ตอนที่หนึ่ง หนีไป2
ตอนที่หนึ่ง หนีไป
เมื่อได้ยินว่าชายผู้นี้วิ่งไล่นางมาตลอดทาง เจียจิวซินจึงจำต้องระงับคำพูดด้วยโทสะเอาไว้
เขาเป็นพวกเดียวกับโจรเหล่านั้นหรือ จึงได้ไล่ตามจับนาง เช่นนั้นนางคงหนีไม่รอดแล้ว
หญิงสาวแสร้งทำเป็นอาเจียนต่อแต่สายตาสอดส่ายมองไปรอบข้างเพื่อหาหนทาง
อืม...ด้านนี้คล้ายเป็นลานผูกม้า มองไปไกลๆมีบ้านเรือนอยู่หลายหลัง หรือนี่จะเป็นรังโจรแล้ว
เจียจิวซินตัดสินใจหันกลับมาเจรจากับชายผู้ที่แบกนางมาเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าเขายังคงยืนเกาหัวอยู่อย่างไม่มีทีท่าจะเข้ามาทำร้ายหรือจับนางแบกขึ้นบ่าอีก
“พวกเจ้าจับข้ามาเช่นนี้ ท่านพ่อของข้าไม่ยอมแน่ เจ้าคงมิรู้ว่าบิดาของข้าสามารถถล่มรังโจรของเจ้าได้ไม่ยาก เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ พวกเจ้าต้องการเงินเท่าใด หรืออยากได้สิ่งใด พวกเจ้าบอกออกมา ข้าจะจัดหามาให้แลกกับการปล่อยตัวข้าออกไป”
ชายผู้ยืนเกาหัวอยู่ยิ่งเกาหนักขึ้นด้วยความอ่อนใจ
“แม่นาง พวกเราย่อมรู้ดีว่าบิดาของท่านคือผู้ใด พวกเราได้รับการว่าจ้างมาถึงไม่อยากทำแต่ก็จนใจด้วยรับเงินผู้อื่นมาแล้ว เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ แม่นางก็คิดเสียว่ามาเที่ยวเล่นในรังโจรสักพักหนึ่งก็แล้วกัน หากเวลาผ่านไปจนแน่ใจว่าไม่มีเรื่องใดแล้ว ข้าจะส่งแม่นางออกไปเอง”
เจียจิวซินฟังแล้วให้แปลกใจอย่างมาก
พวกเขารู้หรือว่านางเป็นบุตรสาวของเจ้ากรมยุติธรรม รู้แล้วยังกล้าปล้นขบวนเจ้าสาวของนางและจับตัวนางเอาไว้ ช่างหาญกล้าเทียมฟ้าเสียนี่กระไร
“แล้วพวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าขบวนเจ้าสาวของข้ากำลังจะไปที่ใด พวกเรากำลังจะไปที่ตำหนักอ๋องมู่ หากท่านอ๋องรู้ว่าพวกเจ้าจับตัวว่าที่เจ้าสาวของเขาเอาไว้ เขาคงไม่ปล่อยพวกเจ้าไปอย่างแน่นอน” เจียจิวซินตัดสินใจนำชื่อว่าที่เจ้าบ่าวของนางออกมาข่มขู่อีกครา
“พวกเราย่อมรู้ดีด้วยผู้ว่าจ้างบอกไว้ว่าเขาย่อมจัดการทางด้านนั้นได้อย่างเรียบร้อย”
“ผู้ว่าจ้างหรือ เขาคือผู้ใด เขาว่าจ้างพวกเจ้ามากเท่าใด ข้าจะให้พวกเจ้ามากกว่าอีกสองเท่า เจ้าคงมิรู้ว่าท่านอ๋องมู่ร่ำรวยเงินทองมากนัก ข้ากำลังจะแต่งเข้าไปในตำหนักของเขา เงินทองมากเพียงใดเขาย่อมยอมแลกกับตัวข้าอย่างแน่นอน” แม้เจียจิวซินจะไม่แน่ใจแต่ยามนี้นางต้องเอ่ยด้วยความมั่นใจเพื่อให้กลุ่มโจรยินยอมตามข้อเสนอของนางไปก่อน
