5.กลับบ้าน
"ลงลิฟต์เถอะขี้เกียจเดิน"
เสียงเจ้าของบ้านบอกทำให้เธอรีบกดลิฟต์ให้ทันที ในใจอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่า คุณเธียรคงไม่อยากให้เธอลงบันไดมากกว่า คุณหมอให้เจ้านายเดินออกจากลิฟต์ไปก่อนแต่ชายหนุ่มกลับดันเธอให้ออกจากลิฟต์ก่อนเค้า แล้วบอกเสียงเบาระหว่างที่เดินออกมาหน้าบ้านด้วยกัน
"เรียกพี่เธียรดีกว่านะนุช"
เสียงเค้ายังอยู่ในหัวสมองของเธอตั้งแต่เธอเดินกลับมาออกมา กลิ่นน้ำหอมที่เค้ายังยังติดชุดเธอมาถึงบ้านในตอนนี้ ธีรนุชยืนมองตัวเองที่หน้ากระจกแล้วยิ้มกว้างออกมาอย่างเขินอาย เธอมีความสุขมาก มากกว่าอะไรทั้งนั้น แค่ได้เรียกชื่อเค้าได้เห็นหน้าเค้าก็พอแล้ว แต่วันนี้หูของเธอยังได้ยินเสียงหัวใจของเค้าเต้น พี่เธียรนุชจะทนไหวหรอคะแบบนี้ หญิงสาวคิดในใจอย่างมีความสุข
ชายหนุ่มเดินลงมาจากบนห้องนอนเช้ากว่าปกติมาก จนคนพบเห็นแปลกใจ
"วันนี้ไม่มีอะไรไม่ใช่หรอลูก ทำไมตื่นเช้า"
ท่านประธานถามลูกชายที่แต่งตัวเตรียมออกไปทำงานตั้งแต่เจ็ดโมง ชายหนุ่มยิ้มออกมาแต่สายตามองหาคนตัวเล็กที่ทำให้เค้าว้าวุ่นใจเมื่อคืน
คุณย่าทานข้าวแล้วหรอครับ"
หลานชายถามคุณย่าหวังผลที่จะเอ่ยถึงคนเมื่อคืน คุณหญิงพยักหน้าตอบแล้วสนใจนาฬิกาผู้หญิงบนโต๊ะแทนคำตอบ หลานชายอดหงุดหงิดใจนิดหน่อยที่ไม่ได้รับคำตอบแต่มองบนโต้ะแทน
"คุณแม่จะซื้อหรอครับ" ลูกชายเปลี่ยนเรื่องไปทันที ก่อนจะตั้งใจมองนาฬิกานับสิบเรือนที่วางเรียงราย ผู้เป็นแม่ส่ายหน้าแล้วตอบออกมา
"คุณย่าจะซื้อให้หมอนุชวันเกิด"
เธียรวิทย์พยักหน้าเบาๆแล้วก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้าอย่างไม่ใส่ใจ แต่ในสมองคิดอยู่ว่าจะรู้ได้ยังไงว่านุชเกิดวันไหน เท่านั้นเอง
วันนี้เป็นอีกวันที่ดูดพลังเธอจนหมดสิ้น หมดเวลางานแล้ว เวรบ่ายมารออยู่แล้ว เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ายี่ห้อดังเรียกความสนใจของเธอ น้อยกว่าน้อยที่จะมีคนโทรมาหาเธอเพื่อนของเธอมีแต่หมอที่งานหนักเหมือนๆกันเวลาคุยเล่นแทบจะไม่มี แล้วใครโทรมา
คุณนรี คุณผู้หญิงโทรมาหาเธอ หญิงสาวรีบกดรับทันที ก่อนจะเอ่ยเสียงสุภาพออกไป คำสั่งบอกมาตามสายทำให้เธอพยักหน้ารับคำไปพร้อมกับรับคำสั่ง เสียงของคนมีอำนาจแม้จะไม่ดุดันแต่ก็ไม่ได้อ่อนหวานนัก
"ค่ะ หนูจะรีบจัดการให้คุณค่ะ"
คุณหมอรับคำก่อนจะลุกขึ้นไปด้านในเพื่อส่องกระจกอีกครั้ง สำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง แล้วเตรียมตัวเดินทางไปทำธุระให้คุณนรี
กระเป๋าราคากว่าสองล้านบาทวางอยู่ในกล่องสวยหรูพร้อมกับใส่ลงในถุงสีส้มสดอีกครั้งอย่างเบามือ คุณนรีสั่งกระเป๋าใบนี้มาหลายเดือนแล้ว และรอไม่ได้อีกแล้ว เมื่อทางร้านโทรแจ้งว่ามาถึงแล้ว นางจึงให้หมอแวะเอามาให้เสียเลย ดีกว่าที่จะให้คนขับรถออกมา เสียเวลาขึ้นไปอีก ร่างบอบบางถือกระเป๋าใบหรูพร้อมกับหิ้วถุงยี่ห้อดังสร้างความสนใจให้หลายๆคน
เธียรวิทย์มองดูคนตรงหน้าที่กำลังเดินมา ก่อนจะมองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง แล้วบอกลาเพื่อนร่วมโต๊ะทันที
"ไปก่อนมีงานด่วน คราวหน้าจะเลี้ยงคืน " ชายหนุ่มบอกลาเพื่อนแล้วรีบเดินตามหญิงสาวไปทันที
"นุช "
เสียงเรียกเบาๆพร้อมกับจับแขนเอาไว้ทำให้เธอสะดุดทันที ก่อนจะหันมามองมือที่คว้าแขนเธอไว้
"คุณเธียร" เสียงหวานเอ่ยชื่อเค้าออกมา ชายหนุ่มส่ายหน้า
"บอกว่าให้เรียกยังไง"คุณหมอสาววัย22รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กทันทีที่อยู่ต่อหน้าเค้า
"มาเอากระเป๋าหรอ" เค้าถามออกไป ก่อนจะคว้าถุงใบใหญ่มาถือเอาไว้ด้วยตัวเอง แล้วบอกเสียงนุ่มอีกครั้ง
"กลับบ้านกัน"
ซุปเปอร์คาร์สีดำสนิทจอดอยู่ที่จอดรถพิเศษ ก่อนที่จะปลดล็อกอย่างรวดเร็ว ธีรนุชยืนนิ่งอยู่ตรงทางออกก่อนจะนึกถึงที่จอดรถของเธอ
"นุชเอารถมาค่ะ นุชจะขับกลับเอง" เสียงหวานบอกออกไป ก่อนจะหันหลังกลับ
"ไปรถพี่เดี๋ยวมีคนมาขับรถนุชกลับ"
