บท
ตั้งค่า

2. ชีวิตรันทด

“ไปกันหมดแล้วค่ะ..ก็คงจะกลับมาตอนเย็นอีกที”

งามพิศ รีบบอกให้คุณหนูของหล่อนสบายใจ

“งั้นป้าพิศ..ช่วยเอาของว่างไปที่ห้องของคุณป้าดีกว่า...ดาจะไปทานกับท่านที่นั่น”

ฉัตรธิดา บอกด้วยสีหน้าดีขึ้น แววตาเศร้าสร้อยจางหายไปจากดวงตาคู่สวย

“คุณถนอมจิตไม่ว่างค่ะ..อยู่ที่ห้องใต้ดิน”

งามพิศ บอกเสียงอ่อนโยน

ฉัตรธิดา พยักหน้ารับรู้ หล่อนรู้ว่าป้าถนอมจิต มักจะใช้เวลาอยู่ที่ห้องใต้ดินที่เป็นทั้งห้องสมุด และห้องสำหรับเขียนภาพ โดยเฉพาะเวลาที่ถนอมจิต เกิดความเครียดหรือไม่สบายใจก็จะไปขลุกอยู่ที่ห้องเขียนภาพ ป้าของหล่อนบอกว่าการได้วาดภาพได้ใช้จินตนาการต่าง ๆ นั้นช่วยคลายเครียดได้เป็นอย่างดี

ฉัตรธิดา เข้าใจถึงเหตุผลที่ป้าถนอมจิตไม่ไปร่วมพิธีหมั้นของหล่อนเมื่อเช้านี้ แต่กลับไปหมกตัวอยู่ที่ห้องเขียนภาพแทน นั่นเป็นเพราะสภาพร่างกาย และจิตใจของถนอมจิตไม่พร้อมที่จะเปิดเผยต่อใครได้ ซึ่งเรื่องนี้ฉัตรธิดา ก็เคยสงสัยมาก่อนที่เห็นป้าถนอมจิต มีรอยแผลเป็นนูนเด่นชัดบนใบหน้าซีกซ้ายและลำคอ รวมทั้งที่แขนทั้งสองข้างด้วย

ฉัตรธิดา มักจะเห็นป้าใส่เสื้อแขนยาวอยู่เสมอ พร้อมกับมีผ้าแพรสีต่าง ๆ แต่ส่วนมากจะเป็นสีดำใช้คลุมศีรษะและพันไว้รอบคอ

ฉัตรธิดา ในวัยห้าขวบ เคยถามถนอมศรี ผู้เป็นมารดาถึงสาเหตุที่ทำให้ป้าถนอมจิต ดูแตกต่างจากคนอื่น ๆ ทว่ามารดาของหล่อนสั่งห้ามไม่ให้หล่อนไปซักถามป้าในเรื่องแผลเป็น มารดาบอกเพียงว่าป้าของหล่อนเกิดอุบัติเหตุโดนไฟไหม้ ถ้าหล่อนรักป้าจะต้องไม่ไปถามป้าให้สะเทือนใจ

หล่อนจึงเชื่อฟังมารดาไม่ยอมซักถามเรื่องของป้าตั้งแต่นั้นมา เพราะหล่อนรักป้าถนอมจิตมาก พอ ๆ กับที่รักมารดา หล่อนจึงไม่อยากให้ป้าต้องเสียใจ และฉัตรธิดาก็รู้สึกชินกับสภาพของป้า ซึ่งต่างจากคนรับใช้ที่อยู่มาหลายปีก็ยังมีตกใจบ้างเป็นบางครั้งที่เห็นถนอมจิต เดินโผล่เข้าไปในห้องต่าง ๆ ทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ

“คุณหนูจะเปลี่ยนชุดเลยไหมคะ ป้าจะให้น้อยหน่าไปจัดชุดใหม่ให้”

งามพิศ ถามด้วยความเอาใจใส่

“ไม่เป็นไรค่ะ..ดาจัดการเอง ป้าพิศกับน้อยหน่าไปพักผ่อนเถอะ วันนี้ก็ดูแลดาทั้งวันแล้ว ดาก็อยากจะนอนพักสักครู่เหมือนกัน”

หล่อนบอกกับคนรับใช้ทั้งสอง

“งั้นป้าจะมาปลุกตอนห้าโมงเย็นนะคะ..จะได้เตรียมตัวลงไปทานข้าวกับครอบครัวของท่านก้องภพ”

ฉัตรธิดา พยักหน้าเนือย ๆ งามพิศ รีบสะกิดแขนให้น้อยหน่าเดินออกไปจากห้องพร้อมกัน

พอคล้อยหลังคนรับใช้ทั้งสองไปแล้ว ฉัตรธิดา ก็จัดการเปลี่ยนชุด มาเป็นเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงขาสั้น ก่อนจะล้มตัวนอนบนเตียง

สายตาของหล่อน เหม่อมองขึ้นไปบนเพดานห้องคล้ายกับคนที่คิดไม่ตก หล่อนนอนในท่าเดิมอยู่นานจนรู้สึกเมื่อยจึงขยับตัวนอนตะแคงบ้าง...คราวนี้สายตาของหล่อนมองไปเห็นภาพถ่ายที่วางอยู่มุมโต๊ะเล็กข้างเตียง

“แม่..”

ฉัตรธิดา พึมพำก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบรูปนั้นมาดูใกล้ ๆ รอยยิ้มของคนในภาพถ่ายทำให้หล่อนรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาได้บ้าง

“แม่ขา..ดาไม่อยากจะแต่งงานแม่ช่วยดาได้ไหมคะ”

หล่อนพูดกับรูปถ่ายประหนึ่งต้องการที่พึ่งพิงทางใจ

หากถนอมศรี มารดาของฉัตรธิดา ยังมีชีวิตอยู่ก็คงจะไม่สามารถช่วยเหลือหล่อนได้อยู่ดี

ภาพของมารดาในความรู้สึกของฉัตรธิดา คือ ภรรยาที่อยู่ภายใต้คำสั่งของสามี ถนอมศรี ไม่เคยมีปากมีเสียงกับฉัตรชัย ซึ่งมักจะต่างจากถนอมจิต ที่คอยปรามฉัตรชัย ไม่ให้ใช้อำนาจกับถนอมศรี ผู้เป็นน้องสาว บิดาดูจะเกรงใจป้าของหล่อนอยู่มาก แต่บางครั้งบิดาก็ขึ้นเสียงกับป้าถนอมจิต อยู่เหมือนกัน

ฉัตรธิดา หลับตาลงช้า ๆ ด้วยความเหงาว้าเหว่ ภาพในวัยเด็กที่เคยมีมารดาอยู่ด้วยผุดขึ้นมาในห้วงคำนึง โดยเฉพาะภาพสุดท้ายวันที่มารดาเสียชีวิตมันติดตาหล่อนมาจนทุกวันนี้

มารดาหล่อน ตกบันไดจมกองเลือด โดยที่หล่อนเห็นบิดากับป้ายืนมองอยู่ข้างบน ป้าของหล่อนตกใจพอ ๆ กับที่หล่อนกรีดร้องวิ่งเข้าไปกอดร่างของมารดาร่ำไห้ปานจะขาดใจตาย

ป้าถนอมจิต ก็รีบวิ่งลงมาหาหล่อนกับมารดาในเวลาต่อมา แต่บิดาของหล่อนกลับเดินลงมาข้างล่าง ด้วยท่าทางเรียบเฉยไม่ได้สนใจมารดาสักนิดเดียว

“พ่อกับแม่ของหนูทะเลาะกัน แม่หนูวิ่งลงบันไดพลาดสะดุดขาตัวเองตกลงมาอย่างที่หนูเห็น”

หล่อนเชื่อในคำบอกเล่าของป้าถนอมจิต เพราะก่อนที่หล่อนจะวิ่งเข้ามาเห็นมารดาตกลงมาก็ได้ยินเสียงบิดาต่อว่ามารดา โดยมีป้าของหล่อนคอยห้ามปราม แต่หล่อนก็ไม่ได้เห็นช่วงที่มารดาตกลงมา หล่อนเข้ามาก็เห็นมารดานอนจมกองเลือดอยู่ที่ตีนบันไดแล้ว และได้เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล

ฉัตรธิดา กำพร้ามารดาในวัยเจ็ดขวบ หล่อนร้องไห้เสียใจอยู่หลายวัน และได้ป้าถนอมจิต กับ รังสิมันตุ์ พี่ชายบุญธรรมของหล่อนคอยปลอบใจ

ในขณะที่บิดาไม่เคยสนใจไยดีความรู้สึกของหล่อนเลย เช่นเดียวกับที่บิดา ไม่เคยสนใจไยดีกับมารดาของหล่อน มันจึงเป็นความชาชินที่หล่อนได้รับมาตั้งแต่จำความได้

ฉัตรธิดา ยังจำภาพของมารดาผู้อ่อนแอ และน่าสงสารของหล่อนได้ดี แต่ภายใต้ความอ่อนแอขี้หวาดกลัวของมารดานั้นเปี่ยมล้นด้วยความรักในตัวฉัตรธิดาที่หล่อนสามารถสัมผัสได้ หล่อนรู้ว่ามารดารักหล่อนมากเพียงใด แต่ท่านก็ไม่สามารถปกป้องหล่อนได้เมื่อคราวที่ถูกบิดาเฆี่ยนตีอย่างขาดเหตุผล ทว่าคนที่เข้ามาปกป้องหล่อนไม่ให้ถูกบิดาทำโทษและห้ามบิดาได้สำเร็จทุกครั้งคือป้าถนอมจิต

ไม่เพียงแต่ป้าของหล่อนจะปกป้องหล่อนเท่านั้น แต่ยังปกป้องมารดาของหล่อนได้ดีอีกด้วย ทุกครั้งที่บิดาไม่พอใจมารดาแล้วหาเรื่องทะเลาะทุบตี ก็จะมีป้าถนอมจิตเข้ามามีบทบาททำให้บิดาหยุดทำร้ายมารดาได้

หลังจากที่มารดาเสียชีวิตไปแล้ว ป้าของหล่อนก็ยิ่งเพิ่มการดูแลหล่อนมากขึ้น หล่อนจึงมองป้าเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดที่คอยปกป้องหล่อนมาตลอด

แต่..ทำไมครั้งนี้ป้าจึงไม่สามารถช่วยเหลือปกป้องหล่อนให้รอดพ้นจากการหมั้นหมายกับวรวิทย์ไปได้ ทั้งที่ป้าก็รู้ว่าหล่อนไม่ได้รักหรือชอบพอกับลูกชายของก้องภพแม้แต่น้อย คนที่หล่อนรักและศรัทธามาโดยตลอด คือ รังสิมันตุ์เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่หล่อนจะกล้าบอกป้ากับบิดาได้อย่างไรว่า หล่อนมีใจให้กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายบุญธรรมของตัวเอง พี่ชายที่บิดาของหล่อนรักและไว้วางใจมากกว่าหล่อนเสียอีก แต่หล่อนก็ไม่เคยอิจฉาพี่ชายคนนี้เลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel