บทที่ 1 ใครจะเอาทำเมีย
ในงานแต่งงานของจอมทัพพี่ชายของขุนพลและชาลินีพี่สาวของมาลิสา (ในเรื่องหมดแรงยื้อ) เกือบเกิดเรื่องวุ่นวายเพราะสายป่านคนรักของจอมทัพ
เจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวขอบคุณจบกำลังจะไปตัดเค้กที่มุมเวที สายป่านแกล้งเดินไปชนพนักงานเสิร์ฟจนตัวเองและพนักงานล้มลงพื้นทั้งคู่แก้วตกแตกเสียงดังทำให้ทุกในงานหันมองเป็นตาเดียวกัน จอมทัพหันมองจะเดินไปดูแต่ชาลินีกำมือรั้งเขาไว้ สายป่านเขยิบตัวมองรอบงานแล้วมองไปบนเวทีเห็นจอมทัพยังยืนนิ่งเธอเลยเอามือกดลงบนเศษแก้วชิ้นใหญ่เรียกร้องความสนใจ
“โอ๊ย!” สายป่านหน้าเสียเจ็บปวดยกมือขึ้นมาเศษแก้วยังคามือเลือดไหลเป็นทาง จอมทัพเห็นอย่างนั้นจึงวิ่งลงไปหาสายป่าน จอมทัพดึงผ้าเช็ดหน้าที่กระเป๋าเสื้อสูทมาซับเลือดและจะดึงเศษแก้วออก ปานเทพรีบขัดแล้วเข้าไปช่วยพยุงตัวสายป่านยืนขึ้นเธอทำหน้าเศร้าหันไปมองอ้อนจอมทัพ
“ผมดูแลเอง พี่จอมไปทำหน้าที่ตัวเองเถอะครับ” ปานเทพมองหน้าจอมทัพที่ลังเล ด้านนักข่าววิ่งตามมากดชัตเตอร์กันรัว ๆ
“รีบไปทำแผลเถอะค่ะ” ชาลินียกกระโปรงเดินตามมาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานสีหน้าห่วงใยถ้าวีนตอนนี้พวกนักข่าวต้องเอาไปเขียนข่าวจนคนรู้กันทั้งประเทศแน่ ชาลินีเขยิบเข้าไปคล้องแขนเจ้าบ่าว
“ตัดเค้กกันเถอะค่ะ” เธอเงยมองแล้วยิ้มหวานต่อหน้านักข่าวที่กำลังรุมกันถ่ายรูป จอมทัพยกยิ้มเล็กน้อยเดินไปกับเจ้าสาว ดีที่ปานเทพกับนิ้งเพื่อนของชาลินีช่วยพาสายป่านไปห้องปฐมพยาบาล งานแต่งงานของจอมทัพกับชาลินีเลยไม่ล่ม
ระหว่างที่มีเรื่องวุ่นวายในห้องจัดเลี้ยง
มาลิสาหญิงสาวหน้าสวยโฉบเฉี่ยวมั่นใจน้องสาวของเจ้าสาว เดินออกจากห้องจัดเลี้ยงมาคุยงานด่วนกับลูกน้องที่ปลายสาย เมื่อแก้ไขสถานการณ์เสร็จก็เดินไปห้องน้ำ มือเรียวดันประตูแล้วเข้าไปในห้องน้ำเพียงไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงครางเล็ดลอดออกมาจากห้องน้ำที่ปิดอยู่เท้าเรียวชะงักเงี่ยหูฟังชัด ๆ เสียงครางในห้องน้ำยังคงกระเส่าเบา ๆ เมื่อรู้ว่ามีคนแอบทำอะไรกันอยู่ในห้องน้ำเลยรีบหันหลังจะออกไปเงียบ ๆ เท้าเรียวเขย่งขึ้นไม่ให้เสียงรองเท้าส้นสูงดังกระทบพื้นห้องน้ำ
“อ๊าห์.....” เสียงหวานในห้องน้ำดังชัด มาลิสาสะดุ้งสีหน้าตื่นตระหนกเอื้อมมือเปิดประตูห้องน้ำหญิง
“พี่ขุนหื่นจังคะ” เสียงหวานแหบพร่าในห้องน้ำ ทำให้มาลิสาหยุดกึกหน้าตึงก่อนจะหันขวับเดินกลับมาหน้าประตูห้องน้ำที่ปิดอยู่แล้วทุบประตูรัว ๆ ไม่พอใจ
“ปึง ปึง ปึง!!”
“ไม่ใช่ที่เอากันนะโว้ย!” มาลิสาบีบจมูกดัดเสียงตัวเองแล้วรีบวิ่งหนีออกไปจากห้องน้ำ หญิงชายในห้องน้ำสะดุ้งหน้าตาเหลอหลายังไม่ทันเข้าด้ายเข้าเข็มได้แต่คลอเคลียซุกไซ้รีบเปิดประตูห้องน้ำชะเง้อออกมามองข้างนอก
“แยกย้ายนะ” ขุนพลหันไปบอกหญิงสาวในชุดราตรีสีหวานกำลังจับแต่งผมให้เข้าที่ เขาเดินออกมาล้างมือสำรวจมองความเรียบร้อยเสื้อผ้าของตัวเองผ่านกระจกใบหน้าหล่อเหลาสายตามีเสน่ห์ร่างกายสูงกำยำผิวขาวผ่องปาดมือเช็ดเหงื่อข้างแก้มสากก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำส่วนหญิงสาวรอจนเขาออกไปสักพักค่อยออกมาทีหลัง
ขุนพลกำลังจะเดินเข้าไปร่วมงานฉลองแต่งงานของจอมทัพพี่ชายของเขาแต่บังเอิญเห็นพี่ชายสวมชุดเจ้าบ่าวเดินออกจากงานไปทางอื่นเขาเลยจะเดินตามไป
“ทำอะไรดูสถานที่บ้างก็ดีนะ ไม่ใช่เอาทุกที่” น้ำเสียงที่คุ้นเคยฉุดขุนพลให้หยุดนิ่งหันมองข้างหลังรู้ตัวคนแกล้งเคาะประตูเขาทันที
“เคาะประตูแล้วหนีออกมาทำไม ไม่แน่จริงนี่หว่า” คิ้วเข้มเลิกขึ้นจ้องหน้าท้าทายกับหญิงสาวสวยแสบว่าที่คู่หมายของเขาเอง
“ฉันไม่อยากเห็นนายตอนเปลือยพกไอ้จ้อนออกมาข้างนอก มันอุจาดตา” ริมฝีปากแดงเบะเหยียดกวาดสายตามองเป้ากางเกงของเขาอย่างรังเกียจ ขุนพลเท้าเอวหมั่นไส้ท่าทางของยัยตัวแสบ
“ไม่อยากเห็นหรือไม่กล้าเห็นกันแน่ ก็นะเธอไม่เคยได้เห็นไอ้จ้อนของจริงหรอกดุเป็นหมา ใครเขาจะเอาทำเมีย”
“ผู้ชายอย่างนายฉันก็ไม่น่าเอาทำผัวเหมือนกันนั่นแหละ!”
“ปากร้าย นิสัยไม่ดี อย่าหวังว่าชาตินี้จะได้มีผัวอย่างคนอื่นเขา ฉันคนแรกที่ไม่เอา” ขุนพลฉุนเฉียวของขึ้นทุกครั้งที่เธอต่อปากต่อคำเถียงกับเขาได้เป็นฉาก ๆ ไม่เคยลงให้กันสักครั้ง
“ไม่อยากได้อยู่แล้วพวกของสาธารณะสกปรก แหวะ!” มาลิสาลอยหน้าลอยตาเข้ามาใกล้ทำท่าจะขย่อนขุนพลเบี่ยงตัวหนีมองเคือง
“ไม่อยากได้ก็ถอนหมั้นดิ”
“นายก็ถอนสิแต่ไม่คืนสินสอดนะ” มาลิสาเชิดใส่เดินเข้าไปในงานเลี้ยง
“โห ยัยขี้งก นอกจากสวยมีอะไรดีบ้างวะ โชคร้ายชิบเป๋งทำไมต้องบังคับให้หมั้นกันด้วย!” ขุนพลขบกรามมันเขี้ยวบ่นพึมพำตามร่างสูงระหงยัยคู่หมั้นเป็นคนสวยหุ่นแซ่บคนหนึ่งแต่ติดที่ปากร้ายนิสัยแย่ทำให้กลบข้อดีในตัวที่พอจะมีอยู่ทั้งหมด
