บทที่ 3. แสนหวานสะท้านทรวง
แสนหวานหน้าร้อนผ่าวจ้องมองมือขาวๆ เรียวยาวของชายหนุ่มที่กำลังนวดคลึงข้อเท้าให้เธออย่างเบามือ ตอนนี้เธอหายมึนคนหายเมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว แต่กำลังมึนเมาไปกับกลิ่นกายของโจนาธานแทน ผู้ชายอะไรตัวหอมจริงๆ หอมเย้ายวนชวนให้เลือดในกายสาวร้อนเร่าจนน่าอาย
“รู้สึกดีขึ้นรึเปล่าครับ..” โจนาธานถามเบาๆ มองดูข้อเท้าที่บวมน้อยๆ ของแสนหวานอย่างคลายความกังวลลงบ้าง โชคดีที่มันแค่เคล็ดนิดหน่อยไม่ถึงกับเอ็นฉีกหรือพลิกจนต้องเข้าเฝือกเพราะตอนที่เธอล้มมาทับเขานั้นไม่ใช้การล้มที่เบาเลยหากล้มผิดท่าถึงกับหักหรือกระดูกร้าวได้เลยทีเดียว แล้วชายหนุ่มก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเมื่อไม่ได้รับคำตอบจากสาวน้อยร่างอวบน่ารักตรงหน้า
“หนูหวาน.. เป็นไงบ้างดีขึ้นรึยังครับ” โจนาธานถามย้ำอีกครั้ง คราวนี้สาวเจ้ากะพริบตาปริบๆ มองเขาก่อนจะอึกอักตอบเบาๆ
“อะ เอ่อ.. ดะ ดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”
แสนหวานค่อยๆ ชักขากลับแต่ดูเหมือนว่ามือเรียวใหญ่ที่กำข้อเท้าของเธอไว้บนตักของเขาจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ และสัมผัสจากชายหนุ่มก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าข้อเท้าของตนมันร้อนผ่าวจนเหมือนผิวตรงนั้นจะไหม้เกรียม ใจสาวก็เต้นแรงจนกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจของเธอเหลือเกิน
“ค่อยๆ สิครับ เดี๋ยวก็เจ็บหนักกว่าเดิม”
เขาบอกพร้อมทั้งค่อยๆ ยกเท้าเธอวางลงบนพื้นอย่างอ่อนโยนก่อนจะลุกขึ้นไปล้างมือที่อ่างล้างมือใกล้ๆ กับโต๊ะที่นั่งอยู่ ในห้องพยาบาลนี้ครบครันทันสมัยราวกับห้องของโรงพยาบาลเลยทีเดียว นี่หากมีเตียงและเครื่องมือผ่าตัดเธอคิดว่าหากพนักงานเจ็บป่วยไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลเลย
“ขอบคุณค่ะ” เธอขอบคุณเขาอีกครั้งแล้วพยายามจะลุกขึ้น เธออยากกลับไปหาเพื่อนๆ จะแย่แล้ว
“นั่นคิดจะทำอะไร”
แสนหวานสะดุ้งสุดตัวแล้วรีบนั่งลงมองใบหน้าหล่อเหลาเหลอหลาอย่างตกใจและไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำหน้าตาดุดันแบบนั้นด้วย
“จะไปไหน”
“ก็.. เอ่อ หนูหวาน จะ.. เอ่อ จะไปหาเพื่อนๆ ค่ะ ป่านนี้คงห่วงกันแย่แล้ว”
“ไม่ต้อง ผมบอกให้คนของผมแจ้งพวกเขาแล้วว่าหนูหวานอยู่กับผมไม่ต้องห่วง”
“แต่..” สาวน้อยอ้าปากค้างเมื่อเขาขัดขึ้น
“ไม่ต้องมีแต่ เดี๋ยวพันข้อเท้าไว้ดีกว่าเพื่อความแน่ใจว่าหนูหวานจะไม่ซุ่มซ่ามล้มทับคนอื่นอีก”
ใช่เขากลัวว่าเธอจะไปล้มทับคนอื่น ทับแบบธรรมดาไม่ว่าแต่ทับแบบเอาหน้าอกหน้าใจอวบใหญ่ไปทับหน้าคนอื่นไม่ได้ เขาหวง... โจนาธานบอกตัวเอง
“อ้าว..”
แม่สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเอ่ยออกมาแล้วขมวดคิ้วหน้ามู่ทู่ดูน่ารัก เขาไม่คิดว่าผู้หญิงทำหน้าแบบนี้แล้วจะน่ารักขนาดนี้ ปกติผู้หญิงที่เขาควงมักจะทำหน้ายิ้มแย้มเย้ายวนเขาอยู่เสมอ บางคนก็พยายามจะทำสีหน้าให้สดชื่นรื่นเริงเพื่อเอาใจเขา และพยายามซ่อนใบหน้าที่แท้จริงไว้ภายใต้เมกอัพสวยงาม
“เดี๋ยวผมไปส่งที่ห้องพักเอง”
“ไม่ต้อง เอ๊ย ไม่เป็นไรค่ะ หนูหวานเดินไปเองได้”
“ด้วยสภาพแบบนี้นี่นะ”
ชายหนุ่มจ้องมองสาวน้อยในชุดกระโปรงสั้นเต่อ เข้าใจว่ามันเป็นคนคอสเพลย์ตัวการ์ตูนดัง แต่เธอน่ารัก ขาวอวบน่ากินขนาดนี้และกระโปรงก็สั้นเกินไป ขืนเดินไปมากลางคืนคนเดียวมีหวังถูกฉุดไปทำมิดีมิร้าย เธอเป็นผู้หญิงของเขาแล้วดังนั้นจะไปไหนมาไหนก็ต้องอยู่ในสายตาเขาตลอด..
ไม่รู้ล่ะเขาจองแม่สาวน้อยเซเลอร์มาร์อกภูเขาไฟคนนี้แล้ว ชายอื่นไม่มีสิทธิ์...
โจนาธานคิดเข้าข้างตัวเองอย่างเอาแต่ใจโดยที่แม่สาวน้อยอัศวินเซเลอร์ยังไม่รู้ตัวสักนิดว่าตนนั้นถูกตาต้องใจเขาเสียแล้ว
“แล้วคุณจะพาหนูหวานกลับตอนไหนคะ หนูหวานเอ่อ.. ง่วงแล้ว” คนง่วงแล้วแต่ตายังใสแจ๋วทำให้โจนาธานอยากหัวเราะ แต่เพราะอยากอยู่ใกล้ชิดเธออีกนิดจึงแกล้งถ่วงเวลา
“เดี๋ยวสักแป๊บให้ตัวยามันซึมเข้าผิวก่อนจะได้หายเร็วๆ” เขาเห็นเธอทำหน้าฉงนแล้วก็ต้องพูดกลบเกลื่อนต่อ
“ตอนนี้ผมกำลังให้คนของผมไปเอาวีลแชร์มาให้คุณนั่งกลับห้องพัก พักที่เดียวกับคุณลิซ่าใช่ไหม”
แสนหวานพยักหน้าแล้วจ้องมองประตูอย่างรอคอย ท่าทางกระวนกระวายของเธอทำให้โจนาธานเสียความมั่นใจไปไม่น้อยเพราะปกติสาวๆ มักให้ความสนใจเขาเสมอ แต่ท่าทางสาวน้อยตรงหน้านั้นอยากจะอยู่ห่างๆ เขาเหลือเกิน
“ท่าทางหนูหวานไม่อยากอยู่ใกล้ผม”
“เอ่อ คือ.. หนูหวานไม่ได้รังเกียจคุณนะคะ คุณช่วยหนูหวานทั้งที่ไม่ต้องทำเองก็ได้หนูหวานขอบคุณจริงๆ ค่ะ”
“แต่ท่าทางของหนูหวานเหมือนกลัวผม” โจนาธานตั้งข้อสังเกต แววตางามไหววูบไปเล็กน้อยก่อนจะก้มหลบตา
“ก็คุณโจเป็นบิ๊กบอสนี่คะ หนูหวานกลัวว่าจะทำให้คุณโจเสียหน้าแล้วก็ถูกคนนินทาว่ามายุ่งกับหนูหวาน แค่หนูหวานล้มทับคุณพนักงานก็คงเม้าท์สนุกปากแล้ว พรุ่งนี้หนูหวานยังไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเลยค่ะ”
“ก็เอาไว้ที่เดิมนั่นล่ะ ทำไมผู้หญิงถึงได้คิดอะไรแบบนี้หรือคิดมากแบบนี้กันนะ”
“อ้าว ก็ต้องคิดมากสิคะ เราไม่ได้รู้จักกันมาก่อนแล้วจู่ๆ มาอยู่กับคุณสองต่อสองแบบนี้ หนูหวานเองไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานกับพวกพี่ๆ เขาเท่านั้น หนูหวานกลัวว่าจะทำให้คุณเสียชื่อเสียงต่างหากล่ะคะ”
“เรื่องนั้นหนูหวานไม่ต้องกลัวไม่ต้องกังวลแทนผมหรอก ใครพูดจาให้หนูหวานเสียหายผมจะจัดการเอง”
“ทำแบบนั้นไม่ได้นะคะ มันเกินไป เอาเป็นว่าตอนนี้หนูหวานขอกลับห้องพักดีกว่าค่ะกลัวจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน”
อะไรกันแม่สาวน้อยคนนี้ไม่อยากอยู่ใกล้เขาเพราะกลัวคนอื่นเดือดร้อนนี่นะ..
นี่เขาไม่มีเสน่ห์พอจะมัดใจเธอเลยหรือไง โจนาธานเริ่มไขว้เขวกับเสน่ห์ของตน
“ไหนล่ะคะวีลแชร์ที่จะเอามาให้หนูหวาน จริงๆ แล้วหนูหวานว่าเดินไปยังจะเร็วและง่ายกว่า ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยดูแลหนูหวาน ลาล่ะค่ะ” เธอยกมือไหว้เขาเสมือนเด็กไหว้ลาผู้หลักผู้ใหญ่
นี่กูแก่ขนาดที่เด็กมันต้องยกมือไหว้แล้วหรือวะ..
มันก็จริงนี่นา แกกับแม่สาวน้อยหนูหวานนี่อายุห่างกันเป็นรอบ ไม่ให้เด็กมันยกมือไหว้ได้ยังไง..
เสียงตอบดังกึกก้องอยู่ในหัวมันตอกย้ำให้เขารู้สึกปวดใจลึกๆ นี่รึเปล่านะที่เขาพากันพูดว่า
คำว่าแก่พูดเบาๆ ก็เจ็บ...
“หนูหวานไปแล้วนะคะ” แสนหวานลุกขึ้นโดยไม่สนใจจะรอวีลแชร์และตอนที่ลุกนี่เองเธอก็ต้องสะดุ้งร้องโอดโอยด้วยความเจ็บแปลบที่ข้อเท้าจนต้องทรุดนั่งลงไปที่เดิม
“โอ๊ย.. อูย...”
“ดื้อ.. บอกแล้วยังจะรั้นลุกไปอีก เป็นไงล่ะทีนี้เจ็บมากกว่าเดิม” โจนาธานดุเธอเบาๆ แสนหวานทำหน้าเหยเก
“หนูหวานขอโทษค่ะ แต่หนูหวานอยากกลับจริงๆ ง่วงนอนแล้ว” แล้วสาวน้อยตรงหน้าก็เริ่มงอแงขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“เอาล่ะๆ เดี๋ยวผมไปส่งหนูหวานเอง”
“แต่..”
“ไม่มีแต่ เอาล่ะอยู่นิ่งๆ ห้ามงอแง”
“หนูหวานไม่ได้งอแง” ใบหน้าจิ้มลิ้มงอง้ำเหมือนเด็กๆ โจนาธานทำท่าเหมือนจะหัวเราะเธอหันมาเจอก็ทำเสียงขุ่นใส่
“และหนูหวานก็ไม่ใช่เด็กด้วย”
“ครับ ผมรู้แล้วว่าหนูหวานไม่ใช่เด็ก” และเธอก็ ใหญ่โตมโหฬาร มากเลยเลยล่ะ..
“งั้นคุณก็ไปส่งหนูหวานได้แล้วค่ะ หนูหวานง่วงนอนจริงๆ นะคะ”
ตอนนี้แสนหวานรู้สึกเหนื่อยและเพลียมากที่สำคัญเธออยากจะเอาสร้อยคอทองคำที่ได้ไปอวดเพื่อนๆ อยากจับอยากลูบอยากคลำแล้ว เธอคิดไว้ว่ากลับไปจะรีบเอาไปให้แม่เป็นของขวัญปีใหม่เสียเลย
“ครับคุณผู้หญิง”
“อุ๊ยๆ เดี๋ยวค่ะ คุณโจจะทำอะไรคะ” แสนหวานอุทานพร้อมทั้งเอนกายไปด้านหลังเมื่อเขาก้มลงทำเหมือนจะทำอะไรสักอย่าง
“ก็จะไปส่งหนูหวานน่ะสิ เอาล่ะถ้าอยากกลับแล้วก็อย่าพูดมาก” โจนาธานพูดแล้วหยิบเสื้อคลุมมาสวมให้เธอซึ่งความยาวของมันก็คลุมเข่ามนพอดี
เขาไม่อยากให้ใครเห็นขาขาวๆ ของเธอแม้จะมีถุงน่องอีกชั้นก็เถอะ..
โจนาธานคิดในใจก่อนจะก้มลงช้อนร่างอวบอิ่มขึ้นมาอย่างง่ายดาย แสนหวานหน้าร้อนผ่าวแก้มสาวแดงจัดรีบตวัดแขนโอบรอบลำคอแกร่งไว้โดยอัตโนมัติ
“จริงๆ แล้วหนูหวานรอวีลแชร์ก็ได้ค่ะ” แสนหวานบอกเสียงอ่อยรู้สึกอ่อนแรงไปเสียอย่างนั้น
“ผมว่าหนูหวานอยู่นิ่งๆ เงียบๆ ดีกว่าครับ”
เขาบอกขณะเดินไปที่ลิฟต์โดยไม่สนใจสายตาของคนที่มองมาเพราะแม้คืนนี้จะมีปาร์ตี้ของพนักงานจากสาขาอื่นๆ แต่พนักงานสาขาใหญ่ก็ยังทำงานกันปกติเพราะได้ฉลองปีใหม่กันไปแล้วนั่นเอง และแม้ว่าคนที่นี่จะไม่มีใครรู้จักแสนหวานแต่เธอก็รู้สึกขัดเขินอับอายที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมโจนาธานจะต้องทำแบบนี้ด้วย เขาไม่กลัวมีข่าวหรือไงนะ...
