บท
ตั้งค่า

บทที่ 07 เจ้าชื่ออะไร?

“วันนี้โรงเตี๊ยมเรามีแขกเหมาเอาไว้ วันหน้าคุณหนูค่อยมาใหม่นะขอรับ” ชายเจ้าของโรงเตี๊ยมเอ่ยบอก หญิงสาวที่กำลังจะก้าวเดินเข้ามา

“ข้าเห็นว่าหน้าโรงเตี๊ยมของท่านไม่มีป้ายปิดเอาไว้ ว่าวันนี้ไม่ขาย ข้าจึงเดินเข้ามา” หญิงสาวเอ่ยบอกเช่นนี้ แล้วทอดสายตามองผู้คนในโรงเตี๊ยมมีแต่ผู้ชาย ทำให้นางรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพราะพวกเขามองมายังนางเป็นตาเดียวราวกับนางเป็นสิ่งแปลกประหลาด

“เช่นนั้นข้ามาวันหลังก็ได้” นางเอ่ยบอกแล้วหันหลังกลับ แต่ทว่านางกลับสะดุดกระโปรงยาวที่สวมใส่ทำให้นางจะล้มลงกับพื้น แต่ทว่ามือหนาของชายผู้หนึ่งโอบเอวของนางเอาไว้ได้ทัน

นางทอดมองใบหน้างดงามราวกับหยกแกะสลักอย่างประณีต เหมือนกับเทพเซียนปั่นแต่งใบหน้าเช่นนี้ให้หญิงสาวได้หลงใหลได้ไม่ยาก เพราะเขามีใบหน้าเรียวรูปไข่ มีคิ้วที่หนา นัยน์ดำสนิทเล็กกลม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนาเป็นกระจับหนาสวยได้รูป ถือว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามเลยทีเดียว

“ช่วยด้วย...ช่วยด้วย...” เสียงของหญิงสาวผู้หนึ่งดังขึ้นหน้าโรงเตี๊ยมทำให้นางคืนสติ นางจึงยืนขึ้น แล้วหันไปมองหญิงสาวผู้หนึ่งที่โดนลากมาหน้าโรงเตี๊ยม โดยมีชายวัยกลางคนใบหน้าโหดเหี้ยมลากนางเข้ามา พร้อมกับมีลูกน้องอีกสี่คนตามเข้ามาด้วย

“เถ้าแก่เปิดห้องด้านบนเลยข้าจ่ายไม่อั้น เสี่ยวหนิง เจ้าจะดิ้นจะร้องไปทำไมเล่า เดี๋ยวเจ้าก็เป็นเมียข้า” ชายวัยกลางคนเอ่ยบอกกับหญิงสาวที่เขาจับมา

“เจ้านางเดียวนี้” จ่างซุนลี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงดุดัน ชายวัยกลางคนหันมามองใบหน้าซุนลี่ที่มีใบหน้างดงามต่างกับหญิงสาวชาวผู้นั้นที่พวกเขาจับมา ชายวัยกลางคนจึงเข้ามาหาซุนลี่

“หญิงสาวผู้นี้เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงงดงามเช่นนี้ ข้าชักไม่อยากจะเอาเสี่ยวหนิงแล้ว เอาเจ้าไปเป็นอี๋เหนียงของข้าจะดีไม่น้อย” ชายวัยกลางคนเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงกระเส่านัยน์ตาเป็นประกายมองมาที่ซุนลี่ (อี๋เหนียง แปลว่า อนุภรรยา หรือ เมียน้อย)

ซุนลี่ชักกระบี่โดยทันทีแล้วเข้าจู่โจมชายวัยกลางคน ชายวัยกลางคนก็สู้นางไม่ถอย เยว่หัวจึงเข้าช่วยเหลือ รวมไปถึงทหารที่ใส่ชุดชาวบ้านประมาณยี่สิบคนเข้ามาตะลุมบอนกับกลุ่มชายโฉดผู้นี้ ข้าวของในร้านกระจัดกระจายแทบจะไม่ใช่โรงเตี๊ยมแล้ว กลุ่มชายโฉดเห็นท่าไม่อีกพวกมันล่าถอยออกไป ซุนลี่จึงเข้าไปหาหญิงสาวที่โดนพวกนั้นฉุดมา

