บทที่ 3
...สองอาทิตย์ต่อมา...
ดวงตาสีดำขลับทรงพลังของผู้นำตระกูลซากุยากิกวาดมองรอบโต๊ะประชุมคล้ายกับกำลังหาข้อสรุปจากทุกคน โดยไม่จำเป็นต้องปริปากพูดอะไรออกมา เพราะสถานการณ์กำลังตึงเครียด เนื่องจากสินค้าส่งออกมีปัญหากระทันหันทำให้บริษัทต้องสูญเสียเงินมูลค่าหลายล้านบาท และแน่นอนว่าเรื่องนี้มันต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง!
"หนูขออาสาไปจัดการปัญหานี้เองค่ะ"
หญิงสาวหนึ่งเดียวในที่ประชุมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดและมั่นใจ ทำให้ทุกคนมองเธอและผู้นำตระกูลสลับกันไปมาคล้ายกับกำลังรอคอยคำตอบของคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะว่าจะเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเธอหรือไม่
ซาโตะมองลูกสาวบุญธรรมด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง ก่อนจะเอ่ยค้าน "ไม่ได้... มันอันตรายเกินไป"
"เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นะคะ คู่ค้ารายนี้สำคัญกับบริษัทของเรามาก ยังไงเราก็ต้องไปเจรจากับเขาเพื่อขอยืดเวลาในการส่งสินค้า"
"แต่มันอันตรายสำหรับแก พ่อรู้ว่าแกมีความสามารถไม่แพ้ผู้ชายอกสามศอก แต่ยังไงแกก็เป็นผู้หญิง และที่นั่นก็ไม่ใช่ถิ่นของเรา"
"ปัญหานี้ต้องใช้เวลาแก้ไขนานนะคะ เราต้องมีคนคอยประสานงานตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก แถมตอนนี้โกดังสินค้าของเราที่นู่นก็ไม่มีคนดูแล ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้พวกมันต้องลงมืออีกแน่" ไอริอธิบายเหตุผลของเธอด้วยการชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่
"งั้นพ่อจะส่งโฮชิไปแทน" ซาโตะพูดขึ้น เพราะเขาเป็นห่วงบุตรสาวบุญธรรม ถึงแม้จะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน หากแต่ก็เลี้ยงมาเองกับมือด้วยความรักเท่าเทียมกับลูกในไส้
"ไม่ได้นะคะ ถ้าพ่อส่งพี่โฮชิไปก็จะยิ่งเข้าทางมัน"
"ยังไง ?" คราวนี้โฮชิเป็นคนถามขึ้นมาเองด้วยความสงสัย
"เพราะพี่เป็นทายาทคนเดียวของพ่อ และต้องเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป" หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ เพื่อยืนยันให้รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว
"เหตุผลนี้ไม่ผ่าน" คนเป็นพี่รีบแย้งขึ้น "เธอเองก็เป็นลูกของพ่อเหมือนกัน ถ้ามันคิดจะทำอะไรพี่จริงๆ นั่นก็แปลว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย"
"ฉันไม่สำคัญเท่าพี่หรอกน่า"
"ไม่จริง!" โฮชิแย้งคอเป็นเอ็น ก่อนจะเดินอ้อมไปล็อกคอน้องสาวบุญธรรมเอาไว้แน่น "ยังไงพี่ก็ไม่ยอมให้เธอไปหรอก"
"งั้นเอาอย่างนี้ดีไหม ?" ไทสึ หนึ่งในผู้อาวุโสที่เปรียบเสมือนมือขวาของผู้นำตระกูลขัดขึ้น เมื่อเห็นว่ายังไม่มีใครสามารถตัดสินใจอะไรได้ "เรารีบจัดงานแต่งงานของนายน้อยกับคุณหนูไอริดีกว่าครับ ถ้ามีทายาทอีกคนจะได้ไม่ต้องมาคอยกังวลอย่างที่เป็นอยู่นี่"
"นั่นสิ... ผมเห็นด้วยกับไทสึ"
ซึบาโนะ ผู้อาวุโสที่เป็นเสมือนมือซ้ายของผู้นำตระกูลเอ่ยสนับสนุนด้วยอีกคน ตามมาด้วยการยกมือเพื่อแสดงให้เห็นว่าสมาชิกระดับสูงอีกห้าท่านก็เห็นด้วยกับความคิดนี้เช่นกัน ทำให้สองพี่น้องหน้าถอดสี
"อือ..." ซาโตะครางในลำคอคล้ายจะเห็นด้วย แต่กลับลอบมองใบหน้าของลูกๆ ทั้งสองด้วยความเข้าอกเข้าใจ และเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าตัวเองควรจะทำหน้าที่ในฐานะพ่อซะบ้าง "เรื่องแต่งงานยังไงก็ต้องแต่งอยู่วันยังค่ำ ถ้าจะรอให้มีทายาทก็คงต้องใช้เวลาเป็นปี เรามาแก้ปัญหาเรื่องสินค้ากันก่อนเถอะ ธุรกิจให้รอนานขนาดนั้นคงไม่ไหว"
"นั่นสิครับ ต่อให้ผมกับไอริแต่งงานกันตอนนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องมีลูกกันภายในเดือนสองเดือนนี้สักหน่อย แถมกว่าจะคลอดก็ต้องรอตั้งเก้าเดือน แล้วเรายังไม่รู้อีกว่าเจ้าตัวเล็กจะเป็นหญิงหรือชาย ถ้าต้องรอนานขนาดนั้น ธุรกิจส่งออกผลไม้แปรรูปของเราคงจะเจ๊งพอดี"
โฮชิพยายามอธิบายแบบติดตลกเพื่อเชิญชวนให้คนฟังคล้อยตามเขา ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม
"จริงค่ะ เพราะฉะนั้น... พ่อคะ หนูขอเป็นคนไปแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเอง" ไอริยังคงยืนยันคำเดิม เพราะเธอมีแผนการบางอย่างแอบแฝง
"ไม่ได้! / ไม่ได้!"
ซาโตะกับโฮชิเอ่ยขึ้นพร้อมกันเสียงดังลั่นห้องประชุม ทว่าหญิงสาวกลับฉีกยิ้มกว้างอย่างตลกขบขันในท่าทางของทั้งสอง แล้วยื่นข้อเสนอต่อรอง
"เดือนเดียวค่ะ"
"อะไร ?" ผู้นำตระกูลถามขึ้นด้วยความงุนงง
"หนูขอเวลาจัดการกับปัญหานี้แค่เดือนเดียวค่ะ"
"ต่อให้อาทิตย์เดียวก็ยังอันตรายสำหรับเธออยู่ดี"
โฮชิทำตัวเป็นฝ่ายค้านอีกครั้ง หากแต่คนเป็นน้องกลับลอบขยิบตาส่งสัญญาณบางอย่างให้เขา จนชายหนุ่มขมวดคิ้วเป็นปม
"ถ้าทุกคนเป็นห่วง งั้นฉันขอพาชิบาโนะไปเป็นบอดี้การ์ดชั่วคราวก็แล้วกัน" ไอริเอ่ยขึ้นเสียงดัง เพื่อยืนยันความต้องการของตัวเอง ทุกคนจึงไม่ได้โต้แย้งอะไร เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า...
ชิบาโนะ!
หลานชายแท้ๆ ของผู้อาวุโสซึบาโนะเป็นมือสังหารที่โหดเหี้ยมและเลือดเย็นขนาดที่ว่าสามารถต่อสู้กับศัตรูได้ด้วยสีหน้าเรียบเฉยคล้ายพึ่งโดนฉีดโบท็อกออกมาจากคลินิกศัลยกรรม
"ตกลง" โฮชิพูดขึ้น เพราะรู้ดีว่าบุตรสาวบุญธรรมเป็นคนเด็ดขาด ลองถ้าได้ตัดสินใจอะไรไปแล้ว ก็ยากที่จะเปลี่ยนใจ
"ขอบคุณค่ะ"
...หลังการประชุม...
"มานี่เลยยัยตัวดี ขยิบตาแบบนั้นน่ะมีแผนอะไร ถ้าไม่เข้าท่านะพี่จะโวยวายให้พ่อขังเธอไว้ที่บ้านให้ได้เลยคอยดู" โฮชิบ่นเสียงดุพลางลากคอเสื้อคนตัวเล็กไปด้วยพละกำลังมหาศาลแบบที่ไม่คิดจะทะนุถนอมเลยแม้แต่น้อย
"โอ๊ย! แค่กๆ ปล่อยเดี๋ยวนะ"
"บอกมา!"
"ก็พี่มาดึงคอเสื้อกัน แล้วลากไปลากมาแบบนี้ จะให้บอกอะไรเล่า ปล่อยได้แล้ว!" หญิงสาวโวยวายขึ้นบ้าง แล้วพยายามยื้อคอเสื้อตัวเองออกจากมือของคนตัวโตกว่า
"เธอมีแผนอะไร บอกมาให้หมดไอริ"
"เฮ้อ... ฉันก็จะไปเจรจาธุรกิจไง" คนตัวเล็กตอบปนหอบ พร้อมทั้งพยายามจัดคอเสื้อของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง
"ถ้าแค่นี้ก็ไม่ต้องไป!"
"ไม่ใช่! ไม่ใช่แค่นี้สักหน่อย"
หญิงสาวดึงแขนเขาเอาไว้ ร่างสูงถึงได้ยอมสงบปากสงบคำ และรอฟังในสิ่งที่เธอกำลังจะบอก
"ฉันได้ไม่อยู่บ้านจะได้จัดการแผนล่มงานแต่งงานของเราได้สะดวกขึ้นด้วยไง" ร่างบางอธิบายแผนการแอบแฝงที่เธอตั้งใจจะลงมือในขณะที่บินไปเจรจาธุรกิจ
"อย่าบอกนะว่าเธอจะจับชิบาโนะเป็นผัว!" โฮชิตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความช็อกระดับสิบ จนคู่สนทนาต้องหยิบหมอนมาปาใส่หน้าเขา
"จะตะโกนเพื่อ !?"
"นี่เอาจริงหรอเนี่ย ?"
"เอาจริง แต่ไม่ใช่ชิบาโนะ"
"แล้วใคร ?" ชายหนุ่มถามขึ้นด้วยความสงสัย ทว่าอีกฝ่ายกลับยิ้มกว้าง
"ใครก็ได้ทั้งนั้นแหละ... ไม่เกี่ยง"
"จะบ้าเรอะ !?"
"ไม่หรอกน่า ฉันต้องรีบใช้สถานการณ์แบบนี้ให้เป็นประโยชน์ พี่ไม่เคยได้ยินหรอว่า 'ลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ' น่ะ" ไอริบอกด้วยความมั่นใจ
แหม... แค่ผู้ชายคนเดียวมันจะไปยากอะไร ดักตีหัว แล้วโมเมว่าเขาเป็นผัวซะก็สิ้นเรื่อง!
