ตอนที่ 2 เรื่องราวในอดีต(1)
หญิงสาวที่ท่าทางเฉิ่มเชยในชุดนักศึกษา ใบหน้าธรรมชาติไร้การแต่งแต้มมีคราบมันวาวและเม็ดสิวผุดที่หน้าผากกับแก้มทั้งสองข้าง ใส่แว่นสายตาที่มีรูปกรอบสี่เหลี่ยมไม่เข้ากับใบหน้า เธอกำลังถือแก้วเครื่องดื่มด้วยสองมือและที่ข้อมือหิ้วถุงขนมเดินไปที่กลุ่มเพื่อนของตน
“นี่น้ำของเธอนะดาด้า ส่วนนี่น้ำของเธอนะริสา” เธอวางแก้วเครื่องดื่มให้เพื่อนทั้งสอง ก่อนจะถอดถุงจากข้อมือออกมาวางลงให้เพื่อนๆ ได้ทานขนมด้วยกัน
หญิงสาวดีใจที่เพื่อนทั้งสองคบหากับเธอและทั้งคู่ก็เป็นสาวสวยที่มีหนุ่มจากคณะอื่นๆ มาขายขนมจีบให้บ่อยๆ รวมไปถึงเป็นดาวเด่นในหมู่รุ่นพี่อีกด้วย
“ขอบใจมากนะณิ นี่เงินค่าเครื่องดื่มของพวกฉันสองคน” อริสาหยิบเงินให้แล้วยักคิ้วให้กับพีรดา ความจริงแล้วพวกเธอมองณิชาเป็นเบ๊ของกลุ่มมากกว่าเป็นเพื่อน และเพราะเธอหัวดีจึงเอาไว้ช่วยเรื่องงานและการเรียนเท่านั้น
“ไม่ต้องก็ได้แค่นี้เอง”
“ไม่ได้หรอก เธอจะเลี้ยงเราทุกครั้งได้ไงล่ะ เราเป็นเพื่อนกันนะ เอาไปเถอะ” อริสายัดเงินใส่มือของเธอ ทำให้ณิชารู้สึกดีใจที่เพื่อนทั้งสองไม่เคยเอาเปรียบเธอเลยสักนิด
พีรดาเป็นสาวมั่นแต่งตัวเก่ง ใบหน้าสวยเฉี่ยวที่ใครมองก็ต้องเหลียวหลังและชื่นชมหากแต่ว่าเธอเลือกที่จะคุยกับบางคนเท่านั้น หากใครที่ดูฐานะแตกต่างกันมากก็จะเมินใส่และไม่สนใจที่จะทำความรู้จักด้วย
ส่วนอริสาเป็นคนฐานะปานกลางแต่ว่าบิดาเธอเป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง หน้าตาก็สะสวยแต่ไม่เทียบเท่ากับพีรดา
แต่เพราะที่บ้านมีชื่อเสียงทางสังคมจึงทำให้เธอและพีรดาเข้าขากันได้
“ตายแล้วริสา ฉันยังไม่ทำรายงานของอาจารย์สุพิศเลย คืนนี้ต้องไปงานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่าด้วยสิไม่ไปก็ไม่ได้ ตายแน่แล้วฉัน” พีรดาเอามือทาบอกแล้วหันไปคุยกับอริสาพร้อมกับยักคิ้วอย่างรู้กัน
“ฉันก็อยากช่วยเธอนะดาด้า แต่ว่าฉันก็ยังไม่ทำเลย ช่วงนี้ที่บ้านมีแขกบ่อยๆ เพราะคุณพ่อเล่นเอาคนมาประชุมกันที่บ้านต้องช่วยพ่อกับแม่รับแขกน่ะ ทำไงดีเนี่ยพวกเรา”
ทั้งสองทำเป็นคุยปรึกษากันแล้วถอนหายใจออกมาอย่างหนักอก ทำให้ณิชาที่จิตใจดีอยากยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
“เอ่อ ฉันทำเสร็จแล้ว เอางี้ไหมฉันจะดัดแปลงนิดหน่อยแล้วทำให้พวกเธอด้วย”
“เฮ้ย จริงเหรอณิ..แต่เกรงใจจัง” พีรดาที่ทำเป็นดีใจแล้วแกล้งเสียงเบาลง
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ฉันทำได้ ง่ายๆ แป๊บเดียวก็เสร็จ” ณิชาอาสาทำงานให้ทั้งคู่อย่างเต็มใจ
“งั้นก็รบกวนเธอแล้วนะณิ ขอบใจมากจริงๆ” อริสาพูดด้วยความซาบซึ้งใจ พอจังหวะที่เธอเผลอทั้งสองก็แอบเบะปากแล้วมองเธอด้วยสายตาที่รังเกียจ
************************
“คืนนี้เราจะไปไหนดีริสา”
“ร้านเหล้าหลังมอก็ดีนะ ผู้ชายหล่อๆ เยอะดีแกจะได้เจอพี่กริชด้วย” อริสาออกความเห็นในห้องน้ำขณะที่ทั้งสองเข้ามาเติมแป้งหลังเลิกเรียน
“ดีนะที่นังณิมันโง่เอารายงานไปทำแทนเรา”
“เออน่า ให้มันทำงานแทนเราแบบนี้ไปเรื่อยๆ น่ะดีแล้ว น้ำหน้าอย่างมันจะมีใครคบถ้าไม่ใช่เราสองคน”
ทั้งสองพูดถึงณิชาโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้หญิงสาวปิดปากร้องไห้ในห้องน้ำด้วยความเสียใจ
“แล้วถ้าวันหนึ่งมันเกิดฉลาดแล้วไม่ทำงานให้พวกเราล่ะจะไม่แย่เหรอดาด้า”
“ถ้ามันไม่ทำ ฉันก็จะหาเรื่องแกล้งมันให้ทั้งเจ็บทั้งอายเลยคอยดูสิ ลดตัวให้เข้ากลุ่มด้วยก็เพราะเห็นว่ามันฉลาดหรอกนะ อี๋..สิวเขรอะเต็มหน้าขนาดนั้น หน้าแพ้อะไรมาก็ไม่รู้แป้งก็ไม่ทารองพื้นก็ไม่กลบสิวมา น่าเกลียดอย่างนั้นจะมีใครคบถ้าไม่ใช่เรา”
ณิชาร้องไห้ออกมาพยายามกลั้นเสียงเอาไว้ เจ็บปวดเหลือเกินกับความจริงที่ได้รับรู้ว่าเพื่อนของตนคบกันหวังแต่ผลประโยชน์เท่านั้น
พอทั้งคู่ออกไป เธอก็รีบออกมาจากห้องน้ำมองดูใบหน้าตัวเองที่แพ้เครื่องสำอางจนเกิดสิวอักเสบกับแว่นตาทรงเชย คิดว่าตลอดว่ารูปลักษณ์ไม่สำคัญเท่าจิตใจ ที่ผ่านมาเธอมุมานะเรียนไม่เคยใส่ใจตนเอง แต่ต่อจากนี้ไปเธอจะพยายามทำให้ตัวเองหายดีแล้วเลิกยุ่งกับเพื่อนที่ไม่จริงใจทั้งสองคนนี้
เช้าวันต่อมาณิชาไปเรียนและใช้รองพื้นปิดบังรอยสิวที่ใบหน้า แต่เพราะว่าเธอไม่เคยรู้จักการแต่งหน้ามาก่อนจึงให้ไม่ระวังเช็ดเหงื่อออกระหว่างวันก็ทำให้คราบรองพื้นหลุดออกเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาเป็นรอยสิวและมีสิวผุดขึ้นอีกเพราะการอุดตันของรูขุมขนทำให้หญิงสาวกังวลขึ้นมา
“วันนี้เธอแต่งหน้ามาเหรอณิ ไหนบอกว่าหน้าแพ้สารไง”
“อืม” เธอตอบรับเบาๆ ใจเริ่มเสียกับสิวที่ผุดขึ้นมาใหม่
“ว่าแต่รายงานของพวกฉันล่ะ” อริสาเอ่ยถามขึ้นมาแล้วยิ้มสบตากับพีรดา
“ฉันไม่ได้ทำน่ะ เมื่อคืนนอนไว” หญิงสาวตอบอย่างหน้าตาเฉย เธอไม่อยากเป็นคนอ่อนแอให้คนมาเหยียบย่ำเล่น
“นี่แก...” พีรดาชักสีหน้าใสก่อนจะลงท่าทีลง
“ก็ได้ยินว่าจะไปเที่ยวร้านเหล้ากัน เลยคิดว่าไหนๆ ก็ไม่ได้ไปงานวันเกิดคุณย่าหรือรอรับเงินจากพ่อเลยคิดว่าพวกเธอจะมีปัญญาทำเองน่ะเลยไม่ได้ทำให้” คำตอบของณิชาทำให้ทั้งสองอึ้ง และคาดเดาว่าเมื่อวานเธอต้องอยู่ในห้องน้ำตอนที่ทั้งคู่สนทนากันแน่
แต่พีรดาก็ไม่แคร์เพราะเธอคิดว่าอย่างไรเสียคนที่ไม่มีเพื่อนอย่างณิชาก็ต้องพึ่งพาพวกเธออยู่ดี
“เอาสิถ้าแกไม่ทำ พวกเราก็จะไม่คบกับแก อย่าลืมนะว่ากลุ่มเราไม่ใช่ว่าจะรับใครมาอยู่ด้วยง่ายๆ”
“แล้วทำไมฉันต้องอยากอยู่กลุ่มกับเพื่อนที่หวังแต่ผลประโยชน์ด้วย ไม่คบก็ไม่ต้องคบฉันคิดว่าฉันสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้ อีกอย่างพวกเธอก็ไม่เคยมองฉันเป็นเพื่อนอยู่แล้วนี่”
“กรี๊ด!” พีรดาร้องลั่นด้วยความโมโหตามนิสัยที่เอาแต่ใจ
“นี่แกกล้าพูดแบบนี้กับพวกฉันเหรอ” อริสาโมโหไม่ต่างจากพีรดาเลย
“ที่ผ่านมาฉันยอมพวกเธอสองคนในฐานะเพื่อนนะ ไม่ได้ยอมเพราะอยากเป็นคนรับใช้ในกลุ่ม ถ้าจุดประสงค์ในการคบหากันจะเป็นเรื่องความสะดวกสบายแล้วล่ะก็ ฉันก็ไม่ทน” ณิชาพูดออกมาเสียงจริงๆ ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นไป
“คอยดูเถอะ แกจะได้รับบทเรียนจากฉันอย่างสาสม กรี๊ด!” พีรดาตะโกนต่อว่าแล้วกรีดร้องจนณิชารู้สึกว่าดีแล้วที่ตนเองถอยจากเพื่อนที่นิสัยเสียพวกนี้
“ใช่ พวกฉันจะเล่นงานแกแน่นังณิหน้าผี” อริสาเองก็พูดไล่หลังเธอไปด้วยความโมโห
ณิชาไม่สนใจว่าต่อไปเธอจะโดนกลั่นแกล้งอะไรบ้าง เธอไม่ใช่คนที่จะยอมตกเป็นเบี้ยล่างของ และไม่เกรงกลัวสิ่งที่พวกเธอขู่เอาไว้เลยสักนิด
************************
