บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9

ขวัญฟ้านึกเข่นเขี้ยวในใจอย่างโกรธจัด พลางก้มลงเก็บเอกสารที่หลุดมือกระจายเมื่อกี้ใส่กระเป๋า

มันต้องไม่ใช่ความจริงแหงๆ โอย...นี่หล่อนฝันไปหรือไรนะ แต่เมื่อลองเอามือหยิกตัวเองแรงๆ

โอ้ย! เจ็บชะมัด...ไม่ใช่ฝันนี่หว่า

แต่...อีตายามปากเสีย นั่นไม่มีทางจะเป็นคนเดียวกับ...ท่านประธานกรรมการผู้บริหาร...ตรงหน้าหล่อนเวลานี้ได้...ไม่มีทาง...แล้วภาพที่เห็นตอนนี้มันคืออะไรกันล่ะ

ให้ตายเหอะ...นี่หล่อนเดินสะดุดเหยียบตอจังๆ เลย ซวยอะไรอย่างนี้

เมื่อเก็บเอกสารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย หล่อนก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้นำใบสมัครและหลักฐานอะไรให้เขาเลยซักอย่าง จึงรวบเอกสารในมือบรรจงวางอย่างเบามือ หากชายหนุ่มตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าว่าจะละสายตาไปจากแฟ้มเอกสารเล่มหนานั่นซักนิดแถมเมื่ออ่านเสร็จก็โยนแฟ้มนั้นทับบนเอกสารของหล่อนอีกต่างหาก ถึงหญิงสาวจะรู้ดีว่าตนกำลังถูกเขาแกล้งเมินใส่อยู่ แต่สมองน้อยๆก็พร่ำบอกกับหล่อนว่าให้อดทนต่อไป นี่คือบททดสอบแรกเท่านั้น อย่าให้เขาเห็นความอ่อนแอของเด็ดขาด

ให้มันรู้ไปสิว่าคนอย่าง ขวัญฟ้า จะแพ้ให้กับนายปีศาจหน้าหยกนี่

เมื่อไม่ให้นั่งก็จะไม่นั่ง เมื่อไม่ยอมพูดด้วยก็ไม่ต้องพูด แต่จะให้หล่อนยอมแพ้เขานั้น...ไม่มีวัน

ฝากไว้ก่อนเหอะ...นายปีศาจร้าย…ทีใครทีมัน

รู้งี้เชื่อไอ้เชอร์รี่แต่แรกก็ดี ไม่น่าเลยเราอยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องใส่ตัว หาเหาใส่หัวตัวเองจริงๆ

เวลาผ่านไปนาน คนตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าจะใส่ใจหล่อนซักนิด ส่วนคนที่ยืนบนส้นสูงนานๆ ก็ชักเมื่อยขาเต็มทนแถมหิวสุดๆ กาแฟกับขนมปังปิ้งที่รองท้องมาแต่เช้าก็ไม่รู้หายไปไหนหมด แถมหล่อนต้องนั่งรอนานๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาหารมื้อกลางวันยังไม่ตกถึงท้องเลยซักนิด จนในที่สุด...

“โครก!...อุ้ย! ขะ...ขอโทษค่ะ” เสียงท้องร้องดังสนั่นของขวัญฟ้า เหมือนสัญญาณเตือนชายหนุ่มว่ายังมีใครอยู่ด้วยอีกคน

ระพีวิชญ์ เงยหน้าจากแฟ้มเอกสาร ตวัดหางตาคมกริบมองหญิงสาวตรงหน้า ที่ตอนนี้หน้าแดงด้วยความอับอายเป็นที่สุด

“อ้าว คุณยังอยู่อีกเหรอ ผมลืมไปเลย” เขาเอ่ยพลางถือโอกาสพิจารณาหญิงสาวตรงหน้าไปในตัว

หญิงสาวหน้าชา ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น ความแค้นที่เขาปล่อยให้รอนานแถมยังไม่พอ หล่อนต้องมากระอักเลือดกับคำถามงี่เง่าของเขาอีก ถามมาได้ไง...เขาทำเหมือนกับว่า ตัวหล่อนเป็นอากาศธาตุ ไม่มีตัวตน ไม่เห็นหัว ไม่เห็นเงา ขวัญฟ้า ระงับโทสะที่กำลังพลุ่งพล่านในใจอย่างสุดขีด ก่อนแสร้งทำเป็นส่งยิ้มหวานบาดใจให้เขา

“ขอโทษนะคะ ดิฉันคิดว่าคุณควรหาเวลาว่างไปพบจักษุแพทย์ซะบ้างนะคะ”

“หืม...” ชายหนุ่มเลิกคิ้วสงสัย “ไปพบทำไม”

“ดิฉันรู้สึกว่าตอนนี้สายตาคุณเริ่มจะมีปัญหา มันเริ่มจะมองอะไรไม่ค่อยเห็นแล้วล่ะ มีตาแต่ไม่รู้จักใช้ ระวังนะคะ ต่อไปอาจจะไม่มีตาให้ใช้”

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันที หล่อนหาว่าเขาตาบอด

“ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง แต่ผมคิดว่าคุณเองก็น่าจะไปพบจักษุแพทย์เหมือนกันนะครับ แล้วน่าจะถามเขาด้วยว่าทำอย่างไรถึงจะย้ายเอา ตาที่อยู่ตรงข้อเท้ามาไว้ที่เก่าได้”

กึก!

ขวัญฟ้าสะอึก แทบกระอักเลือดตายเมื่อเจอเขาศอกกลับว่า หล่อนตาต่ำ ที่เคยมองว่าท่านประธานอย่างเขา เป็นยามไปได้

“เอ๊ะ! ปากอย่างนี้ ฉันว่าคุณควรไปพบหมอฟันด้วยนะคะ จะได้ให้เขาช่วยผ่าหอมอสระอาออกจากปากให้หน่อย รู้สึกว่าตอนนี้มันชักจะเห่าดังผิดปกติแล้ว” สาวหัวดื้อตอกกลับ

“งั้น คนเคยมีประสบการณ์อย่างคุณคงพอจะแนะนำผมได้สินะว่าหมอที่ไหนรักษาเก่ง แต่หมอคงไม่เก่งซักเท่าไหร่มั้ง อาการของคุณไม่เห็นจะดีขึ้นเลยนี่นา รู้สึกจะหนักกว่าผมอีกนะตอนนี้”

“นี่นาย!” ขวัญฟ้าขึ้นเสียงใส่ ตวัดตามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ปากเสียอย่างนี้มันน่าจะเอาแฟ้มเอกสารทั้งกองทุบหัวแตกให้ไม่มีหมอที่ไหนรับรักษาเลยดีกว่ามั้ง…

“เอ...เมื่อเช้านี้คุณเคยบอกว่าคุณรู้จักผมดีนี่นา ทำไมแม้แต่ชื่อก็เรียกไม่ถูกเลยหรือครับ”

ระพีวิชญ์ แอบยิ้มเยาะกับแฟ้มเอกสาร รอฟังว่าหญิงสาวตรงหน้าจะสรรหาถ้อยคำอะไรมาโต้ตอบ หากแต่หล่อนกลับนิ่งเงียบ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel