บทที่ 2 – ให้หนูอยู่ด้วยนะคะ
ไอ้ผาดผู้ไม่เคยให้ใครเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง แต่วันนี้ต้องจำใจพาเด็กกะโปโลมอมแมมกลับมาที่คอนโดส่วนตัวของตัวเองด้วย เมื่อมาถึงเขาก็เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาสองขวด ขวดหนึ่งให้แขกตัวน้อยที่ตนพากลับมาด้วย อีกขวดให้ตัวเอง
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยหนู” ณดา จันทร์สว่าง หรือหลิน วัย 18 ปีเอ่ยขอบคุณผู้มีพระคุณของตนเอง แม้ใบหน้าของเขาจะโหดดุเหมือนโจรป่า แต่เขาก็จิตใจดีช่วยเหลือเธอจากคนของแม่เลี้ยง ณดาโตมากับพ่อและแม่เลี้ยง รู้มาตลอดว่าแม่เลี้ยงเกลียดตนเองและเมื่อพ่อได้จากไป แม่เลี้ยงก็พยายามส่งเธอไปให้เสี่ยๆ แต่เธอหนีรอดมาได้ แต่ครั้งนี้แม่เลี้ยงพาคนมาจับตัวเธอเพื่อจะไปส่งให้เสี่ยที่ท่านได้นำเธอไปขายให้ แต่ระหว่างทางเธอหนีรอดมาได้จนมาเจอกับชายหน้าโหดดุ แต่จิตใจดีช่วยไว้
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ฉันไม่ได้ตั้งใจจะช่วย ชื่ออะไร?”
“แต่ยังไงคุณก็ช่วยหนูไว้ หนูชื่อหลินค่ะ ชื่อจริงณดา อายุสิบแปดค่ะ”
“ไม่ต้องบอกละเอียดขนาดนั้น ฉันไม่ได้อยากรู้ ฉันชื่อผาด” เมื่อสาวน้อยบอกแนะนำตัวแล้วเขาจึงแนะนำตัวเองบ้าง ผาด สุขเกษม หรือไอ้ผาด วัย 37 ปี เขาเป็นมือซ้ายของคลังแสง งานของเขาคืองานสีเทา เขาช่วยเหลือเจ้านายหนุ่มดูแลบริหารงานมาหลายปี แม้จะเป็นมือซ้ายของคลังแสง แต่คลังแสงก็ปฏิบัติกับเขาและไอ้ขาบ เพื่อนรักเหมือนคนในครอบครัว จะว่าไปคลังแสงเห็นเขาและไอ้ขาบเป็นเหมือนน้องชายก็ว่าได้ ยิ่งตอนนี้เจ้านายหนุ่มแต่งงานมีครอบครัว ภาระหน้าที่งานทุกอย่างจึงมาตกที่เขากับไอ้ขาบ ไหนจะผับ ซ่อง กาสิโน และมีค้าขายอาวุธที่ต้องดูแลแทบไม่มีเวลาได้พักหายใจหายคอ และเขาก็เพิ่งกลับจากผับที่ไปตรวจมาและมาเจอกับเด็กสาวเนี่ยแหละ ไอ้ผาดเป็นมือซ้าย ส่วนไอ้ขาบเป็นมือขวา และแน่นอนทั้งสองโตมาจากสลัมเป็นเด็กกำพร้าที่เป็นขโมยประจำซอยและโชคดีจึงหลุดพ้นจากชีวิตน่าสมเพชพวกนั้น
“ขอบคุณนะคะ” สาวน้อยเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง
“ดึกมากแล้ว นอนค้างที่นี่ก็แล้วกัน โซฟานี้เธอนอนได้ พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากัน” แล้วไอ้ผาดก็เดินไปยังห้องนอนตัวเองพร้อมกับเสียงปิดประตูแนบสนิทโดยไม่รอฟังณดาตอบกลับ
ปึก!
ณดามองประตูห้องนอนที่ปิดสนิทพร้อมกำขวดน้ำในมือแน่นแล้วมองไปรอบๆ ห้องที่ตกแต่งโทนสีเทาและดำเข้ากับใบหน้าดุดันของเจ้าของห้อง ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงโซฟาแล้ววางขวดน้ำไว้โต๊ะกลาง ก่อนจะล้มตัวลงนอนกอดหมอนอิงจนเผลอหลับไปในที่สุด
ไอ้ผาดนอนลืมตาโตในความมืด ผ่านมาเกือบสองชั่วโมง เขาก็นอนไม่หลับด้วยไม่คุ้นชินกับการมีคนอื่นมาอยู่คอนโดส่วนตัวกับตนเอง ปกติเขาไม่เคยพาใครมาค้างที่นี่ขนาดไอ้ขาบก็ยังไม่เคยมานอนค้างด้วย ส่วนสาวๆ เขามีห้องประจำที่ใช้เชือดอยู่แล้ว
“แค่คืนเดียวไอ้ผาด พรุ่งนี้ก็ไปส่งเด็กนั่นที่บ้านแล้วก็จบ” ไอ้ผาดบอกตัวเองในความมืดพร้อมดีดตัวลุกขึ้นแล้วลุกลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูห้องออกไปเห็นเด็กสาวนอนขดตัวกอดตัวเองบนโซฟาในห้องนั่งเล่นที่เปิดไฟสว่างจ้าอยู่
“แม่งเอ้ย!” เขาสบถออกมาด้วยความหงุดหงิด หงุดหงิดตัวเองที่ทนมองภาพนั้นไม่ได้จนต้องเดินย้อนกลับเข้าไปในห้องนำผ้าห่มของตนเองออกไปห่มให้เด็กสาว ในห้องของเขาไม่มีผ้าห่มสำรอง เขาจึงเอาของเขาให้เด็กน้อยห่ม
“มอมแมมขนาดนี้จะขายได้เท่าไหร่กันเชียว” ไอ้ผาดมองใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบดำๆ เต็มหน้าแล้วก็เดินกลับเข้าห้องตัวเองเพื่อไปข่มตานอนต่อ
ไอ้ผาดตื่นมาในตอนเช้าด้วยความเผลอลืมว่าตัวเองรับเด็กสาวมาด้วย เมื่อคืนเขาจึงเดินออกมาจากห้องนอนด้วยกางเกงนอนตัวบางขาสั้นตัวเดียว ท่อนบนเปลือยเปล่า
“ตื่นแล้วเหรอคะ หนูไม่รู้คุณชอบกินอะไร หนูเปิดตู้เย็นเห็นมีไข่ หนูเลยทำไข่เจียวและหุงข้าวไว้ให้คุณค่ะ”
เท้าหนาที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงัก มือที่กำลังยกขึ้นเสยผมก็หยุดค้างกลางอากาศมองไปทางต้นเสียงสดใสที่ไม่คุ้นหูของตนเองและนั่นแหละถึงจำได้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียวในห้องนี้
ณดามองดูร่างที่เปลือยท่อนบน สวมใส่กางเกงนอนขาสั้นตัวบางและถ้าเธอมองไม่ผิด สิ่งที่กำลังตุงโตที่เป้ากางเกงตัวบางนั้นคือความเป็นบุรุษของเขา สาวน้อยยกมือขึ้นปิดตาตัวเองพร้อมสองแก้มแดงระเรื่อซับสีเลือดขึ้น
“ขอบใจ แต่จะดีมากที่เธอไม่ทำมัน เพราะฉันไม่ชอบให้คนนอกมาวุ่นวายในห้องของฉัน” ไอ้ผาดตอบกลับเสียงห้วนแข้งแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อแต่งตัวให้เรียบร้อย
สาวน้อยหน้าเศร้ากับคำพูดของเจ้าของห้อง เธอเดินกลับไปนั่งยังโซฟาที่ตนเองนอนเมื่อคืนแล้วมองผ้าห่มผืนใหญ่ที่ตนพับเก็บไว้ตั้งแต่ตื่นเช้า เธอตั้งใจทำกับข้าวตอบแทนบุญคุณของผาดจึงตื่นแต่เช้าล้างหน้าล้างตา หุงข้าว ทำไข่เจียวไว้รอเขาตื่น แต่พอเขาตื่นมากลับแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาชัดเจน
