บทที่ 4
...ณ วัดหวังต้าเซียน ฮ่องกง...
ร่างสูงชะรูดดูดีราวกับนายแบบของผู้ชายสองคนตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนบริเวณนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะขยับไปทางไหน ออร่าความเจิดจรัสก็แผ่กระจายไปทั่วร่างราวกับเทพเซียนก็ไม่ปาน
"จะทำอะไรก็รีบๆ ทำได้ไหมวะ"
"เอ้า! จะรีบไปไหนวะ ตกเป็นเป้าสายตาแบบนี้ก็ดีออก เด่นดี" เวกัสบอกกลั้วหัวเราะอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสายตาที่มองมาทางพวกเขาราวกับจะจับกลืนลงท้องนั่น
"เฮ้อ... ฉันไม่อยากอยู่นี่นาน เกิดไอ้พวกนั้นมาคนอื่นจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย" คนพูดว่าพลางหันไปมองรอบตัวอย่างหวาดระแวง
"พวกมันจะกล้าทำอะไรในที่สาธารณะเลยหรอวะ บ้านเมืองมีขื่อมีแปรนะเว้ย แถมแถวๆ นี้ก็มีตำรวจอยู่ด้วย มันไม่กล้าลงมือหรอกน่า" หนุ่มลูกครึ่งแย้งกลับ เพราะเขามาที่นี่เพื่อมาตามหาเทพเจ้าด้ายแดง
เอ่อ... เทพเจ้าด้ายแดงหรือเทพเจ้าหยกโหลวนั่นแหละที่พวกเขากำลังมองหาอยู่
ทว่า...
"ความเชื่อไร้สาระน่า ถ้าขอแล้วมันได้ผลจริงๆ ป่านนี้คนทั้งโลกคงแต่งงานมีลูกเป็นโขยงไปแล้วแหละ" คนฮ่องกงแท้ๆ ที่มีท่าทีไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติเลยแม้แต่น้อยแย้งขึ้นอย่างหงุดหงิด
"หุบปากเหอะน่าไอ้แฟรงค์ ก็เพราะปากแกมันเป็นแบบนี้ไงวะ ถึงได้ยังไม่มีเมียกับเขาสักที" เวกัสยอกย้อนกลับ ในขณะที่เท้าทั้งสองก้าวก็ก้าวฉับๆ ไปตามทางเดิน
"เหอะ! พูดอย่างกลับตัวเองมี"
"โว๊ะ! ก็มันยังไม่เจอคนที่ใช่หรือเปล่าวะ ถ้าเจอแล้วคงไม่ถ่อมาขอพรถึงนี่หรอก"
"ถ้าขอแล้วไม่เจอล่ะ ?" แฟรงค์ หรือ หยางซือจือ ถามกลับอย่างท้าทาย หากแต่อีกฝ่ายกับไว้ไหล่น้อยๆ แล้วตอบกลั้วหัวเราะกลับมา
"แปลว่าย่าพี่อ้ายหลินโกหก"
"หึ! แกก็ไม่ได้เชื่อเหมือนกันนั่นแหละวะ ก็แค่อยากลองของไปอย่างนั้น"
"ทำเป็นพูดไป" เวกัสบอก ทั้งที่แววตาของเขามีแววความตลกขบขันเจือปนอยู่ "แล้วถ้ามันได้ผลจริงๆ ล่ะวะ ?"
"ไร้สาระ"
"ทำเป็นปากดี" หนุ่มลูกครึ่งฮ่องกง - อเมริกาว่าพลางเบ้ปากใส่เพื่อนรักด้วยความหมั่นไส้
"เออๆ จะทำไรก็รีบๆ ทำเหอะ"
ไม่นานร่างสูงโปร่งของสองหนุ่มก็มาหยุดอยู่หน้ารูปปั้นของเทพเจ้าหยกโหลวสีทองที่มีเสี้ยวพระจันทร์ประทับอยู่ด้านหลัง
"คนเยอะชิบ" ซือจือพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
"จะบ่นทำไมนักหนาวะ ไหนๆ ก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ก็ไปให้มันสุดทางดิวะไอ้แฟรงค์" คนพูดบอก แล้วเริ่มทำพิธีตามคนอื่นๆ
"ทำไปคนเดียวเลยแล้วกัน" คนขี้รำคาญบอกปัด แล้วทำท่าจะออกไปรอที่อื่น ทว่าคนอยากลองของกลับไม่ยอมปล่อยเพื่อนไปง่ายๆ
"เฮ้ย! ไม่ได้นะเว้ย ถ้าเกิดมันได้ผลขึ้นมาจะทำไงยังไง เราเป็นเพื่อนกันนี่ ถ้าจะมีเมียทั้งทีก็ให้มีมันพร้อมๆ กันเนี่ยแหละ"
"ตรรกะอะไรของแกวะ เพื่อนกันไม่จำเป็นต้องมีเมียพร้อมกันก็ได้มั้ง"
"ไม่เอาๆ เกิดฉันอี๋อ๋อกับเมียให้เห็น แล้วแกอิจฉาตาร้อนขึ้นมาจะทำยังไง" เวกัสบอกติดตลก แล้งส่งสัญญาณเป็นเชิงบังคับให้เพื่อนรักทำตาม
ทั้งคู่ไหว้ท่านเทพสามครั้งเหมือนกับคนอื่นๆ ก่อนจะเดินไปยังรูปปั้นเจ้าบ่าวเพื่ออธิษฐานขอคู่ตามขั้นตอน และเดินไปยังรูปปั้นเจ้าสาว พลางใช้มือรูปไปที่เท้าของรูปปั้นเจ้าสาวสามครั้ง แล้วนำด้ายแดงไปผูกไว้กับเชือกที่เชื่อมโยงรูปปั้นทั้งสามเป็นอันเสร็จพิธี
"จะได้ผลไหมวะ ?" เวกัสถามขึ้น หลังจากที่พวกเขาเดินออกมาจากวัด
"ไม่หรอก ไร้สาระจะตายไป" คนไม่เชื่อตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง "ป๊าโทรมาว่ะ"
"เออๆ ไปหาที่เงียบๆ คุยเหอะ เดี๋ยวรออยู่ตรงนี้แหละ" เขาพูดพร้อมกับหยิบแว่นสาดำแบรนด์ดังขึ้นมาสวม
"เออ"
หนุ่มลูกครึ่งมองตามหลังเพื่อนรักไปจนลับสายตา ก่อนที่เขาจะเริ่มสังเกตได้ถึงความผิดปกติอะไรบางอย่าง จนต้องรีบหาทางหนีทีไล่
"พวกมันมาจริงด้วยว่ะ"
เวกัสพึมพำขึ้นมาอย่างไม่เชื่อสายตา ในขณะที่เท้าทั้งสองข้างกำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปอีกทางเพื่อหลอกล่อศัตรูของเพื่อนรักให้ตามมา
ร่างสูงเดินเลี้ยวไปตามทางที่เขาไม่คุ้นเคย ทว่าจะให้ถอยไปตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว ในเมื่อพวกมันทั้งหมดคิดว่าเขาเป็นซือจือ และกำลังไล่ตามมาติดๆ ด้วยการเดินแทรกซึมกับฝูงชนอย่างแนบเนียน
"เป็นน้องดาราหน้าหม้อก็ว่าลำบากแล้ว เป็นลูกมาเฟียนี่มันลำบากกว่าเยอะเลย"
ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าของตัวเองลงเมื่อเห็นว่าหนทางเบื้องหน้าเป็นทางตัน และตอนนี้เขาก็โดนต้อนซะจนมุมแล้วด้วย
"ไปกับพวกเราดีๆ เถอะ อย่าหนีให้ลำบากเลย" เสียงแหบห้าวของใครบางคนดังขึ้น ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินออกมายืนอยู่ตรงหน้าเขา
เวกัสมองใบหน้าเหี้ยมเกรียมที่มีรอยบากใหญ่เบ้อเริ่มตัดผ่านหน้าเป็นแนวเฉียงจากใต้ตาซ้ายไปทางปลายคางด้านขวา
ในหัวของเขาเผลอไปนึกถึงตอนที่มันเป็นแผลเหวอะหวะน่าสะอิดสะเอียน จนต้องเบ้ปาก แล้วสะบัดหัวแรงๆ เพื่อไล่ภาพใบหน้าสยดสยองนั่นทิ้งไป
"พวกแกเป็นใคร ?"
"ก็รู้อยู่แล้วนี่ ไปกับพวกเราซะ ถ้าไม่อยากให้คนอื่นต้องเดือดร้อนไปด้วย" มันขู่พลางเลิ่กชายเสื้อขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อให้เขาได้เห็นปืนพกสีดำมันวาวที่เสียบอยู่ตรงขอบกางเกง
"ฮ่าๆๆ"
ชายหนุ่มเผลอระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เพราะเขาดันจินตนาการไปดึงฉากที่ปืนลั่น แล้วยิ่งโดนจุดสำคัญที่อยู่ภายใต้กางเกงยีนส์ตัวเก่านั่น
'โอ้วว... สูญพันธ์แน่ๆ' หนุ่มลูกครึ่งครุ่นคิดในใจ ทั้งที่เขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ขับขันเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายสุดๆ
"ขำอะไรวะ!?" ผู้ชายหน้าเหี้ยมถามด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ทว่าอีกฝ่ายกลับโบกมือไปมากลางอากาศ แต่ก็ยังหัวเราะไม่หยุด
"ไม่เอาน่าพี่ชาย เครียดมากหน้าแก่นะครับ" เขาบอกพลางยกมือขึ้นถอดแว่นกันแดดของตัวเองออกมา เพื่อบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่พวกมันกำลังตามหา
"เฮ้ย!"
"เอ้าๆ ตกใจอะไรล่ะพี่ หล่อขนาดนี้ ไม่ใช่ผีแน่นอนครับ"
"ไม่ใช่ไอ้หยางซือจือ!!" ชายหน้าบากตะโกนบอกลูกน้องอย่างหัวเสีย เพราะแผนการล่มไม่เป็นท่า
"เอ้า! ก็ไม่ใช่น่ะสิถามได้" เวกัสบอกกลั้วหัวเราะ เพราะขนาดรูปร่างและความสูงของเขากับเพื่อนรักเหมือนกันเป๊ะทุกสัดส่วน
และถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกครึ่ง แต่หน้าตาก็ออกมาทางโซนเอเชียไปแล้วเกือบๆ เก้าสิบเปอร์เซน ไม่แปลกเลยที่พวกมันมองไกลๆ แล้วจะคิดว่าเขาเป็นซือจือ
"ถ้าไม่ใช่งั้นก็ตายซะ!" คนร้ายพูดเสียงเหี้ยม
และ...
ปัง! ปัง!
เสียงปืนสองนัดดังขึ้นพร้อมๆ กัน ก่อนจะเกิดเสียงดังกลาหลวุ่นวายไปทั่วบริเวณ
ดวงตาของเขาพร่าเลือนไปหมด และมันกำลังจะปิดลงในไม่ช้า เพราะความเจ็บแปลบบริเวณบาดแผลที่หน้าอกด้านซ้าย
ใช่... เขาถูกยิงที่หน้าอกด้านซ้ายพอดี
'อ่า... ท่านเทพครับ ผมมาขอเนื้อคู่นะครับ ไม่ได้มาขอลูกกระสุน' เขาคิดในใจแบบติดตลก ก่อนจะหลับตาลง แล้วปล่อยให้ร่างกายล้มลงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก
