Ep.3 ในความเงียบ (3)
แล้วความมืดก็เริ่มเข้ามาปกคลุมเรื่อยๆ พร้อมกับห่าฝนที่โปรยเม็ดหนาลงมาราวกับฟ้ารั่ว
แล้วไฟก็ดับพึ่บ!
“คุณ ฉันกลัว” สายฟ้าแลบที่แลบแปลบปลาบอยู่ไกลๆ แต่ดูเหมือนมันจะอยู่ใกล้แค่นอกหน้าต่างเท่านั้น
พร้อมกับเสียงฟ้าคำรามดังกึกก้องไปทั่วน่านฟ้า
หญิงสาวผวาเฮือกเข้ากอดร่างสูงใหญ่ ร่างเล็กหอบหายใจหนักๆด้วยความตื่นกลัว กลัวไปหมดทุกสิ่ง
แล้วนาทีนี้ เธอไม่กลัวเขาแล้วหรืออย่างไร
เพตราสัมผัสได้เพียงร่างกายของเขาเท่านั้น ที่เธอกำลังโอบกอดอยู่ด้วยความกลัว ไม่สามารถหาคำตอบอื่นใดได้เลย
เธอกำลังกลัวจริงๆ
กลัวทั้งความมืด
กลัวทั้งเสียงฟ้าร้อง
กลัวทั้งสายฟ้าแลบ
ทำให้ความกลัวที่มีต่อคนตัวสูงใหญ่ตรงหน้า ที่เธอยังไม่รู้จัก ถูกลืมไปชั่วอึดใจ ในห้วงของความมืดสลัวท่ามกลางเสียงฝนที่ตกหนัก
และเธอรู้สึกได้ถึงวงแขนใหญ่ ที่ยกขึ้นมาโอบกอดเธอเอาไว้
เขายืนนิ่งๆ ให้เธอได้แอบอิง
‘ทำไมเขาถึงตัวเย็นชืดแบบนี้ล่ะ’
เพตราลืมตาโพรงในความสงสัยนั้น
และหญิงสาวไม่รู้เลยว่า บางสิ่ง กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้
“เพตรา”
“?!”
‘แล้วเขารู้ชื่อเธอได้ยังไง เธอจำได้ว่า เธอยังไม่ได้บอกเขาเลยนี่ ว่าเธอชื่ออะไร ร้อยพันเปอร์เซ็นต์ เขาไม่ใช่คนแน่นอน ไม่ใช่แน่ๆ ฮือ...’
เพตราอยากจะร้องไห้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น มองหน้าปีศาจหนุ่มในความมืด ทว่ามันประหลาดเหลือเกิน ที่เธอกลับมองเห็นใบหน้าของเขา เกือบแจ่มชัดในความมืดสลัว
เค้าโครงหน้าที่อยู่ในเงามืด ดูน่าเกรงขามมาก จนทำให้เธอใจสั่นระรัว
“เวส”
หญิงสาวกำลังตกใจมากอยู่แล้ว เสียงเรียกชื่อที่อยู่ด้านนอกประตูห้อง ยิ่งทำให้เธอตกใจหนักขึ้นไปอีก และตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อจู่ๆ ชายหนุ่มก็ก้มต่ำลงมา แล้วฉวยจูบเธออย่างดูดดื่ม และกอดเธอแน่นขึ้น จนสองเนินเนื้อ เบียดชิดกับแผงอกกว้าง จนบี้แบนไปกับกำแพงเนื้อหนังของเขา
เพตรานิ่งงันไม่ไหวติ่ง ราวกับถูปสาปให้เป็นก้อนหินไปชั่วขณะ ก่อนจะอ่อนยวบลงในวงแขนแกร่ง ที่กอดรัดเธอราวกับหวงแหน และจูบเธอดูดดื่มแบบไม่ให้หญิงสาวได้พักหายใจ ราวกับจะสูบเอาวิญญาณออกจากร่างของเธอ
“รักกับฉันนะเพตรา จะได้ไม่มีใครมายุ่งกับเธอ”
จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนกำลังจะลอยได้ แล้วไปนอนอยู่บนที่นอนนุ่ม โดยมีเขานอนทาบทับอยู่ด้านบน
‘ต้องฝัน เธอต้องฝันไปแน่ๆ’
ทั้งๆที่มีร่างใหญ่ทาบทับอยู่บนตัว แต่มันกลับไม่ได้หนักอึ้งอึดอัดแต่อย่างใด ทว่าเธอกำลังมึนงงสงสัย ว่าเธอได้ยินที่เขาพูดได้ยังไง ทั้งที่เขากำลังจูบเธออยู่อย่างนี้
‘นี่เธอกำลังเผชิญหน้าอยู่กับปีศาจ ที่ใช้กระแสจิตพูดคุยกับเธออยู่หรือนี่!’
ร่างเล็กพยายามดิ้นรนผลักไสร่างใหญ่ออกไปอย่างสุดฤทธิ์ แต่ทว่ายิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกเขากอดรัด ยิ่งผลักไสปีศาจหนุ่มให้ออกห่าง เขาก็ยิ่งรุกรานเข้ามาแนบชิดมากขึ้นไปอีก แถมยังทาบทับกดเบียดลงมาจนตัวเธอแทบจะจมมิดหายไปในความนุ่มของที่นอนสปริง
“อย่าพยายามดิ้นเลยนะเพตรา ยังไงเวลานี้เธอก็ต้องตกเป็นของฉัน ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่มีวันออกไปจากทาวเฮาท์หลังนี้ได้เลย หรือแม้แต่ห้องนี้เธอก็จะก้าวเท้าออกไปไม่ได้”
“ไม่นะ เพกลัว อย่าทำอะไรเพเลยนะ”
‘คนบ้าที่ไหนจะยอมให้ปีศาจร้ายมาขืนใจตนเองได้ง่ายๆ’
หญิงสาวยังพยายามดิ้นรนขัดขืนสุดชีวิต ปากก็ร้องอ้อนวอนขอให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด
“ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันขอร้อง”
“อ้อนวอนไป ดิ้นรนก็ไร้ประโยชน์ หรือเธออยากโดนพวกที่อยู่ข้างนอกดูดเลือด แล้วสูบกินวิญญาณของเธอล่ะ”
“ดูดเลือด!! สูบกินวิญญาณ!! ข้างนอกนั่นมีปีศาจดูดเลือดด้วยเหรอ!!”
‘โอย เธออยากจะเป็นลม หรือสลบไปเลยก็ได้ ไม่อยากรับรู้ถึงสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ตรงหน้านี้เลย มันยากเกินกว่าที่เธอจะรับไหว’
เพตราหวาดกลัวจนตัวสั่น
‘นี่เธอกำลังฝันไปใช่ไหมนี่ สาธุ ขอให้มันเป็นเพียงความฝันเถอะ มันต้องเป็นฝันร้ายแน่ๆ’
แต่นี่มันต่างจังหวัดนะ แล้วที่นี่ก็เป็นบ้านของป้าเธอด้วย และตั้งแต่เกิดมา เธอไม่เคยเจออะไรที่เหลือเชื่อแบบนี้มาก่อนเลย ไม่เคยเลยแม้แต่จะฝันถึง
