บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 เขาหาว่าฉันเป็นขโมย 1

“งั้นเอาอย่างนี้พรุ่งนี้มึงลองเป็นคนธรรมดาดูบ้างไม่แน่อาจจะได้งานเลยก็ได้นะเว้ย” แล้วชะเอมกับเปรี้ยวมันก็ยิ้มร้ายยักคิ้วใส่กันมีความเจ้าเล่ห์หัวเราะคิกคักให้กันแล้วผลสุดท้ายทั้งสองคนก็จับฉันแต่งตัวด้วยกระโปรงพีทยาวลากพื้นจำได้ว่าใส่ครั้งสุดท้ายตอนรับน้องปี 1 หลังจากนั้นก็เก็บเข้ากรุเลยค่ะ ไม่กล้าใส่อีกเลยเวลาใส่พาให้นึกถึงครูเพ็ญศรีสอนภาษาไทยวัยใกล้เกษียรยังไงก็ไม่รู้ เสื้อเชิ้ตสีขาวลายลูกไม้ตัวใหญ่โคร่ง ไม่หลวมธรรมดาแต่ว่าหลวมมาก ผมยาวถูกม้วนให้เป็นวงกลมโดนัทตรงกลางศีรษะปล่อยปอยผมลงมาเหมือนไม่ได้ตั้งใจแต่ตั้งใจ แว่นตาอันโตทรงที่ดูยังไงก็ไม่เข้ากับเบ้าหน้าฉันเลยถูกสวมมาอย่างไม่ลังเลทั้งๆ ที่ไม่ได้มีปัญหาสายตาเลยแม้แต่นิดเดียว ดูยังไงก็เหมือนคุณครูเพ็ญศรีหรือป้าข้างบ้านก็ไม่รู้ ฉันออกจากห้องด้วยความไม่มั่นใจท่ามกลางสายตากดดันของอิพวกเพื่อนทั้งสอง แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าวันนั้นอิน้ำหนาวแทบกรี๊ดลั่นห้องเพราะอิหนาวได้งานแล้วรอดจากการแต่งงานได้อย่างหวุดหวิด และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ฉันก็แต่งตัวแบบนี้ตลอดเวลาทำงาน เคยคิดที่จะกลับไปเป็นตัวเองนะแต่ประสบการณ์ในการทำงานทำให้รู้ว่าแผนกฉันไม่ชอบคนสวยค่ะใครก็ห้ามสวยกว่าพวกนางแม้แต่นักศึกษาฝึกงานที่สวยมากยังฝึกงานไม่เป็นสุขโดนกลั่นแกล้งสารพัดจนน้องต้องหยุดการฝึกงานลงยอมจบช้ากว่าเพื่อนๆ ตอนนั้นฉันสงสารน้องมากแต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงลำพังตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย ไม่ใช่เป็นคนไม่สู้คนนะแต่ถ้าสู้แล้วต้องแรกกับการไม่มีงานทำและต้องกลับไปแต่งงานสำหรับอิน้ำหนาวแล้วการแต่งงานกับคนแปลกหน้ามันน่ากลัวกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ จะว่าไปการแต่งตัวแบบนี้ก็มีข้อดีเหมือนกันนะไม่มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ฉันเลยแม้แต่เดินเฉียดก็ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำเป็นสิ่งที่อิหนาวชอบมากค่ะเพราะปกติผู้ชายเข้ามาหามากจนน่ารำคาญ

กลับมาที่ปัจจุบันหนังบนจอยักษ์จบลงแล้วบอกตรงๆ น้ำหนาวดูไม่รู้เรื่องเลยค่ะเพราะว่าหลับไปตั้งแต่ต้นเรื่องตื่นมาอีกทีเพลงจบก็ขึ้นพอดีสรุปวันนี้ฉันแค่มาเปลี่ยนบรรยากาศนอนนะไม่ได้มาดูหนัง

“ปะกินข้าวกัน” ชะเอมลุกก่อนใครเพื่อนเอ่ยชวนถึงมันไม่ชวนก็ต้องกินไหมล่ะคะเพราะเวลานี้มันเริ่มมืดค่ำแล้วพยาธิในท้องน้ำหนาวก็แข่งกันร้องโหยหวนร้องเรียกหาอาหารกันไปหมดแล้ว

“ชุดกู” ก้มมองตัวเองที่ใส่กางเกงขายาวตัวใหญ่หลวมโคร่งถ้าไม่มีเข็มขัดคงหลุดไปแล้วอะ กับเสื้อเชิ้ตสีขาวแต่งลายลูกไม้ตัวใหญ่ดูยังไงก็ไม่เข้ากันเลยกับเพื่อนสองคนที่แต่งตัว แต่งหน้าจัดเต็มกันมาซะขนาดนั้น

“เตรียมมาให้แล้ว” เปรี้ยวยื่นยุงผ้าส่งมาให้

“เพื่อนน่ารักขอจุ๊บที” น่ารักไม่ไหวแล้วเพื่อนเลิฟไม่มีใครรู้ใจอิหนาวเท่าเพื่อนคนนี้อีกแล้ว

“อี๋อิหนาวออกไปเลยนะ บรึ๋ยขนลุก” เศร้าอะเพื่อนรังเกียจแค่ขอจุ๊บเหม่งนิดเดียวทำไมต้องผลักน้ำหนาวออกด้วยล่ะแถมยังทำหน้าหยีใส่ด้วยเค้าน้อยใจนะตัวเองตีหน้าเศร้าให้เพื่อนสงสาร

“แสดง/ปลอม” เปรี้ยวกับชะเอมมันพูดขึ้นมาพร้อมกันเลยคุณเพื่อนมึงจะเก่งเกินไปแล้วนี่ว่าเนียนมากแล้วนะยังดูออกอีก

“ชิ” ย่นจมูกใส่พวกมันไปหนึ่งที่แล้วหยิบถุงผ้าจากมือเปรี้ยวมา รีบเดินเข้าห้องน้ำเลยค่ะน้ำหนาวคนเดิมกำลังจะกลับมาแล้วแต่งเป็นคุณครูเพ็ญศรีมาเดินห้างแบบนี้มันไม่ไหวจริงๆ นะโดนมองอย่างกับเป็นตัวประหลาดมาตลอดทางไม่มีใครไม่มองฉันนี่อายจนแทบจะแทรกซอกตึกหนีแล้ว

“ไปไหนกันแล้วเนี่ย” ออกมาจากห้องน้ำส่วนของโรงหนังฉันก็เดินหาเพื่อนทั้งสองคนแต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ก็นัดกันไว้ตรงนี้นี่นาแล้วหายไปไหนกันนะไม่นะพวกแกจะมาทิ้งฉันไว้ตรงนี้คนเดียวอย่างนี้ไม่ได้นะเว้ยอย่างน้อยคุณเพื่อนมึงควรทิ้งกระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์ไว้ให้ด้วยสิ มองซ้าย มองขาว มองหน้า มองหลังหมุนเป็นลูกข่างจนเวียนหัวก็ไม่เจอใครสักคน จะโทรหาก็โทรไม่ได้ก็กระเป๋าฉันอยู่กับชะเอมทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่ถุงผ้าใบใหญ่ใส่เสื้อผ้าชุดเก่าอยู่ ในหัวตอนนี้เถียงกันวุ่นวายไปหมดแล้วหรือว่าฉันจะรอผิดที่วะชักไม่แน่ใจแล้วสิพวกมันให้ไปเจอกันที่ร้านเลยหรือเปล่านะแต่เปรี้ยวมันบอกรอตรงนี้ไม่ใช่หรอวะ ยืนงงลังเลอยู่พักนึงเอาวะลองไปดูร้านอาหารก่อนแล้วกันเผื่อมันนั่งรออยู่ ยังไม่ทันจะก้าวออกไปเสียงเอะอะโวยวายก็ดังมาแต่ไกลจนต้องหันไปมองตามไม่ได้อะไรนะแค่อยากรู้อยากเห็นด้วยเท่านั้นเองหรือที่เขาเรียกกันสั้นๆ ว่าเสือก

“ขโมย ช่วยด้วยขโมยผู้หญิงเสื้อขาวคนนั้น” ผู้หญิงเสื้อขาวไหนวะ คนไหนไม่มีมีใครใส่สีขาวสักคนนอกจาก....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel