4กลั่นแกล้ง
?️Intira Talk?️
เช้าวันต่อมา ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงมาข้างล่าง แม่ของฉันกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร ฉันมองแม่อยู่นาน แม่คงจะเหนื่อยมากแน่ ๆ ท่านต้องทำงานหนัก กลางคืนมานั่งทำแซนวิชจนดึกดื่น แล้วยังตื่นเช้าเพื่อทำกับข้าวให้ฉันกับพี่ชาย
"แค่กๆ!" แม่ใช้มือปิดปากตัวเองแล้วไอเบาๆ พักนี้แม่ของฉันไอบ่อยๆ แต่เวลาฉันให้แม่ไปหาหมอ แม่ก็ไม่ยอมไป
"แม่จ๋า..." ฉันเดินเข้าไปสวมกอดแม่จากทางด้านหลังทันที
"ว่าไงจ๊ะ!"
"อินรักแม่โมนะคะ" ฉันสวมกอดมารดาของตนเองแน่นๆ แม่คือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน ฉันไม่อยากจะเห็นแม่ลำบากเลยสักนิด ฉันได้แต่สัญญากับตัวเอง ว่าโตขึ้น ฉันจะไม่ให้แม่ของฉันต้องลำบาก
"แม่ก็รักอินจ้ะ แล้วทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะลูก ทำไมอินหน้าเศร้าจังเลย เป็นอะไรหรือเปล่า?" แม่เอ่ยถามฉัน ฉันจ้องมองหน้าแม่ แม่หน้าซีดมาก แต่ก็ฝืนยิ้มให้ฉัน
"แม่ไม่สบายหรือเปล่า แม่เป็นอะไรบอกอินได้นะคะ ถ้าแม่ไม่สบายแม่ก็ต้องไปหาหมอ ไปหาหมอก็จะได้ยามากิน แล้วพักผ่อนให้เยอะๆ"
"แม่สบายดีจ๊ะ อินไม่ต้องเป็นห่วงแม่หรอกนะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวตอนเย็นแม่จะพาหนูกับพี่ไปกินอาหารดีๆ อินอยากกินไหมลูก!?"
"อยากกินค่ะแม่ แล้วแม่มีเงินหรอคะ"
"มีสิลูก เงินเดือนแม่เพิ่งออก แต่แม่จะเก็บเอาไว้ซื้อของให้อินกับพี่ ส่วนอาหารแม่ไม่ได้ซื้อหรอกนะ ครอบครัวแม่น้ำชาชวนแม่ไปกินข้าวที่บ้าน"
เมื่อได้ยินคำพูดของแม่นะโม ที่บอกว่าจะไปกินข้าวบ้านแม่น้ำชา ฉันไม่อยากไปเลย เพราะว่าการที่ไปกินข้าวที่บ้านนั้น ฉันต้องเจอปั้นสิบ ผู้ชายน่ารำคาญแน่นอน ฉันได้แต่คิด อย่างหงุดหงิด
"อินไม่ไปได้ไหมคะแม่ อินไม่อยากไปอินไม่อยากกินของดีๆแล้ว อินกินก๋วยเตี๋ยว หรือต้มมาม่ากินก็ได้ ขอแค่อินไม่ได้ไปเจอปั้นสิบก็พอ"
"ทำไมถึงพูดอย่างนั้นล่ะลูก ปั้นสิบทำอะไรให้อินไม่พอใจหรออินถึงได้ไม่ชอบเขา?"
"ปั้นสิบเขาน่ารำคาญค่ะแม่ เขาชอบพูดเองเออเองว่าอินเป็นของเขา เขาชอบวุ่นวายกับอินจนอินไม่มีอิสระในการใช้ชีวิตที่โรงเรียนเลย เขาวุ่นวายมากขนาดไปกินข้าวก็ยังวุ่นวาย"
"ที่เขาทำแบบนั้น ก็เพราะเป็นห่วงอินนั่นแหละลูก อย่าไปถือสาปั้นสิบเลย ดีซะอีกอินจะได้มีคนคอยดูแล จะได้ไม่โดนใครต่อใครแกล้งหนูอีกไง เพราะพี่อินทัชก็ดูแลอินไม่ได้ตลอด เพราะเรียนอยู่คนละห้อง"
"บางครั้งอินก็ไม่ได้ต้องการให้เขามาวุ่นวายกับชีวิตอินหรอกนะ ถ้าเขาไม่มาวุ่นวายกับอินเพื่อนก็คงจะเลิกแกล้งอินเอง" ฉันพูดพลางนึกถึงคำพูดของคนึงนิจ เธอบอกให้ฉันเลิกยุ่งกับปั้นสิบ
เพราะเหตุใดคนึงนิจถึงบอกให้ฉันเลิกยุ่งกับ หรือว่าคนึงนิจชอบปั้นสิบ แต่ก็ช่างเถอะ! ฉันไม่เคยอยากจะยุ่งเลยสักนิด
"อืม เดี๋ยวแม่จะลองพูดกับปั้นสิบให้ อินรีบไปกินข้าวเถอะ วันนี้แม่มีไข่เจียวให้หนูกับพี่กินนะ รีบกินแล้วเก็บให้เรียบร้อย แม่จะรีบไปทำงาน"
"ค่ะแม่"
"งั้นแม่ไปก่อนแล้วกัน! "
"ค่ะ" ฉันมองดูแม่จัดโต๊ะอาหาร ก่อนจะรีบไปแต่งตัว แล้วเดินออกไปจากบ้าน ฉันเริ่มนั่งรับประทานอาหาร ส่วนพี่ชายของฉันเดินลงมาจากห้อง แล้วนั่งทานข้าวไม่ต่างกัน
@โรงเรียน
"อิน ปั้นซื้อรองเท้าให้อินใหม่แล้วนะ" ปั้นสิบพูดพร้อมกับชูรองเท้าให้ฉันดู มันเป็นรองเท้านักเรียนสีดำมีสติ๊กเกอร์คิตตี้ติดอยู่ ซึ่งคู่เก่าของฉัน มันถูกทำขาด จนไม่สามารถเอามาใส่ได้
แต่ยังดีที่มีรองเท้าคู่อื่นที่แม่น้ำชาเคยซื้อให้ ฉันเลยใส่คู่นั้นมา ในใจก็นึกเสียดายรองเท้าคิตตี้คู่ที่ถูกกรีด เพราะมันเป็นรองเท้าที่แม่ของฉันตั้งใจซื้อให้ในวันเกิดนั่นเอง
ถึงจะไม่มีค่าสำหรับคนอื่น แต่สำหรับฉันมันมีค่ามาก
"ไม่เป็นไรหรอกอินมีแล้ว รองเท้าที่แม่น้ำชาเคยซื้อให้ ก็มีอยู่หลายคู่นายเก็บเอาไว้ให้ขนมชั้นเถอะ" ฉันปฏิเสธ
"ได้ไง! ปั้นอุตส่าห์ให้ลุงคมสันไปหาซื้อให้ มีอีก2คู่เลยนะ มีกระเป๋าด้วย เดี๋ยวตอนเย็นปั้นสิบจะให้แม่นะโมเอากลับมาด้วย เพราะเมื่อเช้าลุงคมสันมัวแต่ยุ่งๆเลยลืมถุงรองเท้ามาให้อินเลย ดีนะที่ปั้นหยิบรองเท้าคู่นี้มาไว้ต่างหาก ไม่อย่างนั้นปั้นคงอดเอารองเท้าให้อินแน่เลย"
"อินมีแล้ว" ฉันพูดพร้อมกับถอดรองเท้า จากนั้นก็เข้าห้องเรียน ฉันรอบิวอยู่นานก็ไม่มาสักที
"มีแล้ว ก็รับไว้ ปั้นตั้งใจซื้อให้อิน ตอนเย็นไปกินข้าวบ้านปั้น แม่ปั้นมีเรื่องจะพูดด้วย"
"เฮ้อ!" ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา แล้วเดินเข้ามาในห้อง ฉันวางกระเป๋า พร้อมกับมองคนึงนิจที่ยืนตาแดงๆอยู่หน้าห้อง โดยที่มีพ่อของคนึงนิจทำหน้าเครียดอยู่ไม่ไกล
"ไปขอโทษอินทิราซะ ทำไมถึงไปแกล้งเพื่อนแบบนั้น มันทำให้ครอบครัวเราเดือดร้อนไปด้วย!" พ่อคนึงนิจกล่าวตำหนิลูกสาวเบาๆ
"ค่ะ" เธอเดินมาพร้อมกับเอากระเป๋าไปวางบนโต๊ะเรียนของตนเอง เธอตาแดงกล่ำเหมือนผ่านการร้องไห้มา ฉันมองไม่พูดอะไร
"อ.. อิน"
"มีอะไรหรือเปล่า? "
"อิน ฉันขอโทษ!"
"ห้ะ!"ฉันหันไปมองอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง คนึงนิจน่าจะกินยาไม่เขย่าขวด ปกติก็เห็นเอาแต่แกล้งฉัน มาวันนี้กลับมาพูดดีด้วย แถมยังมาขอโทษฉันอีก หรือไม่คนึงนิจอาจจะถูกพ่อบังคับก็เป็นได้
"หึหึ!" ปั้นสิบแสยะยิ้มร้ายกาจ มองหน้าคนึงนิจอย่างสะใจ
"ฮึก! ฉันขอโทษ เลิกให้คนไปขู่ครอบครัวฉันนะ ฉันซื้อรองเท้ามาคืนเธอก็ได้ ฮึก! ฉันผิดเองที่แกล้งเธอ"
"หมายความว่ายังไง ใครขู่อะไรเธอ"
"บริษัทพ่อฉันกำลังแย่ เพราะครอบครัวของปั้นสิบขู่บอกจะไม่ลงทุนกับพ่อของฉัน"
"พ่อโจฮานไม่ใช่คนแบบนั้นนะ"
"ฮึก! พ่อฉันกำลังแย่ อินช่วยขอร้องปั้นสิบให้นิดด้วย ฮื่อๆ" คนึงนิจพยายามอ้อนวอนฉัน ฉันกำลังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ถ้าจะบอกว่าพ่อโจฮานขู่จะไม่ลงทุนกับพ่อของคนึงนิจ พ่อโจฮานก็ไม่ใช่คนนิสัยแบบนั้น พ่อโจฮานเป็นคนที่ค่อนข้างมีเหตุผลพอสมควร คงไม่ใช่แน่ๆ
"ปั้นสิบนายทำจริงๆเหรอ" ฉันตวัดสายตาหันไปมองปั้นสิบ เขาจ้องมองหน้าคนึงนิจพร้อมกับยิ้มร้ายกาจ
"แค่นี้มันยังน้อยไป ใครที่มันแกล้งอิน ปั้นไม่ตบมันเลือดกลบปากก็บุญแล้ว ถ้ามึงอยากชดใช้เรื่องรองเท้า มึงก็ซื้อคืนให้อิน และต้องซื้อให้อินเหมือนคู่เดิม ไม่อย่างนั้นกูจะจัดการมึงกับครอบครัวมึง"
ปั้นสิบพูดเสียงห้วน พร้อมกับชี้หน้า เพื่อนในห้องต่างมองฉันแล้วซุบซิบนินทา แต่ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งเพราะกลัวปั้นสิบ
"พูดอะไร อยากโดนกูตบหรอ?"
"เลิกพูดซักทีเถอะ!"
"ฉันขอโทษนะ" คนึงนิจเอ่ยขอโทษฉัน ในเมื่อ คนึงนิจจะซื้อรองเท้าคืนฉัน ฉันก็คงไม่ถือโทษโกรธอะไรแล้วแหละ แต่ถ้าคราวหน้าทำอีก ฉันก็จะไม่ไว้หน้าเหมือนกัน
"ได้ ฉันไม่โกรธอะไรหรอก ต่อไปก็เลิกทำแบบนี้ซะนะ" ฉันพูดพร้อมกับจ้องหน้าคนึงนิจ เธอหลบตาต่ำเม้มปากเเน่น
"คราวหลังอย่าทำอีก"
พลั่ก! ตุ๊บ !
"โอ้ยยยย!"
"ปั้นสิบ!" ฉันพูดพร้อมกับรีบไปประคองร่างของคนึงนิจลุกขึ้น เมื่อปั้นสิบผลักเธอล้มลง
"คอยดูเถอะยัยเด็กกำพร้า ยัยลูกไม่มีพ่อ ฉันจะเอาคืนเธอ" คนึงนิจพูดเสียงเบาแทบจะกระชิบ พอว่าจบคนึงนิจก็เดินไปนั่งโต๊ะตัวเอง
"ขอโทษอีกครั้งแล้วกัน หวังว่าทางครอบครัวคุณปั้นสิบ จะอภัยให้ทางเราด้วยนะครับ"
"ครับ! เดี๋ยวจะบอกลุงคมสันให้"
"ครับ" พ่อคนึงนิจพูดจบแล้วเดินไปทันที