“กูเหนียง เจ้าเจ็บตรงไหนหรือไม่” ซุนลี่เอ่ยถามเสี่ยวหนิง และเข้าไปประคองนางที่อยู่ที่พื้น ซึ่งนางก็ไร้เรี่ยวแรงเหมือนคนโดนยาชา

“ข้าไม่เป็นอะไร ข้าขอบคุณพวกท่านมากๆ บุญคุณครั้งนี้ เสี่ยวหนิงต้องตอบแทน ท่านผู้มีพระคุณ พวกท่านชื่ออะไรหรือ” เสี่ยวหนิงเอ่ยถาม

“เอ่อคือ...ข้าชื่อเสี่ยวซาน” ซุนลี่เอ่ยบอกนาง

“ส่วนข้าชื่อหวงเซียะ” เยว่หัวเอ่ยบอก แต่ทอดสายตามองซุนลี่ไม่วางสายตา แต่ซุนลี่กลับไม่ได้สังเกต

“ทำไมพวกมันต้องทำร้ายเจ้าเล่า” ซุนลี่เอ่ยถามนาง

“พวกมันจับข้ามา เพราะข้าติดหนี้มันห้าสิบตำลึงเงิน ถ้าข้าไม่คืนภายในเมื่อวานมันจะข่มขืนข้า วันนี้มันก็ทำจริงๆ” เสี่ยวหนิงเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงร่ำไห้

“ข้าจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เจ้า เจ้านำเงินถุงนี้ไป ข้ายกให้เจ้า เจ้านำเงินส่วนนี้ไปจ่ายพวกมัน และส่วนเหลือก็เอาไปตั้งตัวทำมาหากินอย่างสุจริต” ซุนลี่เอ่ยบอกแล้วส่งถุงแดงให้นาง

“ขอบคุณท่านมาก แต่ข้า...” เสี่ยวหนิงยังพูดไม่จบ ซุนลี่พูดขึ้นมาก่อน

“รับไป” ซุนลี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังส่งถุงเงินให้นางกับมือ

“ขอบคุณท่านมากจริงๆ” เสี่ยวหนิงเอ่ยบอกทั้งน้ำตา

“อาเฉียงเจ้าไปส่งนางด้วย เดี๋ยวใครจะมาทำร้ายนางอีก” เยว่หัวเอ่ยบอกเช่นนี้

“ขอรับ” หลี่เฉียงน้อมรับคำสั่งทันที แล้วหันมาหาเสี่ยวหนิง

“เชิญ เสี่ยวกูเหนียง” หลี่เฉียงเอ่ยบอกเสี่ยวหนิง เสี่ยวหนิงคารวะทั้งเยว่หัวและซุนลี่

“เสี่ยวซาน เจ้ากล้าหาญว่าหญิงทั่วไปยิ่งนัก” เยว่หัวเอ่ยชมซุนลี่ด้วยน้ำใสใจจริง

“ข้าเป็นนักเสียงดวง ชนะก็รอด แพ้ก็ตาย ข้าไม่ชอบเห็นใครทำร้ายผู้หญิงโดยไม่มีทางสู้” ซุนลี่เอ่ยบอกกับเยว่หัว

“บุญพาวาสนาทำให้เราได้มาเจอกัน ข้าขอนับเจ้าเป็นสหายได้หรือไม่” เยว่หัวเอ่ยถามนาง

“ได้สิ” ซุนลี่เอ่ยบอกและยิ้มให้เยว่หัว เยว่หัวยิ้มไม่เห็นฟันมองมาที่นาง

“ข้าก็เช่นกัน เถ้าแก่ข้าขอเหล้าที่ดีที่สุดในร้านสองไห ข้าจะจ่ายข้าเสียหายให้ท่านทั้งหมด เราสองคนมาฉลองกันเป็นสหายด้วยกัน” เยว่หัวเอ่ยบอกเช่นนี้

“ว่าแต่เจ้ามาจากไหน หรือเป็นคนในเมืองหลวง” เยว่หัวเอ่ยถามนาง

“ข้าเป็นคนในเมืองหลวง บ้านข้าอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ส่วนเจ้าคงเป็นคนต่างเมืองสินะ” นางเอ่ยถาม

“ใช่ข้าเป็นคนซีเซี่ยมาหาญาติในเมืองหลวง”

“เจ้าเจอญาติของเจ้าหรือยัง ถ้ายังไม่เจ้าข้าจะไปช่วยเจ้าหาดีหรือไม่”

“ข้าหาเจอแล้ว” เยว่หัวเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม

“เช่นนั้นเราดื่มกันเลยดีกว่า ไม่เมา ไม่เลิก”

“เอาอีก...เอาอีกหวงเซียะ...เอาอีก”

ซุนลี่บอกเยว่หัวที่ดื่มกับนาง โดยทหารของเขาคอยเฝ้าระวังเขาเช่นเดิม ส่วนซุนลี่หัวเราะคิกด้วยความเมามายจากเหล้าดอกท้อ

“เสี่ยวซาน ข้าเริ่มเมาแล้วนะ” เยว่หัวเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ เอาแขนหนุนหัวพาดกับโต๊ะ แสร้งเมาดูปฏิกิริยาของนาง

“ดื่มเป็นเพื่อนข้าก่อนสิ หวงเซียะ อาหรง อาเฉียง ข้าไม่เห็นเจ้าดื่มกับข้าเลย สหายข้าเมาแล้ว เหมือนหมาจังเลย” ซุนลี่เอ่ยบอกและหัวเราะคิกใช้มือเรียวเขี่ยจมูกเยว่หัวเบาๆ

“เขาไม่ดื่มกับเจ้าหรอก เขาต้องดูแลข้า” เยว่หัวเอ่ยบอกนาง แล้วใช้มือหนาจับมือนางที่กำลังเขี่ยจมูกของเขา

“เสียดายจัง เหล้าดอกท้อของที่นี่ขึ้นชื่อว่ากินแล้วเมา เมาเหมือนหมา” นางเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงขบขัน

“บ้านเจ้าอยู่ไหน ข้าจะไปส่ง” เยว่หัวเอ่ยถาม

“บ้านข้า...” นางไม่ทันเอ่ยบอกจบ นางก็หลับไปเสียแล้วราวกับตัดจบ

“เสี่ยวซาน...เสียวซาน เจ้าอย่าพึ่งหลับ เจ้าหลับแล้วข้าจะไปส่งเจ้าได้เช่นไร” เยว่หัวเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใช้มือหนาเขี่ยนาง นางก็ไม่ตอบสนองแต่อย่างใด เขาจึงมีวิธีเดียวคือ

ช้อนหลังและเรียวขาทั้งสองข้างก้าวเดินไปยังห้องนอนของโรงเตี๊ยม ซึ่งเป็นห้องนอนของเขา โดยมีหลี่เฉียงเป็นคนเปิดประตูออกให้เขาเข้าไป วางนางลงบนตั่งเตียง

“พวกเจ้าออกไปก่อน” เยว่หัวเอ่ยบอกองครักษ์ทั้งสอง

“ขอรับ” เว่ยหรงและหลี่เฉียงเอ่ยบอกพร้อมกัน แล้วก้าวเดินออกไปทันที

เมื่อประตูปิดลง เยว่หัวใช้มือหนาหาสัญลักษณ์ของนางว่านางมาจากสกุลใด เขาใช้มือหนาจับไปที่บั้นเอวของนาง เหมือนมีป้ายอะไรสักอย่างอยู่ในเสื้อ เขาจึงใช้มือล้วงดู และนำป้ายหยกขาวออกมา ทำให้เขารู้ว่านางชื่อ

“จ่างซุนลี่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel