บทที่ 2
บทที่ 2
ด้วยเพราะกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งฟุ้งกระจายไปทั่ว จึงได้ดึงดูดสัตว์อสูรตัวหนึ่งให้มุ่งตรงมาที่นี่ด้วยสัญชาตญาณนักล่าอันเฉียบคม
เสียงคำรามกึกก้องสะท้านดังขึ้นสะท้อนไปทั่ว ทันใดนั้นร่างกายอันใหญ่โตจึงได้ปรากฏออกมาให้เห็นว่ามีรูปร่างคล้ายเสือสีดำสนิท แต่ขนาดใหญ่กว่าเสือทั่วไปหลายเท่า ส่วนของเขี้ยวคู่และเล็บต่างแหลมคมดุจเหล็กกล้า ดวงตาของมันยังมีสีแดงก่ำเปล่งประกายโหดเหี้ยม ด้วยหวังจะกลืนกินพลังชีวิตของปลายฟ้าเพื่อเพิ่มพูนระดับพลังของมันให้สูงขึ้นไปอีก
ปลายฟ้าย่อมรู้ถึงขีดจำกัดของร่างกายอันอ่อนแอของม่านหรงซือหยวนนี้เป็นอย่างดี ก่อนหน้าที่ต้องปะทะรับมือกับอสูรลิงบาบูนอายุห้าสิบปีก็นับว่าตึงมือจนเกือบจะพลาดท่าถูกสังหารแล้ว แต่กับสัตว์อสูรเสือดำตรงหน้า แค่กลิ่นอายความกดดันที่แผ่ซ่านออกมาย่อมมีอายุไขไม่น้อยกว่าร้อยปีแล้ว เธอคงไม่อาจเอาชนะได้อีกครั้งเป็นแน่
‘น้องสาวใจกล้าผู้นี้เป็นผู้ใดกัน เหตุใดจึงกล้าเยียบย่างเข้ามาเพียงลำพังเช่นนี้…’
เสียงที่ดังขึ้นท่ามกลางความสงบได้สร้างความตกใจแก่ปลายฟ้าไม่น้อย
เมื่อสังเกตจึงเห็นว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในป่าและกำลังเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรเสือดำแล้ว ทว่าตอนนี้พื้นที่โดยรอบกลับนิ่งสงบและเต็มไปด้วยแสงสีขาวพิสุทธิ์สะอาด แม้แต่คลื่นลมก็เงียบสงบราวกับเวลาหยุดนิ่งเสียอย่างนั้น
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!
ถ้อยคำนี้ได้ถูกเอ่ยซ้ำไปมาในห้วงความคิดของปลายฟ้าที่ยังคงงุนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คล้ายกับว่าตอนนี้เธอได้ถูกดึงไปยังอีกมิติหนึ่งอันเป็นเอกเทศไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ที่จะคาดเดาได้ หากไม่ใช่เพราะร่างกายนี้ยังคงอ่อนแรงอยู่เธอคงรีบหาทางออกไปโดยเร็วที่สุดเป็นแน่แท้
‘แม้พรสวรรค์จะอ่อนด้อย แต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณอันบริสุทธิ์ ไม่เป็นไร พี่ชายคนนี้ย่อมมากไปด้วยความสามารถ และย่อมทดแทนความอ่อนด้อยที่มีของน้องสาวได้…’
ตรงพื้นที่ว่างเปล่าเบื้องหน้า ได้ปรากฎเป็นวังวนสีดำประกายทองที่หมุนวนราวกับคลื่นสมุทรจากซ้ายจรดขวา ก่อนจะค่อยขยายใหญ่ขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกับกลื่นคาวเลี่ยนของพิษร้ายที่ยิ่งทวีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
สะเก็ดเพลิงสีดำทองประหลาดยามเมื่อตกกระทบบนร่างบางนี้ ก่อให้ความรู้สึกคล้ายกับว่าได้รับการเยียวยาเส้นชีพจรลมปราณที่เคยกระจัดกระจายให้กลับมาสมบูรณ์พร้อม รวมทั้งบาดแผลทั่วทั้งร่างกายและความอ่อนล้าได้ถูกรักษาไปด้วยเช่นกัน
ห้วงมิติเอกเทศอันแปลกประหลาดแห่งนี้มีเพียงความเงียบสงัดแผ่ปกคลุม จิตวิญญาณของสัตว์อสูรได้ปรากฏกายด้วยร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ เป็นเพียงกลุ่มเงาสีดำสนิทคล้ายกับกลุ่มควันหนาทึบที่เคลื่อนไหวได้ รูปร่างของมันคล้ายคลึงกับมังกร แต่ดูราวกับจะสลายไปได้ทุกเมื่อ พลังปราณที่แผ่กระจายออกมาทำให้ปลายฟ้ารู้สึกถึงความกดดันอย่างมหาศาล แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกถึงความเศร้าโศก ความโดดเดี่ยว และความสิ้นหวังที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังพลังอำนาจ
‘ไม่ต้องตกใจไป พี่ชายเพียงมีข้อแลกเปลี่ยนกับน้องสาวเล็กน้อยเท่านั้น…’
“ตัวข้าผู้นี้พรสวรรค์อ่อนด้อย ย่อมไม่อาจมีสิ่งที่ท่านผู้เฒ่าต้องการ”
เมื่อสัมผัสได้ว่าจิตวิญญาณของสัตว์อสูรตรงหน้าไม่ได้มีเจตนาร้าย ปลายฟ้าจึงตอบไปด้วยความนอบน้อม
‘เพ้ย! น้องสาวเรียกว่าผู้เฒ่าเช่นนี้คงไม่ดีสักเท่าไหร่ แม้ข้าจะอายุนับหมื่นปีหาใช่เรื่องสำคัญ หลังจากนี้ให้เรียกว่าพี่ชายก็เพียงพอแล้ว เข้าใจหรือไม่?’
เสียงของร่างจิตวิญญาณของสัตว์อสูรตรงหน้าดังสะท้อนก้องกังวานในมิติว่างเปล่า สิ่งนี้คือจิตวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ที่กำลังรอคอยการฟื้นคืนชีพและควรคืนกายเนื้อดังเช่นอดีต ตลอดระยะเวลาหลายพันปีมานี้แม้จะได้พบเจอกับผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งหรืออ่อนด้อยมากมายเพียงใดก็ไม่อาจที่จะสร้างพันธะสัญญาแห่งชีวิตนี้ได้สำเร็จสักเพียงครั้ง
“ท่านเป็นสัตว์อสูรอายุหมื่นปีเชียว!”
หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา หากพินิจจากกลิ่นอายอันทรงพลังและอำนาจในการควบคุมมิติแห่งนี้ย่อมพอคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นจิตวิญญาณที่กล้าแกร่ง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นสัตว์อสูรอายุถึงหมื่นปีเช่นนี้
‘พี่ชายรู้ ว่าน้องสาวคงจะชื่นชมและตกตะลึงในตัวพี่ชายคนนี้เป็นอย่างมาก แต่ว่า ได้โปรดฟังคำขอร้องจากพี่ชายหน่อยเสียแล้วกัน...’
‘พี่ชายคือมังกรพิษทมิฬบรรพกาล ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในจุดสูงสุดของบรรดาสรรพสัตว์อสูร หากเจ้ายอมรับพี่ชายผู้นี้เป็นพันธมิตร พี่ชายย่อมตอบแทนด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ให้แก่เจ้า’
เสียงของมังกรพิษทมิฬบรรพกาลเอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น สิ่งนี้ไม่ใช่คำขอร้องแต่เป็นข้อเสนออย่างเท่าเทียมที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
‘น้องสาวเพียงแค่ยอมรับพี่ชายเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณด้วยพันธะสัญญาแห่งชีวิต เมื่อพันธะเสร็จสมบูรณ์แล้วพี่ชายจะช่วยสร้างร่างกายใหม่ที่สามารถรองรับพลังอันมหาศาลนี้ แม้มันอาจจะเจ็บปวดไปบ้าง แต่พี่ชายยืนยันว่าผลตอบแทนย่อมคุ้มค่า…’
‘แต่น้องสาวต้องสัญญาว่าจะไม่หักหลังพี่ชายคนนี้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว การผิดสัญญาของพันธะแห่งชีวิตนั้นย่อมส่งผลที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะคาดเดาได้อย่างแน่นอน’
การผิดสัญญาของพันธะสัญญาแห่งชีวิตนั้นได้ส่งผลร้ายแรงอย่างคาดไม่ถึง ผู้ฝึกตนผู้เป็นนายแห่งพันธะเหล่านั้นล้วนสูญสิ้นสติสัมปชัญญะ คลุ้มคลั่งทำร้ายทุกสิ่งที่ขัดขวางอยู่ตรงหน้า ท้ายที่สุดจึงถูกสังหารให้ตกตายไปอย่างทรมาน อีกทั้งจิตวิญญาณของมังกรพิษทมิฬบรรพกาลต่างก็ถูกสะกดไว้และถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นด้วยหวังครอบครองพลังอำนาจที่ไม่อาจควบคุมได้นี้
สิ่งหนึ่งที่เหล่าผู้ฝึกตนชั่วช้าเหล่านั้นไม่ทราบนั่นคือทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนถ่ายพันธะสัญญาแห่งชีวิต จิตวิญญาณของมังกรพิษทมิฬบรรพกาลนี้ยิ่งสูญสลายไปเท่านั้น ท้ายที่สุดพลังแห่งความมืดมิดจึงได้ครอบครองร่างวิญญาณของมังกรพิษทมิฬบรรพกาลได้สำเร็จ และในครั้งนั้นได้มีชีวิตของผู้บริสุทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกฆ่าสังหารเพื่อเซ่นสังเวยให้กับดวงจิตมารนี้ เคราะห์ดีที่ได้รับพลังกระตุ้นประหลาด จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์นั้นจึงได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น และสามารถครอบครองร่างวิญญาณนี้ได้อีกครั้ง ทำให้หลบหนีมายังผืนป่าแห่งนี้อย่างราบรื่น
ในฐานะของสัตว์อสูรที่ได้ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานนับกว่าหมื่นปี การพินิจมองให้ทะลุเข้าไปถึงเบื้องลึกของจิตใจที่ซ่อนอยู่ย่อมไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไหร่ หลายครั้งที่มีผู้ฝึกตนมากมายรับรู้ถึงการมีตัวตนของจิตวิญญาณสัตว์อสูรระดับบรรพกาล ล้วนต่างมีความทะเยอทะยานอันน่ารังเกียจ ทั้งยังต้องการพันธการจิตวิญญาณนี้เพื่อเพิ่มพูนพลังลมปราณของร่างกายตามเคล็ดวิชาอันโสโครกจนมันต้องหลบหนีออกมาอยู่ในเขตป่าชั้นนอกที่ไม่มีผู้ใดคาดคิด
แม้ร่างกายของม่านหรงซือหยวนผู้นี้จะอ่อนแอ และอ่อนด้อย แต่ความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณนั้นสูงส่งยิ่ง
ดังนั้นมังกรพิษทมิฬบรรพกาลจึงตัดสินใจเสนอข้อตกลงกับปลายฟ้าด้วยเสียงทุ้มต่ำทรงพลังดังก้องกังวาน ด้วยมั่นใจว่าสตรีผู้นี้ย่อมไม่ทำให้ผิดหวังดังเช่นที่เคยเป็นมา
‘ข้อเสนอของพี่ชายดีหรือไม่ น้องสาวเจ้าอย่าได้ลังเล รีบตกลงทำพันธะสัญญากับพี่ชายเสีย...’
เสียงอันร่าเริงของร่างจิตวิญญาณตรงหน้ายังคงดังขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ปรากฎท่าทีใดออกมาเสียที
“แล้วหากว่าข้าขอปฏิเสธเล่า?”
ปลายฟ้าเอ่ยถามด้วยความหนักแน่น
แม้ว่าการแลกเปลี่ยนนี้สามารถเปลี่ยนชีวิตให้เป็นไปตามความต้องการของร่างเดิมได้ แต่อย่างไรเธอก็ไม่ใช่คนที่จะโลภมากจนไม่คิดถึงผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นเช่นกัน
‘หากน้องสาวปฏิเสธ พี่ชายก็จะกลับไปสู่ความว่างเปล่าและพลังเหล่านี้จะสูญสลายไปตลอดกาล....’
‘ยิ่งไปกว่านั้น น้องสาวจะพลาดโอกาสที่ได้รับพลังอันยิ่งใหญ่ และพิภพแห่งนี้ก็จะพลาดโอกาสที่จะมีผู้ปกป้องที่แข็งแกร่งเช่นกัน…’
ปลายฟ้าเงียบไปครู่หนึ่ง พร้อมกับพินิจดูเงาร่างจิตวิญญาณของมังกรพิษบรรพกาลที่วูบไหวราวกับจะสลายไปได้ทุกเมื่อ
“ข้า...ข้าขอเวลาคิดก่อนได้หรือไม่?”
‘พี่ชายย่อมไม่กดดันเจ้า...’
ข้อเสนอนี้ได้ทำให้จิตใจของเธอสับสนระคนหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย สิ่งที่ได้รับหลังจากการยินยอมผูกพันธะสัญญากับสิ่งมีชีวิตทรงพลังเช่นนี้ย่อมมีความเสี่ยงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หากไม่สามารถควบคุมให้ดีและสมดุลแล้วเธออาจจะถูกครอบงำหรืออาจต้องจ่ายค่าตอบแทนที่สูงเกินกว่าจะรับไหว
ความตั้งใจของม่านหรงซือหยวนเจ้าของร่างเดิม คือนางต้องการสัตว์อสูรสำหรับการผูกพันธะ แม้จะมีความอ่อนด้อยทางความสามารถนางก็หาได้สนใจเเต่อย่างใด นางไม่เคยคาดหวังไปไกลตัวถึงเพียงนั้น และนางก็รู้ถึงขอบเขตความสามารถของนางเองว่ามีมากน้อยมากเพียงใด...
