4.ไม่มีทางหนี
เสียงคุณย่าพูดออกมา ธีรนุชลดหนังสือลงก่อนจะหาที่คั่นมาคั่นหน้าหนังสือเอาไว้
"อย่าหนีเลย เราควรจะพร้อมได้แล้ว สิบกว่าปีมานี้ยังหนีไม่พออีกหรอไง "
สิ้นเสียงคุณหญิง ชายหนุ่มรูปร่างสูงกว่า185เซนติเมตร ก็เดินตรงเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
"สวัสดีครับคุณย่า ยังไม่ขึ้นนอนหรอครับ" หลานชายยิ้มกว้างออกมา ปากเอ่ยทักทาย แต่สายตากับมองไปที่สาวน้อยชุดสีหวานที่นั่งอยู่ข้างๆแทน
ธีรนุชวางหนังสือลงข้างตัวก่อนจะยกมือไห้วคนตัวโตอย่างเขินอาย
"สวัสดีค่ะคุณเธียรวิทย์" น้ำเสียงหวานใส เอ่ยทักทาย เธียรวิทย์ หรี่ตามองแล้วยิ้มน้อยๆออกมา
"โตแล้วไม่ใส่แว่นหรอ" เสียงทุ้มเรียกชื่อเธอออกมา
เค้าจำเธอได้ หญิงสาวใจเต้นตุบตับทันทีที่ได้ฟังคำถามแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนตรงหน้าแทนคำตอบ
"ยังใส่เวลาอ่านหนังสือค่ะ" ชายหนุ่มนั่งนิ่งทันทีที่ได้มองคนตรงหน้าชัดเจน จากเด็กตัวเล็กที่เค้าเคยเห็นแวบๆตอนลงไปเล่นที่สนาม กลายเป็นเด็กสาวตัวผอมใส่แว่นเดินมาพร้อมกองหนังสือในวันหยุด ข่าวล่าสุดที่ได้ฟังคือ เป็นนักศึกษาแพทย์ไปแล้ว
ดวงตาดำสนิทกลมโต จมูกโด่งเป็นสัน กับแก้มใสที่มีเครื่องสำอางค์บางๆติดอยู่ ริมฝีปากบางเฉียบทาลิปสีชมพูอ่อน ลำคอขาวผ่อง เผยให้เห็นชุดเดรสสั้นสีสวย น่ามองเหลือเกิน เธียรวิทย์มองคนตรงหน้าแล้วยิ้มออกมา เค้าพอใจเธอเหลือเกิน ไม่ใช่สวยติดตา แต่น่ามองมากกว่า
"ทำไมมาเร็ว ทานข้าวหรือยังลูก" คุณหญิงแสดงตัวตนหลังจากปล่อยให้หลานชายตัวดีมองดูเด็กของนางอยู่นาน เธียรวิทย์ส่ายหน้า
"ยังครับ หิวแล้วด้วยแต่งานยังไม่เสร็จ"
คนโดนถามอ้อนจนหญิงต่างวัยแอบอมยิ้ม ไปคนละทาง เสียงคุณหญิงเรียกหาแม่บ้านให้เตรียมตั้งโต้ะเอาใจหลานชายทันที แต่เจ้าตัวส่ายหน้า
"ผมขอทานที่ห้องรับรองดีกว่าจะได้ทำงานด้วย" คนงานรีบกระวีกระวาดทันทีหลังจากได้รับคำสั่ง
"ย่าไปนอนดีกว่า หมอนุชจะได้พักผ่อน" คุณหญิงบอกคนทั้งคู่ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น หลานชายรีบพยุงแขนย่าตัวเองก่อนจะส่งสายตาให้หญิงสาวตามมา ธีรนุชเดินตามคนที่คู่มาอย่างเงียบก่อนจะเปิดลิฟต์ออกอย่างรู้หน้าที่
"ไปเถอะทั้งคู่เลย ย่าจะนอนแล้ว" เสียงคุณหญิงสั่งก่อนจะหลับตาลงบนเตียงนอนหนานุ่ม เด็กรับใช้เข้ามาประจำการดูแลท่านต่อ ธีรนุชอยากจะออกจากห้องไปเสียก่อนเค้า แต่เธอก็ทำไม่ได้ เธียรวิทย์ปิดประตูห้องนอน ก่อนจะเรียกชื่อเธอ
"นุชช่วยถือของหน่อย"
ห้องทำงานขนาดใหญ่ที่อยู่อีกชั้นของตัวบ้าน ทำให้คนทั้งคู่ต้องเดินตามกันขึ้นบันไดขึ้นมา คุณหมอมองด้านหลังของคนที่แอบชอบมานานในระยะประชิดแบบนี้ก็อดยิ้มออกว่าไม่ได้ ขนาดค่ำแล้วเค้ายังดูดี แม้เสื้อทำงานจะยับแถมชายเสื้อยังหลุดออกมาแต่ก็ยังเท่ สาวน้อยไม่ได้มีโอกาสใก้ลชิดเค้าขนาดนี้มาก่อนได้แต่มองตามแผ่นหลังของเค้าไปจนสุดทางเดิน ก่อนที่คนเดินนำหน้าจะหันกลับมา แล้วมองดูคนตามหลังในระยะประชิด
ขาที่ก้าวขึ้นไปสะดุดกึกก่อนที่เหมือนจะเซน้อยๆเธียรวิทย์คว้าไหล่บอบบางเอาไว้ก่อนจะดึงเข้ามาหาตัวอย่างรวดเร็ว เสียงใจเต้นตุบตับตรงหูของเธอที่แนบกับอกของเค้าอย่างตกใจ ชายหนุ่มบ่นเบาๆออกมา
"เดินดีๆสิกี่ขวบแล้วใจลอยไปไหน"
ธีรนุชดันตัวเองออกจากอ้อมกอดเค้าทันที แต่คนที่กอดกลับรั้งตัวเธอไว้แล้วยกตัวขึ้นมาก่อนจะวางลงตรงพื้นชั้นสามอย่างนุ่มนวล แล้วปล่อยแขนออกทันที
"ระวังสิตกลงไปแย่เลย"
เสียงเค้าบ่นเธอเบาๆก่อนที่คุณหมอจะพยักหน้ารับรู้แล้วกล่าวขอบคุณเสียงเบา คนฟังยิ้มกว้างออกมาแล้วเดินนำไปที่ห้องทำงานตัวเอง หยิบอุปกรณ์ทำงานหลายอย่างเอาไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง แล้วเดินออกมา ไม่ยอมให้เธอช่วยถือแม้แต่ชิ้นเดียว
