บทที่ 3
บทที่ 3
ไม่น่าเชื่อว่าจิตวิญญาณของมังกรพิษทมิฬบรรพกาลที่มีอายุถึงหมื่นปีจะมาปรากฎตัวขึ้นตรงหน้า พร้อมกับยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการผูกพันธะสัญญาแห่งชีวิต แน่นอนว่าหลังจากได้รับความทรงจำมาทั้งหมดมาแล้ว เธอย่อมกระจ่างใจถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากการทำพันธะสัญญานี้ เธอไม่แน่ใจว่าสัตว์อสูรตรงหน้ามีแผนการอื่นซ้อนเร้นหรือไม่
ปกติแล้ว ขั้นตอนการผูกพันธะกับสัตว์อสูรนั้นซับซ้อน และอันตรายอยู่ไม่น้อย ยิ่งสัตว์อสูรมีความแข็งแกร่งและสายเลือดสูงส่งมากเท่าใด ข้อแลกเปลี่ยนที่ผู้ฝึกตนต้องสูญเสียก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น บางครั้งอาจหมายถึงชีวิตของผู้ฝึกตนเองเลยเสียด้วยซ้ำ
โดยทั่วไป การตามล่าสัตว์อสูรเพื่อนำมาผูกพันธะ จะเริ่มจากการค้นหาและเลือกสัตว์อสูรที่เป็นสิ่งที่สำคัญและยากที่สุด ผู้ฝึกตนหรือกลุ่มนักล่าอสูรจะต้องค้นหาสัตว์อสูรเป้าหมายที่มีความแข็งแกร่ง และสายเลือดที่ตรงตามความต้องการ
เมื่อพบสัตว์อสูรเป้าหมายแล้ว ผู้ฝึกตนที่ต้องการเป็นเจ้าของพันธะจะต้องใช้บทเวทย์หรือวิธีการอื่นๆ เพื่อสะกดและควบคุมสัตว์อสูร โดยขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงสูงเป็นอย่างมาก เพราะสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งย่อมต่อต้านอย่างสุดกำลังเช่นกัน จึงมีผู้ฝึกตนจำนวนไม่น้อยที่ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิตก็มีให้เห็นกันอยู่ทั่วไป
หลังจากสามารถควบคุมสัตว์อสูรเป้าหมายได้ในระดับหนึ่งแล้ว ผู้ฝึกตนผู้ต้องการผูกพันธะอาจต้องมีการเสียสละบางอย่าง เช่นการสูญเสียความทรงจำ หรือการเปลี่ยนแปลงของร่างกายภายนอกหรือแม้แต่ส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณ
โดยที่ข้อแลกเปลี่ยนนี้ จะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรเป็นหลัก เพราะยิ่งสัตว์อสูรแข็งแกร่งมากเท่าใด ข้อแลกเปลี่ยนก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
กล่าวได้ว่าอาจเป็นการเดิมพันที่เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง
หลังจากผูกพันธะสำเร็จแล้ว ผู้ฝึกตนเจ้าของพันธะนั้นต้องสร้างความสัมพันธ์ เพื่อให้สัตว์อสูรเชื่อฟังและต้องฝึกฝนทักษะที่ได้รับมาจากการผูกพันธะอีกด้วย
"ข้ายินดีรับข้อเสนอดังกล่าวนี้และผูกพันธะสัญญาเจ้าค่ะ"
ปลายฟ้าขอเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองอีกครั้ง สัตว์อสูรที่อยู่เบื้องหน้าได้ครอบครองขุมพลังอันมหาศาลที่ไม่อาจปฏิเสธได้ การตัดสินใจครั้งนี้ย่อมไม่มีวันทำให้เธอเสียใจได้อย่างแน่นอน
‘น้องสาว เจ้าอาจจะต้องเจ็บปวดไม่น้อยเพราะร่างกายนี้อ่อนด้อยทั้งยังอ่อนแอจนเกินไป เฮ้อ! พี่ชายรู้สึกปวดหัวใจจริงๆ เอาละๆ พี่ชายจะเริ่มแล้วนะ’
