหนูดิว”
“หนูดิวขอไม่ตอบตอนนี้ได้ไหมยังมีอะไรหลายอย่างที่ยังทำให้หนูสับสน”
“โอเคพี่ยังไงก็ได้!”เขาปัดปัญหาโดยการตอบตกลงรู้เพียงว่านับจากนี้เธอคือทุกอย่างในชีวิตตนเท่านั้น เขาจะครอบครองเจ้าหล่อนเพียงคนเดียวไม่ให้ใครได้เชยชมเธอเป็นอันขาด
“ค่ะ! งั้นดิวออกไปข้างนอกนะ”ว่าพลางลุกจากตักชายหนุ่มอย่างรวดเร็วคว้าเสื้อผ้าของตนอย่างว่องไวไม่สนใจเสียงคัดค้านของชายหนุ่มที่ดังมาเป็นระยะ ทว่าไม่สามารถมีอะไรมาหยุดเธอได้เลย ร่างบางเดินมาหยิบคีย์การ์ดคอนโดที่วางที่มุมหัวเตียงประทับจูบหนึ่งครั้งส่งยิ้มละลายใจไปให้ชายหนุ่มที่หายใจฟึดฟัดด้วยความไม่พอใจ
“ไปไหนก็รีบกลับล่ะอย่าดึกมากพี่น่าจะกลับเกือบเช้าแหละ”เพราะงานของเขามันต้องถ่ายแบบตลอดทั้งวันแถมตอนห้าทุ่มยังต้องไปเล่นดนตรีตามที่ต่างๆ ยันตีสาม เขาได้แต่ถอนหายใจด้วยความเป็นห่วงเป็นใยในเมียตัวน้อย ดูเจ้าหล่อนแต่งตัวสิอวดนู้นโชว์นี่เสียจนคนมองต้องแทบแดดิ้นตาย
“…..”ไม่มีคำตอบใดๆ เปล่งออกมาได้ยินเพียงเสียงปิดประตูห้องเท่านั้นเพียงแค่เธอหันหลังออกจากห้องไปหัวใจก็กระตุกวูบไหวเต้นระส่ำนี่ละน่าเด็กน้อยทำไมเอาแต่ใจไม่ฟังใครเลยนะ
02.39 นาที
สถานบันเทิงในย่านกลางกรุงแสงสีหลากหลายตกกระทบสาดส่องขวักไขว่ไปมา เพลงสากลยอดฮิตดังกระหึ่มกึกก้อง กชกรและเมวีญากำลังวาดลวดลายภายใต้แสงสีวิไล เชื่อเลยสิว่านี่คือชีวิตในวัยสาวของพวกเธอ สองสาวสุดแซ่บที่มีบุคลิกแตกต่างกันทว่าแต่ละคนกับมีจุดเด่นของตัวเอง
“ยัยดิวพี่ตี้โทรตามแล้วอ่ะ…”เมวีญามองหน้าจอสมาร์ทที่โชว์ชื่อแฟนหนุ่มของตน ก่อนจะกระซิบบอกเพื่อนสาวข้างหู เธอขอปาร์ตี้ออกมาเที่ยวและบอกจะกลับเที่ยงคืนแต่นี่ไม่กี่ชั่วโมงจะรุ่งสางแล้ว
“ดื่มอีกแก้วสิมันจะหมดแล้วเนี่ย!”เสียงอ้อแอ้ของกชกรตอบก่อนจะยกขวดเหล้าขึ้นมองปริมาณของมัน นี่ไม่ใช่ขวดแรกทว่ากินกันสองคนคนละขวดพอดีสรุปวันนี้เปิดบิลเหล้าไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
“พี่พาทีไม่ตามบ้างหรือไงย่ะ”แขวะเพื่อนสาวของตนที่เธอก็เพิ่งมารู้เอาวันนี้นี่เองว่าพาทีน้องชายฝาแฝดของปาร์ตี้ขอกชกรเป็นแฟนแต่เธอรู้นิสัยของเพื่อนรักดีว่ารักสนุกมากกว่าจะผูกพันธะกับใคร
“โทรมาแล้วแต่ไม่ได้รับอ่ะ….”
“เชื่อฉันไหมไม่เกินสิบนาทีพี่พาทีต้องหาแกเจอแน่ๆ”เชื่อเถอะน่าขนาดตอนที่เธอหนีปาร์ตี้เที่ยวพี่พาทียังพาตามหาจนเจอและดูจากสถานการณ์ หนุ่มนักดนตรีอย่างเขาคงไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะตามหาแฟนสาวคนหนึ่งผ่านทางผับที่ลูกค้าต้องใช้บัตรประชาชนเข้าเช็คอินและเปิดเหล้า
“หนูดิวทำไมไม่กลับบ้าน…”เสียงนั่นทำไมมันชั่งประจวบเหมาะกับตอนที่เมวีญาพูดจบประโยคพอดี แล้วเสียงเพลงของดีเจก็ชั่งเป็นใจเบาลงราวกับว่าสั่งได้ กชกรปรือตามองเขาร่างเล็กโอนเอนไปมาในขณะที่เมวีญาก้มหน้างุดกระดกเหล้าในแก้วต่อไป
“ไงจ๊ะทูนหัวไหนบอกผัวว่าเที่ยงคืน!”
“พี่ตี้ขา…หนูเมย์นั่งเพลินกลับบ้านกันนะคะ”เมวีญายิ้มหวานมองหน้าชายคนรักที่จ้องมองเธอตาเขม็ง เมียตัวน้อยออดอ้อนถูใบหน้าไปตามต้นแขนล่ำเอาสิแพ้ลูกอ้อนของสาวน้อยจอมเจ้าเล่ห์อีกแล้ว
“กลับพร้อมกันหมดนี่แหละ!”เสียงของพี่ชายฝาแฝดของเขาดังขึ้นเพราะวันนี้ทั้งคู่นั่งรอเมียของตนกลับมา ทว่าเมื่อไม่เห็นแม้แต่เงาจึงรวบตัวกันตามหาหญิงสาวทั้งสองคน
“สนุกมากเลยสินะผู้ชายคนนึงก็ได้แต่รอว่าเมื่อไหร่จะกลับบ้านสักที”ยุทธภพพูดพลางมองกชกรที่จ้องมองมายังไงอย่างไร้ความรู้สึกใดๆ
“มีสิทธิ์อะไรมาสั่งค่ะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน!”เข้าแทบทรุดลงกับพื้น หัวใจอ่อนยวบถึงตาตุ่มความเป็นห่วงกลับกลายเป็นสิทธิ์งั้นหรือหากเป็นเช่นนั้นจริงขอใช้สิทธิ์ความเป็นผัวได้ไหมที่จะปราบพยศแม่จอมแก่น
