8
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ
ขณะที่ดารินกำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่ๆ ก็มีสายเรียกเข้าดังขึ้น แวบเเรกเธอนึกว่าเป็นโจเซฟ แต่พอดูที่หน้าจอกลับเป็นสายเรียกเข้าของเพื่อนสาว จึงรีบกดรับ
[ว่าไงริน สรุปได้ออกเดตกับคุณโจเซฟหรือยัง?] ปลายสายเอ่ยถามเสียงสดใส
[คืนนี้ที่ห้องอาหารของโรงแรมร็อฟเวลล์] ดารินบอกอย่างเต็มไปด้วยความสุข
[อุ๊ย! ดีใจด้วยนะ อย่าลืมถ่ายรูปส่งเข้ามาในไลน์กลุ่มล่ะ]
[รู้แล้วน่า แค่นี้ก่อนนะ] ดารินตอบก่อนจะกดตัดสายเพื่อนสาว
คอนโดของดีน่า...
“รินว่าไงบ้างแก” เมรีเอ่ยถามเพื่อนสาวอย่างอยากรู้ความคืบหน้า
“บอกว่าคืนนี้มีนัดกับคุณโจเซฟที่ห้องอาหารของโรงแรมร็อฟเวลล์” ดีน่าบอกด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ
“ฉันไม่เชื่อหรอก ดูอย่างวันก่อนบอกว่าจะส่งรูปสายเรียกเข้าของคุณโจเซฟมาให้ ก็ไม่ยอมส่ง” เมรีบอกพลางยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้น พร้อมกับเบ้ปากนิดๆ
“นางดูมั่นใจมากนะ ว่าทางนั้นเขาจะแล” นิสาออกความเห็น
“ก็ไม่แปลกนะ ปกติรินมีแต่ผู้ชายวิ่งตาม” ดีน่าเอ่ยตามตรง
“ภาวนาขอให้ทุกอย่างไม่สำเร็จทีเถอะ พวกเราจะได้คนละแสน” เมรีบอกเรื่องที่แอบหวังเอาไว้
“นั่นสิ ลำพังทุกวันนี้ก็อิจฉานางจะแย่อยู่แล้ว หากนางได้คุณโจเซฟเป็นแฟนจริงๆ ฉันคงจะกระอักใจตายแน่” นิสารีบล้วงมือถือมากดเข้าไปเช็คดูความเคลื่อนที่ไอจีของโจเซฟ
“ฉันก็เหมือนกัน ที่ยอมคบตั้งแต่เข้าปีหนึ่งจนถึงทุกวันนี้เพราะนางมีเงินเท่านั้นเเหละ” เมรีเผยความรู้สึกจริงๆ ที่ซ่อนอยู่ในคำว่าเพื่อนสนิทมาหลายปี
“จริง” นิสาเอ่ยสมทบตาม เพราะเธอหิวแสง จึงเข้าไปตีสนิทกับดาริน ที่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะไปทางไหนก็กลายเป็นดาวเด่น เปล่งประกายแสงแห่งความงดงามอยู่เสมอ ทำให้ผู้ชายทุกคนต่างก็อยากจะเป็นแฟน หากไม่ติดที่ว่าดารินเป็นลูกสาวของเสี่ยธาดา ซึ่งมักจะขับรถไปรับไปส่งในมหาวิทยาลัยอยู่บ่อยๆ แถมยังขึ้นชื่อเรื่องหวงลูกสาว เลยทำให้ไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าพอที่จะเสนอตัวเข้าไปขายขนมจีบ
ชีวิตสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัยของดารินจึงโสดสนิท ในขณะเธอและเพื่อนสาวอีกสองคนเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ชายที่หวังจะจีบดาริน แต่เอื้อมไม่ถึง ก็เลยเบนเข็มมาที่พวกเธอแทน
“นี่ถ้าได้จากนางแสนหนึ่งนะฉันจะเอาไปทำคางกับเปลี่ยนจมูกใหม่” ดีน่าบอกสิ่งที่แอบหวังเอาไว้ในใจ เพราะหลังจากที่เรียนจบ เธอกับเพื่อนๆ ก็ได้เจอดารินน้อยลง ช่องทางในการกินและเที่ยวแบบคนมีระดับก็น้อยลงเช่นกัน ทำให้ยอดคนกดไลก์ในไอจีในเฟซบุ๊กเงียบราวกับป่าช้า ในขณะที่ดารินแม้จะไม่ได้โพสต์อะไรบ่อย แต่ทุกครั้งที่โพสต์กลับมียอดวิวเป็นหมื่น
“ฉันจะเอาไปทำนม” เมรีบอกพลางฝันไปถึงการได้มีส่วนเว้าส่วนโค้งเหมือนกับดาริน ที่ไม่รู้ว่าชาติก่อนทำบุญมาด้วยอะไร ทั้งเบ้าหน้าและหุ่นถึงได้ เพอร์เฟกต์ ในขณะที่เธอหน้าอกก็น้อย บั้นท้ายก็แบนจนต้องใส่ก้นปลอม และยัดฟองน้ำที่หน้าอกอยู่ตลอด เวลาจะมีอะไรกับผู้ชายก็ต้องมอมเหล้าให้อีกฝ่ายเมาจนแทบจะไม่เหลือสติ เพราะอายในรูปร่างที่แท้จริงของตัวเอง
“ฉันจะเอาไปซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใช้” นิสา บอกด้วยสายตาเป็นประกาย เมื่อก่อนเธอมักจะยืมกระเป๋าหรูเเบรนด์เนมของดารินมาถ่ายรูปโพสต์อวด จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเข้ามาแซะว่า...คุ้นๆ นะกระเป๋าใบนี้ เหมือนเคยเห็นดารินถือไม่มีผิด แถมอีกฝ่ายยังไปโพสต์ต่อที่เฟซบุ๊กของตัวเองอีกว่า...ไม่มีปัญญาซื้อยังไม่น่าอายเท่ากับยืมกระเป๋าเขามาโพสต์อวดทุกใบ คอมเมนต์มากมายนับพัน ต่างพากันตบเท้าเข้ามาขยี้จนเธอเกิดปมขึ้นในใจ และสาบานกับตัวเองว่าวันหนึ่งจะต้องมีกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นของตัวเองให้ได้
โรงแรม ร็อฟเวลล์ เวลา 19:10 น.
ดารินที่ให้คนขับรถมาส่งที่โรงแรมเสร็จ ก็ให้อีกฝ่ายกลับไป เพราะแอบหวังว่า...หลังรับประทานอาหารเสร็จ โจเซฟจะขับรถไปส่งเธอกลับบ้าน เฉกเช่นที่สุภาพบุรุษส่วนใหญ่ทำกัน
“มากี่ที่คะ?” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามสาวสวยที่สวมชุดเดรสเข้ารูปของแบรนด์ดังได้ออกมาเพอร์เฟกต์และงดงามเกินคำบรรยาย
“สองที่ค่ะ เอ่อ...ไม่ทราบว่าคุณโจเซฟ อีนอฟ ได้จองโต๊ะไว้หรือเปล่าคะ” ดารินถามอย่างรู้สึกตื่นเต้น
“สักครู่นะคะ” พนักงานต้อนรับรีบกดเข้าไปรายชื่อลูกค้าที่จองโต๊ะทันที
“ค่ะ” ดารินพยักหน้าเบาๆ ขณะที่สายตาของใครต่อใครต่างพากันหันมามองที่เธอ จนทำให้รู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก
“เอ่อ...ไม่มีนะคะ” พนักงานต้อนรับบอกหลังจากที่ไล่ดูรายชื่ออย่างละเอียด
“งั้นไม่เป็นไรค่ะ อีกเดี๋ยวคงจะมา” ดารินบอกยิ้มๆ คิดว่าอีกฝ่ายคงจะงานยุ่งเลยลืมจองโต๊ะ จึงเดินตามพนักงานต้อนรับไปยังห้องอาหารอย่างรู้สึกประหม่านิดๆ กับเดตแรกอย่างเป็นทางการ
ดารินเข้าไปนั่งรอที่โต๊ะได้ประมาณสิบนาทีก็กลั้นใจโทร. หาพ่อเทพบุตรสุดหล่อ ที่แม้ว่าเขาจะรับปากเธอหนักแน่น แต่เธอยังแอบกังวลอยู่นิดๆ
ตู๊ด...ตู๊ด...เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ หลังจากที่โทรไปแล้วแต่อีกฝ่ายไม่รับสาย จึงเรียกพนักงานมาสั่งอาหารกับเครื่องดื่มรอ เพราะคิดว่าเขาอาจจะรถติด หรือกำลังขับรถอยู่จึงรับสายไม่ได้
ชั่วโมงต่อมา...คนที่ดื่มไวน์รอไปจนเกือบจะหมดขวด เริ่มจะเมากรึ่มๆ ขึ้นมานิดๆ จึงต่อสายโทร. หาพ่อเทพบุตรสุดหล่ออีกครั้ง แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมรับสายเช่นเดิม ทำให้เธอหน้าตึงจนอยากจะลุกขึ้นมากรีดร้องระบายความเครียดและความขุ่นเคืองใจออกมากลางห้องอาหารสุดหรูแห่งนี้ แต่กระนั้น...ก็ทำไม่ได้ จึงเรียกพนักงานมาเช็คบิล แล้วขับรถออกไปยังไนต์คลับใกล้ๆ ตั้งใจว่าจะนั่งดื่มต่อสักพัก แล้วค่อยจะโทร. เรียกให้คนขับรถที่บ้านมารับ หรือไม่ก็เปิดห้องที่โรงแรมร็อฟเวลล์หรือโรงแรมมะลิฉัตร แกรนด์ เพราะทั้งสองโรงแรมมีบริการขับรถไปรับลูกค้าที่ดื่มหนักตามสถานบันเทิงยามค่ำคืน
ไนต์คลับหรู...ขณะที่คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัว ว่าทำไมโจเซฟถึงได้เทเธอเป็นครั้งที่สาม ทั้งที่เขาก็รับปากเอาไว้แล้วว่าจะมา แต่ก็เปล่า เขาทำลายความมั่นใจที่เธอเคยมีมาทั้งหมด และเหยียบย่ำความรู้สึกของเธอให้พังอย่างไม่มีชิ้นดี
ดารินกำลังดำดิ่งสู่ห้วงความคิดของตัวเองอยู่นั้น อยู่ๆก็บังเอิญได้ยินสาวๆ โต๊ะข้าง ตะโกนคุยกันแข่งกับเสียงเพลงที่ดังบนเวที
“ไม่อยากเชื่อ ฉันเห็นคุณโจเซฟ อีนอฟ ไปดินเนอร์กับยัยเอวาด้วยล่ะ”
“ที่ไหนแก”
“ที่โรงแรมมะลิฉัตร แกรนด์”
“จริงเหรอ?”
“จริงสิ แต่พวกเขาเช็คบิลกลับไปแล้วนะตอนนี้”
“ว้า...เสียดายจัง ฉันน่ะอยากจะเห็นตัวจริงของคุณโจเซฟจังว่าจะหล่อขนาดไหน”
“อย่างกับเจ้าชายกรีกแน่ะ ว่าแต่...ยัยเอวาทำยังไงถึงได้ออกเดตกับคุณโจเซฟนะ”
“นั่นสิ ได้ยินข่าวมาว่านางคลั่งคุณโจเซฟมากถึงขนาดตามสืบประวัติของเขาเลยนะ”
“จริงเหรอ?”
“จริง ป่านนี้คงจะสมใจนางแล้วล่ะ”
ทุกประโยคที่สองสาวพูดกันทำให้ดารินถึงกับเดือดขึ้นมาทันทีทันใด “หึ! แบบนี้นี่เองเหรอ? รับรองว่าเธอจะได้สมใจแน่เอวา” ดารินยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ไม่คิดว่าหญิงสาวที่ชื่อเอวาอะไรนั่น จะใช้มุกเดินชนกับโจเซฟเช่นเดียวกับเธอ
แต่ต่างกันก็ตรงที่อีกฝ่ายได้ออกเดตด้วย แต่เธอกลับรอเก้อจนต้องหาอะไรดื่มต่อย้อมใจเพื่อกลบเกลื่อนความอับอายที่ถูกเทถึงสามครั้งติดกัน ซึ่งเธอก็ได้เตือนเขาไปแล้วว่าหากคืนนี้ผิดนัดอีก นั่นคือการเปิดสงครามกับดาริน สิรันปรียา อย่างเป็นทางการ
คนที่นั่งกลุ้มกับการแอบชอบผู้ชายคนหนึ่ง แต่เขากลับเมิน เพราะมีตัวเลือกเข้ามาแทรกตรงกลาง ซึ่งดูจากขนาดหน้าอก เอว เรียวขากับเบ้าหน้าแล้ว อีกฝ่ายก็ไม่มีอะไรเลยที่จะสู้เธอได้แม้แต่น้อยนิด
“คอยดู ฉันจะทำให้คุณหลงฉัน จากนั้นก็จะเขี่ยทิ้งอย่างไร้เยื่อใยเลยคอยดู” ดารินยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มจนหมด จากนั้นก็โทร. ไปจองห้องพักของโรงแรมดังพร้อมกับให้พนักงานมารับที่หน้าไนต์คลับ
วันต่อมา...บริษัท J C คอนสตรักชัน
“เป็นอะไรวะ หน้าบูดเชียว” คัลเลนเอ่ยถามเพื่อนรักทันทีหลังจากที่นั่งลงบนโซฟาตัวโปรดเสร็จ
“รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีเท่าไหร่” โจเซฟบอกอย่างรู้สึกเครียดนิดๆ
“เมื่อวานแกไปดินเนอร์กับน้องคนนั้นไม่ใช่เหรอ” คัลเลนถามอย่างสงสัย
“ยังไม่ได้ไป”
“อ้าว! นี่แกเทน้องเขาอีกแล้วเหรอวะ?” คัลเลนขมวดคิ้วถามอย่างมึนงง
“ไม่ได้ตั้งใจเท พอดีมีเรื่องนิดหน่อย ก็เลยทำให้ไปไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้รับสายของเธอด้วย” โจเซฟบอกด้วยสีหน้าตึงเครียดนิดๆ เพราะเมื่อวานไปคุยงานกับลูกค้าที่โรงแรมมะลิฉัตร แกรนด์ แต่ดันไปเดินชนเข้ากับหญิงสาวที่ชื่อเอวาอีกเป็นครั้งที่สอง และอีกฝ่ายข้อเท้าแพลง ตนก็เลยต้องนั่งรอเป็นเพื่อน เพราะเธอบอกว่าอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงเพื่อนจะขับรถมารับ ระหว่างนั้นก็ชวนไปนั่งทานอะไรรอในห้องอาหารของโรงแรม ทำให้ตนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะมีนัดกับดารินที่โรงแรมร็อฟ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก จึงคิดว่าหากเพื่อนของเอวามารับเมื่อไหร่ก็น่าจะไปทัน
ครั้นจะโทร. ไปบอกดารินว่าติดธุระและอาจจะไปช้าหน่อย แต่ก็ดันลืมมือถืออีกเครื่องที่บันทึกเบอร์โทรของเธอ เอาไว้ที่บริษัท ใช่! ทุกอย่างผิดแผนไปหมด รวมถึงเพื่อนของเอวาที่มารับช้าไปเกือบจะสามชั่วโมง พอตนไปถึงที่โรงแรมร็อฟเวลล์ ดารินก็เช็คบิลกลับไปแล้ว
