ตอนที่ 2 เหมือนฝัน
ตอนที่ 2
เหมือนฝัน
กันตากลับถึงหอพักสิ่งแรกที่เธอทำคือการโทรศัพท์เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้มีนาฟังด้วยหัวใจที่เต้นแรงเหมือนว่าทุกเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นตอนนี้
“สุดยอดเลยเพื่อน...ไม่น่าเชื่อว่าฟ้าจะส่งให้พี่เขาเข้ามาคุยกับแกเอง อย่าปล่อยโอกาสให้ผ่านไปฟรี ๆ นะ แกต้องชวนพี่เขาคุยเรื่องสนุก ๆ แต่ก็อย่าบ่อยเกินเดี๋ยวเขาจะรำคาญเอา”
มีนากูรูเรื่องจีบผู้ชายแนะนำเพื่อนทันที หญิงสาวฟังเหมือนเข้าใจแต่ความจริงเธอไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเธอควรเลือกจากทำอะไรก่อน
“มีนาเราควรทักไปหาพี่เขาไหม”
“ไม่ๆ ๆ แกจะมาได้เฟซแล้วทักไปเลยแบบนี้ไม่ได้ มันดู จู่โจมเกินไปและที่สำคัญเราจะแน่ในได้ยังไงว่าเขายังไม่มีแฟน เอาเป็นว่าคืนนี้ทั้งคืนแกไถเฟซของพี่เขาย้อนหลังค้นดูรูปภาพ ศึกษาข้อมูลโดยละเอียดเพื่อให้รู้ว่าเขามีแฟนหรือยัง อีกอย่างแกจะได้รู้ว่าเขาขอบอะไรไม่ชอบอะไร เก็บข้อมูลก่อน”
มีนายังไม่ทันแนะนำจบเสียงแชทก็ดังแทรกเข้ามาในโทรศัพท์ กันตาใช้หูฟังในการคุยจึงมองเห็นได้ทันทีว่าคนที่ส่งมาเป็นใครแล้วส่งมาว่าอะไร
“มีนาพี่เขาแชทมาว่ะ ! !”
เสียงพูดด้วยความดีใจของกันตาทำเอาคนในโทรศัพท์หูแทบแตกเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว
“โอ๊ย! หูเกือบแตก ว่าแต่เขาทักว่าอะไรแก...”
“เขาถามว่านอนหรือยัง ฉันยังไม่ได้กดเข้าไปอ่านเอาไงดีวะแก ตอบว่าอะไรดี”
กันตาไม่รู้จริง ๆ ว่าเธอต้องทำอย่างไรเพราะถ้าให้เธอคิดเองเธอคงรีบอ่านและตอบทุกอย่างไปตามความจริง
“แกยังไม่ต้องกดเข้าไปอ่านนะกันตา เว้นระยะ เขาจะได้ไม่คิดว่าเราตั้งหน้าตั้งตารอแชทเขา แล้วแกก็ตอบเขาไปว่ายังค่ะอาบน้ำเพิ่งเสร็จ”
มีนาแนะนำวิธีการอ่อยผู้ชายแบบไม่น่าเกลียจให้กับ เพื่อนสาวที่ยังไม่เคยจีบใครจนหมดไส้หมดพุงแล้ว เธอจึงวางสายปล่อยให้กันตาได้ลองปฏิบัติเองต่อ
กันตาตอบตามที่เพื่อนสาวสอน วาฤทธิ์ส่งข้อความกลับมาว่าว่างแล้วส่งข้อความมานะ พี่มีเรื่องอยากคุยด้วย กันตาอยากตอบกลับไปมากว่าว่างมากค่ะแต่ต้องเล่นตัวตามที่มีนาสอนไว้ เธอจึงแกล้งเงียบไปเกือบสิบนาทีแล้วจึงแชทบอกอีกฝ่ายว่าตอนนี้เธอว่างแล้ว
“สวัสดียายหนู พี่ไม่ได้โทรมากวนใช่ไหม” คนโทรมาเรียกยายหนูตามที่เคยบอกไว้
“ไม่ค่ะ กันตาทำอะไรเสร็จหมดแล้ว พี่วายุมีอะไรหรือเปล่าคะถึงได้โทรมา”
กันตาทำน้ำเสียงเหมือนไม่ได้รู้สึกดีใจอะไรกับการที่อีกฝ่ายโทรหาเธอทั้งที่หัวใจมันตื่นเต้นจนแทบจะออกมาเต้นข้างนอกอยู่แล้ว
“พี่เห็นในเฟซบุ๊กเราที่บ้านทำเกษตรพี่ชอบมากเลยนะ เลยอยากให้เราเล่าให้ฟังบ้างว่าที่บ้านทำอะไรยังไง คือชีวิตพี่อยู่แต่ในตึกแถวขายทอง ไม่เคยมีบ้านที่มีพื้นที่ให้ปลูกต้นไม้ เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ กับเขาเลย”
กันตารู้สึกโล่งใจที่สิ่งที่ชายหนุ่มโทรมาหาเธอไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เธอรู้สึกเขินและมันก็เป็นคำถามที่เธอตอบได้สบาย
“พ่อกับแม่ชอบทางด้านเกษตรมากค่ะ พ่อของกันตาเรียนจบประมงมาแม่ก็จบสาขาพืชสวนมา ตอนแรก ๆ ทั้งคู่ก็ทำงานประจำพอพ่อเก็บเงินซื้อที่ดินเพิ่มได้รวมกับที่มีอยู่ตอนแรกก็หลายไร่พ่อจึงลาออก ตอนแรกก็แค่ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่แต่พอตอนหลังข้าวขายดีมากและหันมาทำเกษตรแบบไม่พึ่งสารเคมี งานก็หนักขึ้นแม่เลยต้องออกจากงานมาช่วยพ่อ”
“ดีจังเลย บ้านกันตาคงมีที่ดินเยอะมากแบบนี้ตอนเด็ก ๆ คงวิ่งเล่นสนุกได้ปั่นจักรยานแน่ ๆ เลย ส่วนพี่ตอนเด็ก ๆ ก็ได้แต่ปั่นหลังร้านวนไปวนมา พอมีรถวิ่งมาก็ต้องคอยหลบอิจฉาจริง ๆ ”
กันยาสัมผัสได้ว่าในคำพูดของชายหนุ่มมันมีความเศร้าซ่อนอยู่ในนั้น
“ไม่หรอกค่ะ ตอนเด็ก ๆ พ่อเพิ่งเริ่มทำ กันตาต้องช่วยงานทั้งชั่งข้าวซีนถุงและหน้าที่ประจำคือหุงข้าวล้างจาน เพราะแม่ยังไม่ลาออกตอนนั้น พ่อก็ต้องลงนาทั้งวัน งานบ้านจึงไม่มีคนทำ”
“เราเป็นลูกคนเดียวเหรอ”
“ใช่ค่ะแล้วพี่วายุมีพี่น้องไหม”
“พี่มีพี่ชายกับน้องสาว พี่ชายพี่ตอนนี้เรียนจบแล้วและก็ไปช่วยงานร้านทอง พี่ชายพี่ก็บ่น ๆ อยู่ว่าสุดท้ายเรียนในสิ่งที่ชอบแต่กลับไม่ได้ทำงานที่รักเลย เพราะแบบนี้พี่ถึงเรียนหมอเพราะคงไม่มีทางที่พ่อกับแม่จะให้คนที่จบหมออย่างพี่ไปดูแลร้านทองแน่ ๆ คงให้เปิดคลินิกมากกว่า”
วายุเขาไม่ชอบชีวิตที่เขาโตมามันดูสบายดูรวยแต่เขาไม่เคยมีความสุข วัน ๆ ก็ขายแต่ทองร้านปิดเฉพาะวันอาทิตย์ ทุกคนในบ้านจะได้กินข้าวข้างนอกหรือไปไหนก็แค่วันอาทิตย์เท่านั้นแต่ส่วนมากพ่อกับแม่ก็เลือกที่จะนอนเล่นอยู่บ้านเพื่อพักเหนื่อยมากกว่า ลูกทั้งสามคนก็ต้องอยู่บ้านตามไปด้วย
“มันก็สนุกต่างกันนะคะ ตอนกันยาเด็ก ๆ ยังเคยชอบเล่นขายของเลยเพราะอยากเป็นแม่ค้า ร้านทองก็เคยไปค่ะแต่ไม่ค่อยได้ไปซื้อแต่พ่อจะเอาไปจำนำมากกว่า”
หญิงสาวพยายามพูดให้อีกฝ่ายรู้สึกขำ ซึ่งมันก็ได้ผลเพราะวาฤทธิ์หัวเราะกับคำพูดของยายหนูของเขา
“พี่เห็นเราที่หอป๋วยบ่อยมาก ขยันอ่านหนังสือหรือรายงานเยอะ”
กันตาถึงกับไปไม่ถูก นี่เขาสังเกตเธอตลอดเลยเหรอถึงได้รู้ว่าเธอไปที่นั่นบ่อย
“ทั้งสองอย่างเลยค่ะแต่ถ้าเหตุผลจริง ๆ คือประหยัดค่าไฟที่หอพัก เพราะอากาศร้อนถ้ากลับมาห้องก็ต้องเปิดแอร์เลยกลับหัวค่ำหน่อยค่อยเปิดตอนนอนทีเดียว กลัวเงินที่พ่อส่งมาให้จะไม่พอใช้ถ้าต้องเสียค่าไฟเยอะเพราะแค่ขออยู่หอคนเดียวพ่อก็หาเงินแทบแย่แล้วค่ะ”
“เอาอย่างนี้ดีกว่าพรุ่งนี้พี่มีเรียนถึงเย็นเลย เราไปรอพี่ที่หอป๋วยนะพี่จะเลี้ยงข้าวขอบคุณเรื่องยืมหนังสือห้ามปฏิเสธนะครับยายหนูแล้วเจอกันพรุ่งนี้ดึกแล้วไปนอนเถอะ นอนหลับฝันดีนะ ”
“เช่นกันค่ะ”
ปลายสายวางสายไปแล้ว กันตาลุกขึ้นจากเตียงมายืนกระโดดอยู่ที่พื้นห้องด้วยความเขินอายและมีความสุขอยู่คนเดียว ถ้ามีใครมองเห็นเธอตอนนี้คงคิดว่าเธอเสียสติไปแล้วแน่ ๆ
