บทที่ 4 คนต้นเรื่อง
“ผมเป็นคนขับรถคันนั้นที่เกือบจะชนคุณ ผมเป็นห่วง จึงเป็นคนพาคุณมาส่งโรงพยาบาล” แววตาของเขาดูอ่อนโยน
“เป็นยังไงบ้างครับ เจ็บตรงไหนไหมครับ หรือว่าคุณมีอาการอะไรแปลก ๆ ก็บอกมาเถอะครับ” พูดด้วยเสียงนุ่มนวลและออกอาการเป็นห่วง
เพชรประดับพนมมือไหว้ขอโทษเขา
“ดิฉันขอโทษนะคะ ที่เดินทะเล่อทะล่าไม่มองทาง จนทำให้เกิดอุบัติเหตุโชคดีจังเลยที่คุณขับรถมาช้า ไม่งั้น สวยก็คง...”
“คุณไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้วครับ แต่แผลที่ถลอกปอกเปิกเนี่ย... จะเป็นแผลเป็นไหม” เขาชี้ไปตามร่างกายที่ตอนนี้มีผ้าก๊อซปิดบาดแผลเอาไว้
เพชรประดับก้มสำรวจร่างกายของตัวเอง หญิงสาวอยู่ในเสื้อผ้าของโรงพยาบาลแล้ว เธอตกใจรีบพยายามพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง ดั่งนิลรีบเข้ามาช่วยพยุง
“อย่าเพิ่งลุกเลยนะครับ เดี๋ยวจะหน้ามืด จริง ๆ คุณหมอบอกเอาไว้ว่า ถ้าคุณฟื้น หมออนุญาตให้คุณกลับบ้านได้ แต่ผมยังเห็นว่าคุณยังมีอาการไม่ค่อยดี อีกอย่างคุณก็เป็นลมไป ผมไม่มั่นใจว่า คุณจะเป็นอะไรมากไปกว่านี้หรือเปล่า เลยอยากจะเช็กให้มั่นใจ จึงขอคุณหมอให้คุณนอนดูอาการที่โรง’บาลสักหนึ่งคืน”
“นอนโรงพยาบาลเหรอคะ” สีหน้าและแววตาของเพชรประดับเริ่มกังวล
“ครับ”
“อย่าเลยดีกว่าค่ะ เอ่อ... คะ คือ...” หญิงสาวเริ่มอึกอัก ในใจของเธอเริ่มกังวลกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น อย่าว่าแต่เงินค่ารักษาพยาบาลเลย เงินจะกินข้าวเธอก็ยังไม่มี พรุ่งนี้คงได้แต่เอาน้ำลูบท้อง เพราะเงินเหลือในกระเป๋าแค่สองร้อยบาทเท่านั้น
เพชรประดับคิดหนักมาตั้งแต่เมื่อคืน กว่าเธอจะนอนหลับลงไปได้ก็เกือบค่อนคืน อีกอย่างยังมีเรื่องราวที่แม่ของเธอ คุณมารตีโทร. มาเล่าให้ฟังว่าบ้านที่พ่อเธอรักมากกำลังจะถูกยึดทำให้หญิงสาวเครียดหนักเข้าไปอีก เงินตั้งเก้าแสนกว่าบาท รวมดอกแล้วก็ประมาณหนึ่งล้าน แล้วเธอจะมีปัญญาหามาจากที่ไหน
เพชรประดับคิดไปตลอดทางที่กำลังเดินไปมหา’ลัย ในใจก็ได้แต่ครุ่นคิดในเรื่องนี้ จนไม่ทันระวัง
“สวยไม่มีเงินค่ารักษาพยาบาลหรอกค่ะ ยังไงสวยขอออกจากโรง’บาลวันนี้เลยนะคะ” เพชรประดับบอกกับเขาไปตรง ๆ
“โถ...คุณไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ผมรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้เอง” เขาสบตาอย่างจริงจัง
เพชรประดับนึกอาย
“คุณไม่ได้ขับรถชนดิฉันสักหน่อย แล้วตอนนี้ดิฉันก็คิดว่าตัวเองไม่เป็นอะไรมากค่ะ คือถ้าเป็นไปได้ ดิฉันไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร” ปากก็พูด สายตาก็สอดส่ายหันมองไปรอบ ๆ ทุกอย่างในห้องนี้ดูหรูหรามาก ที่นี่คงเป็นโรงพยาบาลห้าดาว ค่ารักษาพยาบาลคงจะสูงมาก ๆ
“ไม่ต้องเป็นกังวลหรอก ผมบอกว่าจะรับผิดชอบ ผมก็ต้องรับผิดชอบให้ ว่าแต่ว่า คุณไม่เจ็บปวดตรงไหนจริง ๆ นะครับ ตอนที่ล้มลงไปหัวฟาดหรือเปล่า” เขายังแสดงอาการวิตกกังวล
“ไม่ค่ะ สวยไม่เป็นอะไรจริง ๆ ค่ะ” เธอปฏิเสธเสียงแข็ง
“ตอนที่ผมอุ้มขึ้นมา ผมเห็นแผลตรงหัวเข่า สงสัยจะต้องเป็นแผลลึกแน่ ๆ”
พอเขาทัก เธอก็รู้สึกเจ็บและเสียวแปลบขึ้นมาทันใด เริ่มตั้งใจสำรวจหาว่าตัวเองรู้สึกเจ็บตรงไหนบ้าง หลังจากนั้นก็เงยหน้ามองเขา
“สวยผิดเองล่ะค่ะที่ทะเล่อทะล่าแบบนั้น ก็ดีเหมือนกันแผลเป็นพวกนี้จะได้ทำให้สวยจดจำได้ว่า ต่อไปสวยต้องระมัดระวังมากกว่านี้” พูดไปก็ถอนหายใจไป
“ผมชื่อ ดั่งนิล หรือเรียก นิล เฉยๆ ก็ได้ครับ” เขาแนะนำตัวเอง
“เพชรประดับ หรือว่า สวยค่ะ”
เขายิ้ม
“คุณสวยสมชื่อนะครับ” เขาปากหวาน พอเห็นเธอทำหน้าแดง ๆ เขาก็หัวเราะกลบเกลื่อน
“ว่าแต่ตอนนี้ คุณสวยหิวหรือยังครับ คุณรู้ไหมว่าคุณนอนหลับไปเกือบครึ่งวัน”
“หา! จริงหรือคะ”
“จริงครับ”
“เมื่อคืนสวยนอนไม่ค่อยหลับด้วยมั้งคะ มาเคลิ้มหลับเอาตอนใกล้รุ่ง และวันนี้สวยก็ตื่นสายด้วย ตอนออกมาจากที่พัก สวยรีบมากเลยค่ะ ชั่วโมงเรียนตอนเช้าวันนี้อาจารย์ประจำวิชาเข้มด้วย เอ่อ...คุณเห็นกระเป๋าของสวยไหมคะ สวยจะโทร. หาเพื่อน สวยยังไม่ได้บอกเพื่อน ๆ เลยว่าจะขาดเรียน ทุกคนคงเป็นห่วง”
“ผมต้องขอโทษคุณด้วยนะครับ ตอนที่พาคุณมาถึงโรง’บาล ผมต้องรื้อกระเป๋าหาเอกสารของคุณ ผมเห็นมือถือของคุณแต่แบตฯ มันหมด”
“ค่ะ เมื่อคืนสวยลืมชาร์จมือถือด้วยน่ะค่ะ”
เธอบอกเขาไปแบบนั้น แต่ความจริงคือสายชาร์จมือถือมันขาดแล้วทำให้เธอไม่มีสายชาร์จต่างหาก นึกไปถึงเมื่อคืนที่เธอพยายามซ่อมสายชาร์จ ขยับปลั๊กเพื่อจะเสียบที่ชาร์จแบตฯ แต่ทำให้รู้ว่ามันคงจะใช้ไม่ได้จริงแล้วแหละ
“ถ้าจะมีใครโทร. หาคุณตอนนี้ คงจะโทร. ไม่ติดแน่ ๆ”
“ค่ะ สายชาร์จมันพังค่ะ สวยกะว่าจะไปขอเพื่อนยืมเพื่อนที่มหา’ลัย”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะออกไปหาซื้อที่ชาร์จอันใหม่มาให้คุณสวยดีกว่า”
ท้องของเพชรประดับร้องดังโครกครากจนเธอและเขาได้ยิน เธอทำให้ตัวเองขายหน้า ดั่งนิลยิ้มให้เธออย่างเอ็นดู
“ตอนนี้ ถึงคุณไม่หิว แต่ก็คงต้องกินข้าวแล้วล่ะ เพราะว่าท้องคุณมันฟ้อง” ว่าแล้วก็เดินไปเข็นโต๊ะที่วางถาดอาหารมาให้ตรงหน้า
“แล้วคุณนิลกินข้าวหรือยังคะ” ยังรู้สึกเป็นห่วงเขา
“กินแล้ว กินไปสองมื้อแล้วครับ ต้องให้ผมป้อนคนป่วยไหมเนี่ย” สายตาของเขายิ้มหวาน
“ไม่ต้องค่ะ มือของสวยไม่ได้เจ็บ สวยกินเองได้ค่ะ”
“ยังดีนะครับ ที่ไม่มีอะไรแตกหัก” พูดแล้วก็หยิบช้อนให้ เพชรประดับยกมือไหว้กล่าวขอบคุณเขาเบา ๆ
ชายหนุ่มไปนั่งอยู่ห่าง ๆ มองดวงหน้าน้อย ๆ ของหญิงสาวที่ตั้งใจกินข้าวดูช่างเอร็ดอร่อย
