บทที่ 2 จัดเลยไหม

มาลิสาเดินหน้ามุ่ยไม่สนใจแยกไปนั่งที่โต๊ะวีไอพีฝั่งญาติเจ้าสาวส่วนขุนพลแยกไปนั่งโต๊ะฝั่งเจ้าบ่าว

“งานมีปัญหาเยอะเหรอลูก” แม่ปริมเอ่ยถามเมื่อเห็นหน้าลูกไม่สบอารมณ์

“เรื่องงานไม่เท่าไหร่ค่ะ แต่หงุดหงิดเจอคนปากเสีย”

“ตีกับขุนมาอีกแล้วล่ะสิ” พ่ออมยิ้มขำ คนเดียวที่ลูกสาวว่าปากเสียก็มีแค่คู่หมายคนเดียว

“คุณพ่อคุณแม่คะ พี่ลินีแต่งงานกับพี่จอมแล้วสองครอบครัวได้เกี่ยวดองกันตามสัญญา ทำไมไม่ยกเลิกเรื่องหมั้นของหนูกับอีตาบ้านั่นสักที” หน้าสวยง้ำงอกะพริบตาปริบ ๆ ขอความเห็นใจจากพ่อแม่

“เอาเป็นว่าพ่อกับแม่จะคุยเรื่องถอนหมั้นกับทางนั้นให้นะ” สิ้นคำพูดแม่ มาลิสาถึงกับตาเบิกโพลงดีใจอ้าปากค้างกำลังจะโผไปกอดแม่

“แต่ต้องหลังจากที่ลินีมีลูกคนแรกอายุสักห้าขวบก่อน” พ่อพูดแทรกขึ้นทำเอามาลิสาชะงักทิ้งตัวลงห่อเหี่ยว

“ทำไมนานจังเลยล่ะคะ”

“การแต่งงานมีลูกไม่ได้ชี้วัดว่าเขาสองคนจะอยู่ครองคู่ไปด้วยกันได้ ต้องรอเวลาพิสูจน์ว่าพี่สาวลูกสามารถทำหน้าที่เกี่ยวดองได้จริง ๆ หนูถึงจะรอด อย่างเมื่อกี้ในงานก็เกือบวุ่นวายยังไว้ใจไม่ได้”

“อ้าว เกิดเรื่องเหรอคะ” มาลิสานิ่วหน้าสงสัย แม่เลยนั่งร่ายยาวถึงวีรกรรมของสายป่านให้ฟัง

“พี่ ๆ จะอยู่กันรอดมั้ยนะ หนูอยากเกิดใหม่ได้เหมือนในนิยาย จะไปบอกคุณปู่ว่าอย่าเชื่อหมอทำนายเรื่องเกี่ยวดองกันระหว่างสองตระกูลจะยิ่งใหญ่ร่ำรวยมีชีวิตสุขสบาย ตอนนี้ก็รวยไม่รู้จะรวยยังไงชีวิตจะสุขสบายกว่านี้ถ้าไม่มีคู่หมั้นของบ้านนั่น มันไม่โอเคเลย!” มาลิสาร่ายยาวเป็นชุดเบื่อหน่ายครอบครัวจะร่ำรวยไม่ใช่เพราะทำมาหากินหรือไงทำไมต้องงมงายเชื่อหมอดูกันนักหนา

“ไปเกิดใหม่ดูจะเพ้อไปหน่อย เอาเป็นว่าคอยลุ้นให้ลินีครองรักกับจอมทัพให้ได้ก็พอ แค่ห้าปีเองทนมาสิบกว่าปียังทนได้เลย อีกนิดเดียวเองนะ” พ่อพูดปลอบใจลูกสาวคนเล็กที่ยังหน้าบึ้งงอแง ก่อนจะหันไปมองเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวกลับเข้ามาในงานเลี้ยงถ่ายรูปที่ระลึกกับแขกที่มาร่วมฉลองงานแต่ง มาลิสามองหน้าพี่สาวสุขปนทุกข์รับรู้ทุกเรื่องราวที่พี่สาวไม่สบายใจและรู้ว่าเจ้าบ่าวไม่ได้เต็มใจแต่งงานกับพี่สาวเธอแบบนี้ไม่รู้ว่าจะรอดหรือร่วงได้แต่ภาวนาให้พี่สาวกับพี่เขยรักกันจริงและมีพยานรักเร็ว ๆ เธอจะได้หลุดพ้นสักที........

บ้านหลังใหญ่สองชั้นสีขาวสะอาด มีพื้นที่สนามหญ้ากว้าง สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ข้างบ้านเป็นของครอบครัว ภายในบ้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูนำเข้าจากต่างประเทศทุกชิ้นเป็นของเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นคุณทวดแสดงถึงความมั่งมีมาตั้งแต่สมัยก่อนจวบจนปัจจุบัน

มาลิสานอนเขี่ยโทรศัพท์เล่นบนที่นอนหรูตกแต่งสีชมพูอ่อนหวานช่างต่างกับลักษณะท่าทางของเจ้าของห้องนอนที่แสนจะแก่นเซี้ยวไม่อ่อนหวานเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยอย่างที่พ่อแม่อยากให้เป็นสักนิด นิ้วเรียวเลื่อนดูรูปงานแต่งงานของพี่สาวที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือของเธอ หนึ่งในภาพรวมครอบครัวนั้นมีรูปของขุนพลคู่หมั้นคู่หมายตัวร้ายอยู่ด้วย ขุนพลผิวขาวกว่าจอมทัพพี่เขยของเธอเพราะพี่เขยทำงานออกแดดแต่ขุนพลเป็นคนเจ้าสำอางทำงานบริหารมีนิสัยเจ้าชู้ต้องหล่อเนี้ยบดูดีเป็นที่หลงใหลของสาว ๆ แต่ไม่ใช่สำหรับเธอเพราะเขาชอบแกล้งกวนประสาทเธอตั้งแต่ตอนแตกเนื้อสาวเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตีกันประจำ ทำให้ญาติพี่น้องกุมขมับและพุ่งเป้าเรื่องเกี่ยวดองไปทางชาลินีกับจอมทัพแทน ถึงแม้เธอกับขุนพลจะเป็นคู่หมายรองก็ยังไม่ได้รับอิสระต้องรอให้คู่พี่ดองกันสำเร็จก่อนถึงจะถอนหมั้นได้นึกแล้วก็ใจหายเธอตกอยู่ในบ่วงของการมีเจ้าของมานานไม่เคยมีโอกาสคบหาดูใจกับผู้ชายคนไหนแม้แต่กับคู่หมั้นตัวเอง เมื่อไหร่ที่หลุดพ้นจะหาผู้ชายมาดามใจยังไงน้อ...

โรงแรมขนาดใหญ่ระดับห้าดาว

มาลิสาสวมชุดสูทสีขาวกระโปรงยาวคลุมเข้ารัดรูปรวบมัดผมลอนไว้ด้านหลังรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วส่งเสริมให้เรือนร่างเพรียวสูงระหงสวยสง่าจนต้องมองเหลียวหลัง

ระหว่างกำลังรอลิฟต์ขึ้นไปยังออฟฟิศชั้นสิบเก้าเพื่อประมูลงานกับทางโรงแรม ชายหนุ่มผิวขาวสูงโปร่งสวมสูทผูกเนกไทหล่อเนี้ยบกลิ่นน้ำหอมฟุ้งมาแต่ไกลกำลังเดินมายืนข้างมาลิสา

“มายื่นประมูลด้วยตัวเองเลยเหรอครับคุณลิสา” ชายหนุ่มเอ่ยทักขึ้นก่อนมาลิสาอมยิ้มเหล่มองหางตา

“ถ้ารู้ว่าลูกชายประธานใหญ่กลับมาบริหารงานเอง ลิสาไม่มายื่นให้เหนื่อยหรอกค่ะ นัดเที่ยวดริ้งค์ แดนซ์อ่อยผู้เลยดีกว่า”

“จัดเลยไหมล่ะแก.....” ชายหนุ่มข้างกายหลุดเสียงตุ้งติ้งอย่างเผลอลืมมาลิสาถลึงตาตกใจเอกดนัยนึกขึ้นได้กลับมาเคร่งขรึมหล่อเนี้ยบเหมือนเดิม ประตูลิฟต์เปิดออกชายหนุ่มผายมือมีมารยาท

“เชิญครับ” เอกดนัยสีหน้าเรียบเฉยวางมาดผู้บริหารหนุ่มหล่อไม่ให้เสียการปกครอง มาลิสากลั้นขำจนหน้าแดงก่อนจะเดินนำเข้าลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นประมูลงานพร้อมกัน

ยามค่ำคืน

เหล่านักท่องราตรีออกท่องเที่ยวไนต์คลับส่วนตัวสำหรับสมาชิกปีละแสน เพื่อนสาวไฮโซสวยแซ่บทั้งกลุ่มรวมถึงเอกดนัยกับเจตเพื่อนสาวกายเป็นชายใจเป็นหญิงปาร์ตี้ลั้ลลากินดื่มไม่อั้นเต้นยั่วออกลวดลายอดีตนักเต้นโคฟเวอร์พลิ้วไหวไม่มีใครยอมใคร มาลิสาสวมชุดผ้ามันพลิ้วสีครีมกระโปรงสั้นผ่าหลังเกือบถึงบั้นเอวคล้องคอด้วยสายสร้อยสีเงินแซมคริสตัลแบรนด์หรูผมลอนสีน้ำตาลอ่อนรวบสูงเผยแผ่นหลังขาวเปล่งประกายโดดเด่นแม้ในสถานที่มืดสลัว

“มาร้านเดียวกันอีกล่ะ นัดกันไว้ชัวร์” ฟิวยิ้มกรุ้มกริ่มแซวเพื่อนทุกครั้งที่มาเที่ยวแล้วเจอคู่หมั้น

“นัดบ้าอะไร เจอทีมีแต่เสียอารมณ์”