สิ้นเสียงดังกล่าว ปลายฟ้ารู้สึกได้ถึงคลื่นพลังอันมหาศาลที่มีความบริสุทธิ์เข้าโอบล้อมไปทั่วทั้งร่างกายก่อนที่รัศมีแสงสีดำทองจะทอประกายจากทุกทิศทาง และพุ่งเข้าใส่ส่วนกึ่งกลางศีรษะจนเกิดเป็นความรู้สึกปวดร้าวแทบจะทนไม่ไหว
กระแสพลังพิสดารบางสายได้แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายด้วยความเร็วที่ยากจะควบคุมได้ ใบหน้างามของม่านหรงซือหยวนพลันบิดเบี้ยวเล็กน้อยเนื่องจากความปั่นป่วนของพลังปราณในร่างกายที่ถูกกระตุ้นอย่างฉับพลัน ไม่นานนักพลังลมปราณในร่างกายจึงค่อยสงบลงและบังเกิดเป็นตราลัญจกรมังกรสีดำทองประทับอยู่ตรงใจกลางของมหาสมุทรทะเลลมปราณในร่างกาย
ห้วงมิติอันเป็นเอกเทศนี้ต่างสั่นไหว ราวกับว่าพร้อมที่จะถล่มลงมาในทุกเมื่อ กระแสพลังปราณฟ้าดินต่างถูกดูดกลืนเข้ามายังบริเวณนี้อย่างเข้มข้นจนเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมไปด้วยพิษร้ายต่างถูกพ่นออกมาล้อมรอบร่างบางที่กำลังเข้าสู่กระบวนการหล่อหลอมกายเนื้อใหม่ วงแหวนแห่งพันธะสัญญาแห่งชีวิตได้ปรากฎขึ้นเป็นประกายแสงสีทองศักดิ์สิทธิ์ที่ยามนี้ได้ถักทอเป็นอักขระเวทย์โบราณอันแข็งแกร่งเข้าพันผูกให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
ห้วงพลังปราณอันมหาศาลที่มังกรพิษทมิฬบรรพกาลสะสมมาตลอดหนึ่งหมื่นปีย่อมเป็นมวลพลังงานอันบริสุทธิ์ ยามนี้ได้ถูกถ่ายเทบีบอัดอย่างประณีตราวกับว่ามีช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญที่ค่อยๆ หล่อหลอมสร้างสรรค์กายเนื้อใหม่ของม่านหรงซือหยวนขึ้นมาทีละน้อยอย่างบรรจงสมบูรณ์แบบ
เส้นชีพจรลมปราณได้ถูกวางรากฐานอย่างพิถีพิถัน ให้ไหลเวียนอย่างลื่นไหลไร้สิ่งกีดขวาง ทั้งจุดตันเถียรที่ใจกลางกายนั้นสามารถรองรับ และดูดซับพลังลมปราณจากฟ้าดินได้อย่างไม่จำกัด เปรียบเสมือนบ่อพลังงานอันไร้ขอบเขต พร้อมที่จะปลดปล่อยพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวได้ทุกเมื่อ กลิ่นอายอันเข้มข้นที่เคยปกคลุมทั่วทั้งมิติแห่งนี้ได้เลือนลางลงไปในทุกขณะ ก่อนที่เศษเสี้ยวของร่างจิตวิญญาณจะหายเข้าไปในร่างกายของม่านหรงซือหยวนในที่สุด
การผูกพันธะสัญญาแห่งชีวิตกับจิตวิญญาณของสัตว์อสูรบรรพกาลอายุหมื่นปีเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พึงทราบว่าในพิภพศักดิ์สิทธิ์ใคร่จะมีสัตว์อสูรที่ยินยอมสมัครใจอยู่ภายใต้อาณัติของผู้อื่นโดยง่ายถึงเพียงนี้กัน ยิ่งเป็นสัตว์อสูรระดับสูงที่มีความลึกล้ำทางสายเลือดและเผ่าพันธุ์มากเท่าใด ความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีย่อมมีมากทวีเท่านั้น
หากมิใช่เพราะว่ามังกรพิษทมิฬบรรพกาล รับรู้ได้ถึงบางสิ่งอย่างที่พิเศษซ่อนเร้นอยู่ภายในจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ของม่านหรงซือหยวนแล้ว มันคงไม่ปรากฏตัวและยื่นข้อเสนอเหล่านี้ให้กับนางเป็นแน่
เผ่าพันธุ์มังกรย่อมเป็นที่รู้จักในความหยิ่งทะนงและความภาคภูมิใจในสายเลือดอันเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์ดังนั้นจึงย่อมไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติของผู้ใดง่ายๆ
การที่มังกรพิษทมิฬบรรพกาลยอมผูกพันธะสัญญากับม่านหรงซือหยวนครั้งนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายมองเห็นบางสิ่งที่พิเศษซึ่งหาได้ยากยิ่งในผู้ฝึกตนทั่วไป หรืออาจเป็นเพราะโชคชะตาที่เชื่อมโยงกันเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจและทำให้มังกรพิษทมิฬบรรพกาลยอมเสี่ยงสำหรับผูกพันธะสัญญาแห่งชีวิตอันลึกลับนี้
ด้วยพลังปราณบริสุทธิ์มหาศาล จึงจำเป็นต้องมีการควบคุมและจำกัดการไหลเวียนของพลังปราณอย่างดี โดยใช้จุดตันเถียรคอยควบคุมสมดุลค่อยๆ ปล่อยพลังปราณเข้าสู่ร่างกายอย่างระมัดระวัง หากวันหนึ่งที่ม่านหรงซือหยวนสามารถบรรลุถึงเขตขั้นหลอมรวมวิญญาณแล้ว นั่นหมายความว่าร่างกายของนางแข็งแกร่งพอที่จะรับพลังของจิตวิญญาณอสูรได้อย่างสมบูรณ์ กายเนื้อของมังกรพิษทมิฬบรรพกาลก็จะสามารถสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์อีกครั้งเช่นกัน ถือเป็นการผสมผสานพลังที่สมบูรณ์และเป็นการสิ้นสุดกระบวนการผูกพันธะนี้อย่างแท้จริง
จิตวิญญาณของปลายฟ้าได้ดำดิ่งเข้าสู่ห้วงทะเลมหาสมุทรลมปราณในร่างกาย โดยพื้นที่ส่วนนี้ล้วนอัดแน่นไปด้วยลมปราณฟ้าดินบริสุทธิ์ทั้งยังสุดลูกหูลูกตาไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดตรงที่ใด เหนือใจกลางพื้นที่ว่างเปล่าด้านบนนั้นปรากฎเงาร่างของมังกรพิษทมิฬบรรพกาลที่ยามนี้ได้ทอแสงประกายสีดำทองอาบย้อมไปทั่วทั้งพื้นที่
ตรงด้านหลังยังเห็นเป็นวงแหวนพิสดารทั้งเก้าที่เปรียบดั่งอัญมณีอันล้ำค่า สัมผัสอันลึกล้ำที่แผ่ซ่านออกมาไม่ต่างไปจากกลิ่นอายของมังกรที่เปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่ง ทั้งยังอัดแน่นไปด้วยกลิ่นคาวเลี่ยนของพิษร้ายที่แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งทิศทางโดยรอบ ก่อนที่วงแหวนทางฝั่งซ้ายจะค่อย ๆ หมุนวนรวมเป็นหนึ่งเดียวพร้อมกับเปล่งรัศมีแสงประกายออกมาอย่างท่วมท้น
ราวกับว่า จิตวิญญาณนี้ได้ถูกบีบอัดด้วยมือที่มองไม่เห็น และกระทำอย่างรุนแรงเกินจะพรรณนาได้เกิดขึ้นโดยไม่ปล่อยให้ได้เตรียมตัวหรือเตรียมใจเพียงนิด แน่นอนว่าการตัดผ่านเลื่อนระดับเป็นผู้บำเพ็ญเพียรขั้นรวบรวมวิญญาณนี้ ได้สร้างความเจ็บปวดเพื่อที่จะสรรสร้างความแข็งแกร่งร่างกายหลังจากนี้ได้อย่างแท้จริง
‘น้องสาวจงตั้งสติไว้ให้ดี ผนึกที่คอยกำกับพลังปราณของพี่ชายกำลังหลอมรวมให้เจ้าเป็นผู้ฝึกตนระดับรวมรวบวิญญาณที่เหนือชั้นกว่าเขตขั้นเดียวกันหลายเท่า...’
เสียงของมังกรพิษทมิฬบรรพกาลดังขึ้นสะท้อนไปทั่ว
ปลายฟ้าที่ได้ยินดังนั้นจึงได้แต่กัดฟันแน่นด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด แม้จะอยู่ภายใต้การควบคุมที่เชี่ยวชาญของสัตว์อสูรอายุหมื่นปีเช่นนี้แล้ว ทว่าพลังปราณบริสุทธิ์อันมหาศาลจากจิตวิญญาณของอสูรบรรพกาลยังคงกดดันร่างกายนี้อย่างหนักหน่วงยิ่ง
‘อดทนไว้ นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น! พลังปราณของอสูรบรรพกาลทรงพลัง แต่เจ้าย่อมสามารถควบคุมมันได้ไม่ยาก จงเชื่อมั่นในตัวเอง!’
เธอทำได้เพียงแต่หายใจเข้าลึกๆ และพยายามควบคุมลมปราณที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายให้มีความสมดุลมากที่สุด ไม่รู้ว่าเวลาได้ผันผ่านไปนานเท่าใด ทว่ายามนี้เธอเริ่มรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะกระแสพลังปราณมหาศาลที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายได้เริ่มสงบลงแล้ว
ปลายฟ้าที่อยู่ในร่างของม่านหรงซือหยวนรู้สึกเบาบางผ่อนคลายอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน แน่นอนว่าขั้นตอนการหลอมรวมจิตวิญญาณสร้างกายเนื้อเมื่อครู่ ได้สร้างความทรมานเกินกว่าจะคาดคิดไว้ ทว่าเธอกลับสัมผัสได้ว่าร่างกายใหม่นี้มีความแข็งแกร่งและเปี่ยมไปด้วยพละกำลังเป็นอย่างมาก ราวกับว่าได้เกิดใหม่คงไม่เกินจริงไปนัก ทั้งเธอยังรู้สึกได้ถึงพลังอันมหาศาลที่อยู่ภายใน กล่าวได้ว่าเป็นพลังที่สามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์
เสียงแตกหักพังทลายของห้วงมิติดังขึ้นในโสตประสาทการรับรู้ เป็นดั่งสัญญาณว่าการผูกพันธะสัญญาแห่งชีวิตกับมังกรพิษทมิฬบรรพกาลได้เป็นที่สิ้นสุดลงแล้ว
แม้จะรู้สึกสงสัยอยู่ไม่น้อย ว่าเหตุใดการผูกพันธะสัญญาช่างง่ายดายถึงเพียงนี้ จากนั้นไม่นานก็ได้มีเงาร่างของอีกฝ่ายได้ปรากฎขึ้นเหนือทะเลมหาสมุทรลมปราณ ด้วยรูปลักษณ์ของมังกรตัวน้อยสีดำที่น่าเอ็นดู...
