บท
ตั้งค่า

4.ขวัญเสีย

*** ทักทายคร้า ***

และแล้วสิ่งที่เนตรนารีกลัวก็ปรากฏขึ้น ภาพควันไฟสีดำพวยพุ่งขึ้นท่ามกลางความมืดอย่างบ้าคลั่ง รถดับเพลิงหลายคันกำลังฉีดน้ำสกัดเพลิง กำลังเจ้าหน้าที่กระจายอยู่เต็มบริเวณ เนตรนารีนั่งนิ่งตามองข่าวอย่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น เพราะบ้านที่ไฟกำลังลุกโชนอยู่นั้นเป็นบ้านที่เธอเพิ่งจากมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี่เอง

“พี่จิตร...พี่แอนดูร์...” เนตรนารีเรียกชื่อพี่สาวกับพี่เขยอย่างสะเทือนใจและสะอื้นไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ วลัยเดินเข้าไปกอดเพื่อนร้องไห้ไปด้วยกัน เสียงนักข่าวยังคงรายงานข่าวอย่างละเอียด โดยมีฉากหลังเป็นกลุ่มควันสีดำลอยขึ้นบนท้องฟ้า ในขณะที่เจ้าหน้าที่นำศพผู้เสียชีวิตไปขึ้นรถ เนตรนารีกับวลัยนั่งกอดกันร้องไห้อย่างเสียใจ

“วลัย...พวกมันฆ่าพี่แอนดูร์กับพี่จิตรทำไม ฮือ...ฮือ” เนตรนารีสะอื้นไห้จับต้นชนปลายไม่ถูก รู้แต่ว่าบัดนี้พี่สาวและพี่เขยจากโลกไปแล้วอย่างโหดร้ายที่สุด

“ทำไมพวกมันถึงโหดเหี้ยมขนาดนี้”

วลัยกอดร่างที่สั่นสะอื้นอยู่ข้างๆ อย่างสงสารจับใจ

เธอกับมิเชลล์เป็นเด็กที่เติบโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหลังโบสถ์เล็กๆ แห่งหนึ่งแถบชานเมือง แอนดูร์พาจิตราภาและเนตรนารีไปที่นั่นบ่อยๆ จนเธอคุ้นเคยกับครอบครัวนี้เป็นอย่างดี ทั้งเธอและมิเชลล์จึงตกลงเป็นเพื่อนรักกับเนตรนารีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

“จะทำยังไงต่อดีวลัย ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้ว เรื่องมันเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทัน” เนตรนารีบอกน้ำตาไหลอาบแก้ม วลัยบีบมือเพื่อนแรงๆ ขณะร้องไห้ไปด้วยกัน

“อย่าเพิ่งคิดเลยแก ฉันก็คิดไม่ออกเหมือนกัน รอยัยมิเชลล์กลับมาก่อนแล้วค่อยช่วยกันคิด” วลัยบอกพลางยกมือเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม เนตรนารีนั่งมองเปลวเพลิงผ่านม่านน้ำตาอย่างคิดถึงพี่สาวจับใจ

สามชั่วโมงหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ อลันบอดี้การ์ดคนสนิทของทายาทมอลต้าเดินเข้าไปหาผู้กองบารอนเจ้าของคดี ซึ่งยืนมองร่างผู้เสียชีวิตด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“เจออะไรบ้างไหมบารอน”

ผู้กองหนุ่มหันไปมองต้นเสียง พอเห็นเพื่อนสมัยเรียนโรงเรียนนายร้อยด้วยกันก็ยิ้มให้

“เจอแต่ปลอกกระสุน หลักฐานอย่างอื่นคงไม่เหลือมากนัก” บารอนบอกพลางเดินแยกออกมาเพื่อคุยกันตามลำพัง

อลันสอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง สายตามองการทำงานของเจ้าหน้าที่อยู่เงียบๆ

“ฆ่าปิดปาก ชนิดว่าต้องตายสถานเดียว” บารอนสรุปสั้นๆ

“ระดับมืออาชีพ” อลันพูดต่อสั้นๆ ตามองกิ่งไม้หักบนกำแพงสูง ซึ่งเป็นหลักฐานเดียวที่หลงเหลือให้เห็น ผู้กองหนุ่มมองตามก่อนจะพากันเดินไปดู บารอนมองรอยเท้าที่เหยียบย่ำลงบนพื้นหญ้าอย่างละเอียด

“ฉันว่าคนร้ายไม่ต่ำกว่าสี่แน่ งานสุดท้ายของคุณแอนดูร์คือรับตรวจสอบบัญชีของบริษัทอดัมเทรเวลในเครือรอยัลมอลต้ากรุ๊ปใช่ไหม”

อลันพยักหน้าแทนคำตอบ แววตาเคร่งขรึมของเพื่อนต่างอาชีพทำให้คนช่างสังเกตอย่างบารอนเตรียมจะตั้งคำถามต่อ แต่การสนทนาของสองหนุ่มก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงใสของนักข่าวจากหนังสือพิมพ์ชื่อดัง

“สวัสดีค่ะ” มิเชลล์กล่าวทักทาย พลางยกกล้องขึ้นเก็บภาพผู้เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการเขียนข่าว

“ให้ตายสิ ว่าจะไม่เจอผู้กองขี้เก๊กแล้วเชียว” มิเชลล์บ่นเบาๆ แต่ปากก็ฉีกยิ้มเปิดทางไปก่อน บารอนยกมือกอดอกมองนักข่าวหุ่นมดตะนอยแต่ต่อยหนักชนิดยิงคำถามจนบางครั้งคนตอบคิดไม่ทัน

“ถ้าไม่อยากยิ้มก็ไม่ต้องฝืนนะคุณ” บารอนบอกเสียงเคร่งขรึมตามสไตล์ผู้กองมือปราบ อลันยิ้มบางๆ แล้วเดินเลี่ยงไปเพราะไม่ชอบเป็นข่าว

“ฉันเป็นคนยิ้มง่ายค่ะ แต่จะยิ้มให้คนที่สุขภาพจิตดีเท่านั้นนะคะ พวกชอบเก๊ก ชอบแอ๊บอะไรพวกนี้จะไม่ค่อย”

มิเชลล์บอกพลางมองผู้กองหนุ่มคู่ปรับตลอดกาลด้วยสายตาล้อเลียน

“นี่คุณกำลังกล่าวหาว่าผมเป็น...” บารอนชี้หน้าเนียนใสอย่างหงุดหงิด มิเชลล์ย่นจมูกใส่แล้วเปิดเครื่องบันทึกเสียงในมือ

“เอาน่าผู้กอง จะเป็นหรือไม่เป็นก็เรื่องของคุณ แต่ฉันอยากรู้เรื่องคดี”

พอได้ทีบารอนก็ยกไหล่อย่างเป็นต่อ “ยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ถูกฆาตกรรม”

“เหตุจูงใจล่ะคะ” เธอยิงคำถามต่อ บารอนเหลือบตามองนักข่าวสาว ริมฝีปากหยักรูปกระจับยกยิ้มเล็กน้อย

“ยังไม่ทราบครับ ขอเวลาทางตำรวจอีกหน่อย แต่คงไม่นาน” เขาพูดทิ้งท้ายแล้วขอตัวเดินจากไป มิเชลล์มองแผ่นหลังหนาแล้วขยับตัวตาม แต่สายตาก็ไปสะดุดกิ่งไม้เหนือขอบกำแพงเสียก่อน หญิงสาวจึงหยิบกล้องคู่ใจเก็บภาพไว้

****

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel