บท
ตั้งค่า

ตอนที่8 แต่งงานเพื่อปณิธานอันแน่วแน่

สามเดือนหลังจากถูกเคี่ยวกรำให้กลายเป็นสตรีดีพร้อมสำหรับออกเรือน

ด้วยไม่ต้องการให้เกิดเหตุใดผิดพลาดก่อนถึงวันแต่งงาน วั่นหรงจึงแอบรับโม๋เอ๋อร์เป็นบุตรสาวบุญธรรมอย่างลับๆ หาได้เปิดเผยออกไป เพราะอาจถูกคัดค้านจนเสียแผนการ ทั้งนี้ยังเป็นเกราะป้องกันชั้นหนึ่งอย่างดี หากเกิดเหตุใดผิดพลาดขึ้นหลังจากแต่งงาน เรื่องนี้อาจจะสามารถผ่อนหนักเป็นเบาได้ อย่างน้อยก็คงไม่ต้องถึงขั้นประหารเก้าชั่วโคตรกระมัง

โหวฮูหยินรู้ดีแก่ใจว่า เรื่องนี้นับเป็นการหลอกลวงเบื้องสูงอย่างสาหัส มีโทษถึงตาย ประหารทั้งตระกูล แต่นางก็ยังยอมเสี่ยงโดยไม่กลัวเกรงอาญาแผ่นดิน ด้วยรักบุตรสาวเหลือเกิน

ขอเพียงรัชทายาทหมิงเฉิงหลงใหลในตัวโม๋เอ๋อร์ก็เท่านั้น

วั่นหรงลอบฝึกปรือบ่มเพาะโม๋เอ๋อร์อย่างเข้มงวดจนมั่นใจว่าเสน่หานวลนางร้ายกาจเข้าขั้น จึงรู้สึกพึงพอใจมาก

เมื่องานมงคลเกิดขึ้นตามกำหนดการ โดยไม่มีคลาดเคลื่อนเลยแม้แต่น้อย

ฤกษ์งามยามอยู่บ้านเจ้าสาว มีสายตาหลายคู่จากคนบ้านโหว ไม่ว่าจะเป็นนายท่านโหว ฮูหยินรอง ฮูหยินสาม และอนุงดงามทุกนาง ยังมีบุตรธิดาอีกหลายคน ที่คอยจับจ้องด้วยริษยา

โม๋เอ๋อร์จึงอยู่ไกลๆ ไม่เข้าใกล้พิธี ส่วนหยูเสวี่ยก็ทำตัวตามปกติ แต่งกายทำผมทาชาดตั้งแต่ฟ้าสาง ดำเนินพิธีการที่บ้านได้อย่างแนบเนียน

รอจนเกี้ยวใหญ่หลังงามแปดคนหามมารอหน้าประตูจวนโหว ก็ได้เวลาช่วงสำคัญที่สุด นั่นก็คือสลับตัวเจ้าสาว

การแต่งงานของต้าหมิง สาวใช้คนสนิทที่เป็นสินเจ้าสาว มักจะได้รับสิทธิพิเศษนั่งกับเจ้าสาวเพื่อดูแลกันตลอดทาง

โม๋เอ๋อร์และหยูเสวี่ยอาศัยโอกาสในเกี้ยวหลังใหญ่นี้ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ระหว่างกัน ทั้งยังเปลี่ยนฐานะจากสาวใช้เป็นเจ้านาย จากคุณหนูเป็นสาวใช้

โดยหยูเสวี่ยคลายผมออกแล้วเกล้าเพียงมวยธรรมดาครึ่งศีรษะ เช็ดแป้งและสีชาดออกจนหมดจด เหลือเพียงใบหน้าเกลี้ยงเกลาขาวซีดเป็นสาวใช้เต็มตัว ก่อนจะช่วยแต่งหน้าทาชาดเกล้าผมให้โม๋เอ๋อร์อย่างถูกต้อง แล้วประเคนเครื่องประดับทุกสิ่งลงไป ตามด้วยผ้าคลุมสีแดงมงคลปิดจนมิด เป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์

ระยะทางจากจวนโหวเข้าวังหลวงมากพอที่หญิงสาวทั้งสองจะจัดการทุกอย่างได้อย่างแนบเนียน

ถึงแม้จะลำบากไปสักหน่อย หากแต่นี่คือสิ่งที่วั่นหรงกำชับหนักหนา ด้วยความหวังดีว่า โม๋เอ๋อร์จะต้องได้เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินให้ถูกต้องเท่านั้น ถึงจะเข้าหอได้

โม๋เอ๋อร์ในชุดสีแดงสดมีผ้าคลุมปิดทับอำพรางมิดชิดจึงเข้าพิธีแต่งงานตามลำดับพิธีการจนเสร็จสิ้นไร้อุปสรรคอันใด

จะให้มีอุปสรรคได้อย่างไร ในเมื่อตัวดำเนินการทุกขั้นตอนล้วนเป็นฮูหยินใหญ่วั่นหรง และผู้ช่วยเหลือก็คือหยูเสวี่ยที่เชื่อฟังมารดาทุกคำไม่มีตกหล่น

ทั้งสองคนกระทำการได้อย่างแนบเนียนไร้จุดจับสังเกต แม้แต่มดไต่ยังไม่อาจรอดเร้นสายตาของพวกนางสองแม่ลูก

ในขณะที่โม๋เอ๋อร์เองก็รู้สึกสนุกสนานยิ่ง นางให้ความร่วมมือกับฮูหยินใหญ่และหยูเสวี่ยเป็นอย่างดี

นอกป่าเขาเช่นนี้ มีกิจกรรมให้นางได้ละเล่นอยู่เสมอในทุกๆ วัน รู้สึกมีความสุขเหลือเกิน…

โม๋เอ๋อร์ได้เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินอย่างถูกต้องตามความประสงค์ของวั่นหรงเป็นอย่างดี เมื่อถึงฤกษ์ยามเข้าหอ โม๋เอ๋อร์ในชุดแดงคลุมผ้าแดงจึงถูกพาตัวมานั่งยังห้องสีแดงบนเตียงสีแดง

ทุกสิ่งแดงไปหมด นางชอบยิ่ง!

ภายในห้องตกแต่งด้วยสีแดงรื่นเริงเต็มไปหมด มีภาพลายอักษรมงคลคู่ บนโต๊ะจุดเทียนคู่หงส์เคียงมังกร ยังมีอาหารที่จัดแต่งอย่างประณีตวางเอาไว้

หยูเสวี่ยที่ปลอมตัวเป็นสาวใช้คนสนิทสินเดิมติดตามออกมาด้วย ได้แต่ยืนนิ่งตีสีหน้าเรียบเฉยอยู่ข้างๆ โม๋เอ๋อร์ แต่ในใจกลับเต้นระส่ำรุนแรง

นางกำลังตื่นเต้นเหลือเกิน

ทว่า...แม้จะตื่นกลัวไม่น้อย หากแต่หญิงสาวก็ยังคงกล่าวปลอบใจโม๋เอ๋อร์ตลอดเวลา และยามนี้ที่ในห้องไร้บ่าวไพร่ใครอื่น ทั้งสองจึงสามารถพูดคุยกันได้ตามปกติ

“โม๋เอ๋อร์ เจ้าไม่ต้องกลัว ท่านแม่ให้ข้ามาดูแลเจ้า ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”

หยูเสวี่ยกล่าวด้วยความหนักแน่นมั่นคงในจิตใจเป็นที่สุด นางต้องแน่ใจว่าโม๋เอ๋อร์จะได้รับความรักจากองค์รัชทายาทแล้วอย่างแท้จริง และปลอดภัยหายห่วงแล้วเท่านั้น

นางถึงจะตีตัวออกห่างตามคำสั่งของมารดาได้

‘เสวี่ยเอ๋อร์ของแม่ หากมีชายใดที่รักจริงรักเดียวปรากฏอยู่ตรงหน้า เจ้าจงอย่าลังเลที่จะผูกใจเขาเอาไว้ เพราะนอกจากอำนาจเงินทองใดๆ ล้วนไร้ความหมายแล้ว ชายที่รักเจ้าสุดหัวใจย่อมมีค่าที่สุด จำไว้...’

เสียงของวั่นหรงยังคงดังก้องอยู่ในหัวของหยูเสวี่ยตลอดเวลา ประหนึ่งเสียงจากสวรรค์ชั้นฟ้าก็ไม่ปาน

แน่นอนว่านางเองก็ปรารถนาเช่นนั้นมาโดยตลอด ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ มิใช่ว่านางไม่เคยเข้าใจความทุกข์ตรมในแววตาของมารดา เพียงแต่ยามนี้นางต้องออกจากจวนโหวออกมาก่อนเพื่อความแนบเนียน

และยังต้องอยู่ข้างกายโม๋เอ๋อร์ตลอดเวลา เพื่อที่ว่ายามเกิดปัญหาใดจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที

เพราะหากว่าคืนนี้มีอันใดผิดพลาด นางที่เป็นเจ้าสาวตัวจริงก็ยังอยู่ตรงนี้ มิได้หนีไปที่ใด

ถึงแม้อีกใจหนึ่ง หญิงสาวย่อมรู้ดี ว่ามารดาต้องการให้นางรีบสรรหาบุรุษคู่ใจสักคน เพื่อจะได้หนีไปให้พ้นวังวนตรงหน้า แต่นางยังห่วงโม๋เอ๋อร์นี่นา...

มิใช่เพียงหยูเสวี่ยฝ่ายเดียวที่กำลังคิดการณ์ปกป้องโม๋เอ๋อร์อยู่

หากแต่โม๋เอ๋อร์เองก็กำลังคิดการณ์เช่นเดียวกัน

หญิงสาวพร้อมเชื่อฟังและปกป้องทุกคนอยู่แล้ว เพราะทั้งวั่นหรงและหยูเสวี่ยคือครอบครัวของนางนี่นา

อีกอย่าง เรื่องการแต่งงานนี่ก็ไม่เห็นจะยากเลยสักนิด เพียงแค่ทำตามคำแนะนำทุกสิ่งจากฮูหยินที่สรุปได้เพียงสามคำ

ยั่วยวน เจ้าเล่ห์ และสมสู่

นางเคยเห็นสัตว์ป่าสมสู่กันบ่อยไป ไม่ว่าจะเป็นหมูป่า กวาง เก้ง ลิง นก ส่วนปลายังไม่เคยดำน้ำลงไปดูเสียที

หญิงสาวเหลือบตามองผ่านผ้าคลุมหน้าไปที่คานด้านบนของเรือนหอ ในใจก็ครุ่นคิดอีกว่า

หากจะสมสู่เยี่ยงลิงที่โหนอยู่บนต้นไม้คงไม่เหมาะ

เช่นนั้นแล้ว

แค่นอนราบบนเตียงนอนตามภาพในตำราที่โหวฮูหยินเปิดให้ดูก็พอกระมัง

หึหึ! ยากที่ใด?

โม๋เอ๋อร์นั่งหัวเราะอยู่ในใจภายใต้ผ้าคลุมหน้าสีแดง

เนิ่นนานผ่านไป เปลวเทียนเริ่มอ่อนแสง หากแต่เจ้าบ่าวก็ยังไม่ปรากฏกายเสียที

โม๋เอ๋อร์จึงทนมิได้อีกต่อไป

“คุณหนู ข้าหิวแล้ว”

หยูเสวี่ยได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตาโต รีบปรามเสียงเบา

“จุ๊ๆ เจ้าต้องเรียกข้าว่าเสี่ยวโม๋ ห้ามเรียกว่าคุณหนูนะ ส่วนข้าก็จะเรียกเจ้าว่าพระชายา อย่าลืมข้อนี้เชียว”

หญิงสาวในอาภรณ์สีแดงไม่สนใจอันใดอีกแล้ว นางหิวเหลือเกิน หญิงสาวเอื้อมมือเปิดผ้าออกแล้วเอ่ย “จะให้เรียกอะไรก็ช่างเถิด ข้าจะกินของบนโต๊ะนั่นได้หรือไม่” นางวาดนิ้วเรียวขาวชี้ไปทางอาหารมงคลบนโต๊ะสีแดง

หยูเสวี่ยรีบยกมือปราม “ไม่ได้เด็ดขาด”

“โอว...” โม๋เอ๋อร์เริ่มโอดครวญเสียงดัง “จะให้ข้าทำสิ่งใดก็ได้ ข้ายอมทั้งนั้น แต่เรื่องกินสำคัญกว่านะ”

ครานี้หยูเสวี่ยใช้สายตาจับจ้องสตรีบนเตียงอย่างจริงจัง แล้วเอ่ยเสียงดุดัน “ชิ้นเดียวนะ”

โม๋เอ๋อร์ได้ยินพลันยกยิ้มกว้างพยักหน้ารัวเร็ว “อื้ม”

คุณหนูในคราบสาวใช้จึงจับจูงมือเจ้าสาว แล้วพาเดินไปนั่งลงก่อนจะหยิบอาหารบนโต๊ะส่งให้อย่างใจดี

ถึงแม้จะรู้ว่าผิดธรรมเนียมไปบ้าง หากแต่กล่าวถึงความผิดแล้วละก็ มันก็ผิดตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่นา...

เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่

จากขนมหนึ่งชิ้นก็เพิ่มเป็นสองชิ้นสามชิ้นตามลำดับ

กระทั่งโม๋เอ๋อร์ทนหิวไม่ไหว กินทั้งหมดที่มีบนโต๊ะทุกสิ่ง

หยูเสวี่ยได้แต่ตกใจที่ห้ามอีกฝ่ายไม่ทัน

แต่กระนั้นเจ้าบ่าวแห่งค่ำคืนนี้ก็ยังไม่ปรากฏกาย

หญิงสาวทั้งสองพลันมองหน้ากันไปมา ตกลงกันว่าควรรอต่อไปอย่างสงบเสงี่ยมใจเย็นให้ถึงที่สุด แต่จนแล้วจนรอดกระทั่งดึกดื่น เจ้าบ่าวก็ยังไม่ก้าวเท้าเข้าประตูห้องมา เพื่อเข้าหอตามหน้าที่พึงมี

โม๋เอ๋อร์ให้รู้สึกผิดหวังยิ่งนัก นางอุตส่าห์ตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะมาสมสู่คู่ยวนยางตามคำสั่งของฮูหยินเชียวนา

นางตัดสินใจออกจากป่ามาก็เพื่อสิ่งนี้!

ทุกสรรพสัตว์ล้วนต้องเป็นไป เมื่อเกิดมาก็ต้องสมสู่สืบพันธุ์ และให้กำเนิดทายาทรุ่นต่อไป มิให้สายพันธุ์ดับสูญ

เรื่องนี้สำคัญยิ่ง!

โหวฮูหยินเองก็ยืนยันกับนางอย่างหนักแน่น ว่าเกิดเป็นหญิงแท้จริงนั้นไม่ยากเย็น แค่ต้องดูแลตนเองให้เติบโตอย่างงดงาม แล้วแต่งงานเพื่อร่วมหอ สร้างทายาทสืบไปมิให้สูญพันธุ์

หน้าที่ของมนุษย์ก็เท่านี้ นางแค่อยากเป็นมนุษย์ที่ดีคนหนึ่งก็เท่านั้น

โม๋เอ๋อร์ที่เติบโตมากับสัตว์ป่าสิบสองปี และมาอยู่กับมนุษย์อย่างวั่นหรงอีกสามปี

ถูกบ่มเพาะเพื่อการณ์นี้อย่างเข้มข้น

จึงมีปณิธานอันยิ่งใหญ่ ต้องทำให้สำเร็จให้จงได้

นางจะต้องสมสู่กับรัชทายาทหมิงเฉิงแล้วมีทายาทโดยไวเพื่อรักษาตำแหน่งพระชายาเอกเอาไว้อย่างแน่นเหนียว ไม่ให้ใครได้ช่วงชิงไปได้ ทั้งหมดเพื่อปกป้องตระกูลโหวให้อยู่รอดปลอดภัย

หญิงสาวคิดในใจอย่างเด็ดเดี่ยวพลางเดินปรี่ไปเปิดประตูห้องแล้วเดินดุ่มๆ ออกจากเรือนหอไป

หยูเสวี่ยเห็นเช่นนั้นก็ตกใจนัก จึงรีบวิ่งตามเจ้าสาวออกไปอย่างตื่นตะลึง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel