บทที่ 4 จากลา / พบเจอ
บทที่ 4 จากลา / พบเจอ
วันต่อมาเป็นการหาข้อมูล
หลังจากทดสอบระบบมิติและจัดการเรื่องเสบียงพื้นฐานเสร็จสิ้นและขนซื้อของมากมาย ที่ทะยอยมาส่งที่โกดัง ในตอนจะเป็นช่วงเวลาของการหาข้อมูลและความรู้เพิ่มเติม
"การมีของวิเศษคือแต้มต่อ...แต่การมี 'ข้อมูล' คือชัยชนะที่แท้จริง"
นิ้วเรียวรัวแป้นพิมพ์อย่างคล่องแคล่ว หน้าจอคอมพิวเตอร์ปรากฏข้อมูลประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่ยุค 60 จนถึงปัจจุบัน เธอเริ่มสร้าง 'ไทม์ไลน์แห่งความมั่งคั่ง' ลงในไฟล์ Excel อย่างละเอียด
ปี 1976: ท่านผู้นำเหมาเจ๋อตุงถึงแก่อสัญกรรม...ยุคสมัยแห่งความโกลาหลกำลังจะจบลง
ปี 1977 (ปีหน้าของยุคที่เธอกำลังจะไป) : จุดเปลี่ยนที่ 1 การฟื้นฟูระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยใครที่มีความรู้คือผู้ชนะ เธอต้องเตรียมหนังสือเรียน ม.ปลาย ไปเก็งข้อสอบให้ตัวเองและครอบครัว!
ปี 1978: จุดเปลี่ยนที่ 2 เติ้งเสี่ยวผิงขึ้นสู่อำนาจ เริ่มนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ ระบบนารวมจะถูกยกเลิก ชาวนาเริ่มมีอิสระ นี่คือโอกาสทองในการสร้างธุรกิจ
ปี 1980: จุดเปลี่ยนที่ 3 การประกาศจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น (Shenzhen SEZ) ที่ดินรกร้างราคาถูกแสนถูกจะกลายเป็นทำเลทองฝังเพชร เธอวงกลมสีแดงตัวโตๆ ไว้ที่แผนที่
"ต้องไปกว้านซื้อที่ดินที่นี่ให้ได้!"
หมอหยางยิ้มมุมปาก แววตาเป็นประกายวาววับ "ในยุค 80 คนเริ่มรวย จะโหยหาสิ่งของอำนวยความสะดวก ยุค 90 ตลาดหุ้นเกิด ยุค 2000 โลกอินเทอร์เน็ตบูม... ฉันจะดักรอทุกทางเข้าออกของเงินหยวน!"
เธอปรินต์ข้อมูลกราฟหุ้นตัวท็อป 20 ตัวที่ราคาพุ่งทะยานที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหลักทรัพย์จีน พันธบัตรรัฐบาลที่จะพุ่งขึ้นช่วงไหน พร้อมระบุวันเดือนปีที่ราคาต่ำสุดและสูงสุดอย่างแม่นยำ รวมถึงข้อมูล Bitcoin และเหรียญคริปโตฯ ในอนาคต
"นี่ไม่ใช่แค่โพยข้อสอบ... แต่มันคือลายแทงขุมทรัพย์ที่คนทั้งโลกต้องอิจฉา!"
"ทองคำ..." เธอนั่งเคาะโต๊ะครุ่นคิด "ยุค 70-80 ทองคำในจีนราคาถูกเหมือนเศษเหล็ก เพราะคนต้องการข้าวกินมากกว่าทอง...ตัดทิ้ง! ไปกว้านซื้อที่นู่นเอา แต่สิ่งที่แพงและหายากคือ อาหารซึ่งฉันมีพร้อมแล้วแต่สิ่งที่ต้องนำไปด้วยอีกคือ ยาสมุนไพร"
เธอตัดสินใจใช้เงินส่วนหนึ่งสั่งซื้อโสมคนป่าพันปี เห็ดหลินจือเกรดจักรพรรดิ และถั่งเช่าสีทองจำนวนมาก "ของพวกนี้เอาไปบำรุงร่างกายก็ดี หรือจะเอาไปมอบให้ผู้ใหญ่เพื่อเบิกทางอำนาจก็ได้ เป็นของขวัญที่ทรงพลังที่สุดในยุคนั้น"
เมื่อเอกสารข้อมูลสำคัญถูกปรินต์และเก็บเข้ามิติอย่างปลอดภัย สิ่งต่อมาที่ต้องทำคือการไปบอกลาเพื่อนและคนไข้ของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่สามารถบอกได้ตรงๆ แต่เธอก็ทำงานโรงพยาบาลมานาน ความรู้สึกผูกพันมันต้องมี
----
กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ...กลิ่นที่เป็นดั่งลมหายใจของเธอมาตลอดชีวิต หยางชิงโม่ก้าวลงจากรถลัมโบร์กินีสีดำสนิท เบื้องหน้าคือตึกระฟ้ากระจกเงาวับของ โรงพยาบาลเอกชนเซี่ยเฉิน Xie Chen Hospital and Care’ โรงพยาบาลเอกชนที่ทันสมัยที่สุดในปักกิ่ง สถานที่ที่เธอใช้เวลาครึ่งชีวิตอุทิศให้กับความเป็นความตายของผู้คน แต่วันนี้...มันกลับดูแปลกตาไป ราวกับเธอเป็นเพียงนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยือนสถานที่ในความทรงจำ
รองเท้าส้นสูงสีขาวแบรนด์หรู กระทบพื้นหินอ่อนดัง ตึก ตึก ตึก เป็นจังหวะสม่ำเสมอ ทุกสายตาของพยาบาลและแพทย์ฝึกหัดต่างหันมองด้วยความชื่นชมระคนเกรงใจ
"สวัสดีครับอาจารย์หมอหยาง!"
"สวัสดีค่ะคุณหมอหยาง วันนี้ไม่มีเวรผ่าตัดไม่ใช่เหรอคะ?"
หยางชิงโม่เพียงพยักหน้าตอบรับด้วยรอยยิ้มบางเบา รอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา วันนี้เธอไม่ได้มาเพื่อรักษาใคร แต่เธอมาเพื่อรักษาความทรงจำของตัวเอง
เธอเดินตรงไปยังแผนกศัลยกรรมประสาท ห้องทำงานของเธอที่ตอนนี้สะอาดเอี่ยม เพราะเธอเพิ่งเคลียร์ของส่วนตัวออกไปจนเกือบหมด เหลือไว้เพียงเสื้อกาวน์สีขาวที่แขวนอยู่บนราวเหล็ก...ดั่งชุดเกราะที่รอคอยเจ้าของ
"อ้าว! ชิงโม่? ลมอะไรหอบเธอมาเนี่ย ฉันนึกว่าเธอลาพักร้อนยาวเตรียมตัวไปเที่ยวรอบโลกแล้วซะอีก"
เสียงทุ้มห้าวที่คุ้นเคยดังขึ้นจ้าวซูอี้ ศัลยแพทย์หัวใจมือฉกาจ เพื่อนสนิทและคู่กัดตลอดกาลของเธอเดินเข้ามาพร้อมแก้วกาแฟในมือ เขาเป็นคนเก่ง เป็นอัจฉริยะที่หยางชิงโม่ยอมรับในฝีมือ แต่ปากเสียเป็นที่หนึ่ง หยางชิงโม่หันกลับมามองเพื่อนรัก เธอยืนพิงโต๊ะทำงาน ยกมือกอดอกด้วยท่าทีผ่อนคลายที่หาได้ยาก
"ก็แค่... คิดถึงกลิ่นโรงพยาบาลน่ะ เลยแวะมาดูหน้าหมอฝีมือตกแถวนี้หน่อย"
จ้าวซูอี้ หัวเราะร่า "ปากร้ายเหมือนเดิม! ถ้าเธอไม่อยู่ แผนกศัลยกรรมคงเงียบเหงาพิลึก ขาดคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อแบบเธอ ชีวิตฉันคงน่าเบื่อแย่"
ไม่รู้เพราะอะไรอยู่จ้าวซูอีก็พูดขึ้นมา
คำพูดนั้นแทงใจเธอเข้าอย่างจัง... ใช่ นายคงเหงาแน่ๆ เพราะฉันจะไม่กลับมาเถียงกับนายอีกแล้วหมอซู
หยางชิงโม่เดินเข้าไปใกล้เพื่อนรัก หยิบปากกาหมึกซึมราคาแพงด้ามโปรดที่สลักชื่อเธอวางใส่มือเขา
"รับไปสิ"
"หือ? ให้ฉันทำไม? ปากกานำโชคของเธอนี่" ฉินหยางเลิกคิ้วมองอย่างงุนงง
"ถือซะว่าเป็นของมัดจำ..." เธอสบตาเขานิ่ง แววตาที่เคยแข็งกร้าวและเย็นชาในห้องผ่าตัด บัดนี้กลับไหวระริกด้วยคลื่นอารมณ์ที่ซ่อนเร้น
"ฝากดูแลคนไข้ที่นี่ด้วยนะซูอี้ ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน...บนโลกนี้ หรือที่ไหนก็ตาม จำไว้ว่าเป้าหมายของเราเหมือนกัน คือยื้อชีวิตคนจากมัจจุราช"
"เฮ้... พูดจาแปลกๆ เหมือนจะไปออกรบอย่างนั้นแหละ ก็แค่ลาพักร้อนไม่ใช่เหรอ?"
หยางชิงโม่ยิ้มมุมปาก ยิ้มที่ดูเท่และเศร้าสร้อยที่สุดเท่าที่ฉินหยางเคยเห็น
"การเป็นหมอ...ทุกที่คือสนามรบซูอี้ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน อุปกรณ์จะทันสมัยหรือมีแค่มีดเล่มเดียว หน้าที่ของเราไม่เคยเปลี่ยน...คือการรักษา"
เธอตบไหล่เขาเบาๆ สองที ก่อนจะเดินผ่านเขาไปโดยไม่หันกลับมามอง ทิ้งให้จ้าวซูอี้ยืนกำปากกาด้ามนั้นแน่น พร้อมกับความรู้สึกสังหรณ์ใจประหลาดที่ก่อตัวขึ้น
.....
หยางชิงโม่เดินมาหยุดที่หน้าห้อง ICU ห้องกระจกใสที่กั้นกลางระหว่างความเป็นและความตาย บนเตียงนั้นคือร่างเล็กของ 'น้องผิงผิง' เด็กหญิงวัย 7 ขวบที่ป่วยเป็นเนื้องอกในสมองชนิดหายาก เป็นเคสที่หยางชิงโม่ทุ่มเทรักษามาตลอดครึ่งปี และมีกำหนดผ่าตัดในเดือนหน้า...การผ่าตัดที่เธอจะไม่ได้เป็นคนลงมือ
หยางชิงโม่วางมือนาบบนกระจกเย็นเฉียบ มองดูหน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงช้าๆ ของเด็กน้อยด้วยสายตาที่เจ็บปวด ความรู้สึกผิดกัดกินหัวใจ... เธอเลือกที่จะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทิ้งภาระหน้าที่ไว้เบื้องหลัง
"ขอโทษนะผิงผิง..." เธอพึมพำเสียงแผ่วเบา
"หมอคงไม่ได้อยู่ดูหนูเติบโตแล้ว"
ทันใดนั้น เสียงเตือนจากนาฬิกาข้อมือก็ดังขึ้นเบาๆ เวลาของเธอกำลังลดน้อยลงทุกวินาที เธอสูดหายใจลึก ปรับสีหน้าให้กลับมาเรียบเฉยและมั่นคง เธอรู้ดีว่าเธอเตรียมการไว้หมดแล้ว เธอโอนเคสนี้ให้ศาสตราจารย์หัวหน้าภาควิชาดูแลต่อ พร้อมกับทิ้งบันทึกแนวทางการรักษาที่ละเอียดที่สุดไว้ให้ เงินบริจาคก้อนโตที่เธอทิ้งไว้จะครอบคลุมค่ารักษาทั้งหมดของเด็กคนนี้จนหายดี
"การจากลาที่ดีที่สุด... คือการจากไปโดยไม่ทิ้งภาระ แต่ทิ้งความหวังไว้"
เธอหันหลังกลับ ตั้งใจจะเดินออกจากตึก แต่สายตาเหลือบไปเห็นกลุ่มนักศึกษาแพทย์ปี 1 ที่กำลังเดินตามอาจารย์หมออย่างกระตือรือร้น แววตาที่เต็มไปด้วยความฝันและความมุ่งมั่นของเด็กๆ พวกนั้น สะท้อนภาพตัวเธอในอดีต
หยางชิงโม่หยุดเดิน ยืนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ โลกใบนี้หมุนต่อไปได้โดยไม่มีเธอ... เทคโนโลยีที่นี่ก้าวหน้าไปไกลแล้ว แต่โลกที่เธอกำลังจะไป... โลกปี 1978 ที่นั่นต่างหากที่ต้องการเธอ ที่นั่นต้องการความรู้ของเธอ ต้องการเทคนิคการผ่าตัดที่ล้ำหน้า ต้องการยาปฏิชีวนะที่เธอขนไปเต็มมิติ จากหมอผู้รักษาคนรวยในตึกระฟ้า... สู่หมอเทวดาเดินดินในยุคปฏิรูป
"ลาก่อน ปักกิ่งปี2025"
หยางชิงโม่ถอดบัตรประจำตัวแพทย์ที่คล้องคออยู่ออก นิ้วเรียวลูบไล้รูปถ่ายและชื่อ 'ศาสตราจารย์แพทย์หญิงหยางชิงโม่' เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะวางมันลงบนเคาน์เตอร์พยาบาลอย่างเงียบเชียบ ไม่มีคำอำลาฟูมฟาย ไม่มีฉากดราม่าร้องไห้โฮ มีเพียงแผ่นหลังเหยียดตรงที่เดินเชิดหน้าออกจากประตูโรงพยาบาล แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องกระทบร่างของเธอจนเกิดเงายาวทอดลงบนพื้น...เงาของตำนานที่กำลังจะเลือนหายไปจากยุคปัจจุบัน เพื่อไปสร้างตำนานบทใหม่ในอดีต
วันสุดท้ายมาถึง... เธอเขียนพินัยกรรมที่คอนโด บริจาคที่ดิน คอนโดมิเนียม และบ้านเช่าทั้งหมดให้กับโรงพยาบาลและสถานสงเคราะห์ "ฉันจะจากไปแบบขาวสะอาด ไร้ซึ่งห่วงกังวล" เธอทิ้่งจดหมายเอาไว้ เมื่อพวกเขามาเห็นก็จะจัดต่อเอง
.....
[ริมทะเล - 1 ชั่วโมงสุดท้าย]
สายลมทะเลพัดเอากลิ่นเกลือและเสียงคลื่นซัดสาดเข้ามาปะทะใบหน้า หยางชิงโม่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารริมหาดที่จองไว้เพียงลำพัง แก้วไวน์แดงราคาแพงระยับถูกยกขึ้นจิบ รสชาติฝาดเฝื่อนผสมหวานล้ำลึกไหลลงคอ เบื้องหน้าคือเส้นขอบฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล... เหมือนอนาคตที่คาดเดาไม่ได้
กระดาษสีทองในมือกำลังนับถอยหลัง ตัวเลขสีแดงเต้นระริก
[00 วัน : 00 ชั่วโมง : 15 นาที : 30 วินาที]
"น่าขำสิ้นดี..." เธอแค่นหัวเราะกับตัวเอง
"คนทั้งโลกดิ้นรนแทบตายเพื่อหนีความจน แต่ฉัน...มหาเศรษฐีพันล้าน กลับทิ้งทุกอย่างเพื่อไปอยู่บ้านดิน กินหัวมัน"
แต่เมื่อหลับตาลง ภาพเด็กน้อยสามคนที่ร้องไห้หิวโหยในความฝันกลับชัดเจนยิ่งกว่าภาพเงินในบัญชี ภาพชายหนุ่มในชุดทหารสีเขียวมอซอที่ยืนหันหลังให้เธอ... 'เฉินหวังตง' สามีในนามที่เธอไม่เคยเห็นหน้าชัดๆ สักที
"เอาเถอะ... ถือว่าไปผจญภัย"
หยางชิงโม่หยิบแหวนหยกขึ้นมาจูบเบาๆ แววตาเปลี่ยนจากความอาลัยอาวรณ์ เป็นความมุ่งมั่นที่ลุกโชน
"ยุค 70 จ๋า... แม่มาแล้ว เตรียมตัวรับแรงกระแทกได้เลย!"
[00 : 00 : 00 : 10]
[00 : 00 : 00 : 05]
[00 : 00 : 00 : 01]
วูบ!
.......
ณ หมู่บ้านชนบทอันห่างไกล ในปี 1978...
"ฮือ...ฮือ...แม่จ๋า...แม่...ตื่นสิแม่"
“แม่ครับ แม่ตื่นนะ หิวแล้ว... พวกหนูหิวแล้วครับ”
เสียงร้องไห้ระงมประสานกันปลุกให้หยางชิงโม่ลืมตาตื่นขึ้น...แม้ร่างกายจะรู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่สมองของเธอกลับแจ่มชัดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
"ฉัน... มาถึงแล้ว!"
ยินดีต้อนรับสู่ปี 1978... การผจญภัยของคุณหมอสาว ผู้ย้อนเวลาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
*** มีคนร้องไห้รอแม่อยู่ที่ปี 1978 แล้ว!! ****
