บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 เธอทำให้ฉันมีหวัง

ตอนที่ 3

เธอทำให้ฉันมีหวัง

วาฤทธิ์ขับรถยนต์มารับกันตาตามเวลาที่นัดหมายไว้ หญิงสาวทำท่ากล้า ๆ กลัว ๆ ที่ต้องขึ้นรถคันหรูไปกับหนุ่มรุ่นพี่ไม่ใช่ว่าเธอจะกลัวว่าแฟนของวาฤทธิ์จะมาต่อว่าเพราะเธอสืบมาแน่นอนว่าตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัยชายหนุ่มไม่เคยมีแฟนเลย เพียงแต่ที่เธอทำท่าแบบนั้นเพราะไม่เคยนั่งรถราคาแพงและไปกับผู้ชายเพียงสองคนเท่านั้น

“เราจะไปกินข้าวกันที่ไหนคะความจริงรอบ ๆ มหาวิทยาลัยก็มีร้านเยอะอยู่นะคะ”

กันตาเปิดปากพูดเมื่อเห็นรถขับออกขึ้นมาอยู่บนถนนใหญ่และมุ่งหน้าไปไกลจากมหาวิทยาลัย

“ปกติกลับมืดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ พี่ว่าจะพาไปกินที่ห้างข้างหน้านี่แหละกินชาบูกันดูสิเราสองคนใครจะกินได้มากกว่ากัน”

ห้างสรรพสินค้าที่ชายหนุ่มพากันตาไปอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยไม่ถึงสิบกิโลเมตรเพียงแต่ว่าช่วงใกล้ถึงห้างรถติดมากจึงใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึง

ร้านชาบูวันนี้คนไม่มากปกติต้องถึงขั้นต่อคิวกันเพื่อนั่งกิน กันตาเองก็ชอบกินร้านนี้เพียงแต่ราคาต่อหัวที่แพงทำให้นาน ๆ ทีเธอถึงมีโอกาสที่จะได้มากิน

“ยายหนู! กินหมดใช่ไหมหยิบมาเยอะแบบนี้ ไม่หมดพี่ช่วยไม่ได้นะพี่กินไม่เป็น”

วาฤทธิ์ทำท่าตกใจเมื่อเห็นกันตาหยิบซูชิที่เป็นแตงกวาญี่ปุ่นมาเกือบยี่สิบชิ้น

“ค่ะ กันตารู้ว่าพี่ไม่กินแตงกวา”

หญิงสาวเผลอพูดไปโดยลืมตัวว่าเธอกับเขาเพิ่งรู้จักกันและเขาก็ไม่เคยบอกเธอเรื่องนี้

“เดี๋ยว! แล้วมารู้ได้อย่างไรว่าพี่ไม่กินแตงกวา”

ชายหนุ่มจับมือของคนตัวเล็กที่กำลังจะหยิบซูชิเข้าปากเพื่อให้เธอตอบก่อนที่จะกิน

“เอ่อ....คือ....อ่อกันตาดูจากเฟซบุ๊กพี่ไง”

“แบบนี้เขาเรียกสืบนะรู้ไหม พี่จำได้ว่าพี่ลงโพสเรื่องไม่กินแตงกวานี่จะครึ่งปีแล้วนะแปลว่าเข้าไปไล่ดูเฟซพี่แน่ ๆ ”

กันตาแกล้งไม่ตอบเอาอีกมือที่ไม่ถูกจับหยิบซูชิเข้าปากและแกล้งยื่นหน้าไปเคี้ยวใกล้ ๆ วาฤทธิ์เพื่อให้เขารู้ว่าเธอตอบไม่ได้ตอนนี้กำลังกินอยู่

“พี่วายุไหนบอกกินแข่งกันเห็นนั่งดูกันตากินคนเดียวเลย”

หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่องพูดและเธอก็คิดว่ามันได้ผลเพราะอีกฝ่ายก็ยอมเปลี่ยนเรื่องตาม

วาฤทธิ์เขาแกล้งพูดเรื่องเฟซบุ๊กไปอย่างนั้น ทั้งที่ความจริงเขาไม่เคยโพสเลยว่าเขาไม่ชอบกินแตงกวาแต่เขาคุ้น ๆ ว่าเจอกันตาบ่อยที่ร้านข้าวที่เขาชอบไปกิน

“ใกล้วันเกิดพี่แล้วอีกไม่กี่เดือน ไม่รู้ว่าปีนี้จะมีคนส่งของขวัญมาให้พี่ไหม กันตาคิดว่าจะมีคนส่งมาไหม”

คนถูกถามซูชิแทบจะติดคอเพราะเธอไม่รู้ว่าเขาแค่บังเอิญถามเธอหรือเขาตั้งใจกันแน่

“ไม่รู้สิคะ แล้วใครล่ะคะที่ส่งของขวัญมาให้พี่ แฟนเก่า แฟนปัจจุบัน หรือแฟนคลับ”

ตั้งแต่เกิดมาหญิงสาวไม่เคยต้องใช้สมองในการคิดแก้สถานการณ์แบบนี้เลย แถมตอนนี้เธอต้องพยายามทำสีหน้าให้ปกติที่สุด

“สงสัยจะอย่างหลังแต่จากชื่อคนส่งพี่ไปลองสืบมาแล้วเธออายุเยอะน่าจะน้อง ๆ แม่พี่หน่อยแต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนอย่างไรหรอก ไม่ใช่สิรู้ว่าทำงานอยู่ที่จังหวัดเดียวกับมหาวิทยาลัยเรานี่แหละแต่ไม่รู้ทำที่ไหน”

กันตาเธอคิดมาตลอดว่าอีกฝ่ายคงไม่สนใจเรื่องคนที่ส่งของมาให้เขา เธอก็แอบน้อยใจอยู่เพราะเคยคิดว่าเขาน่าจะส่งอะไรกลับมาบ้างแต่ก็ไม่เคยมี พอมาได้ยินแบบนี้ทำให้รู้ว่าเขาพยายามสืบมาตลอด

“พี่วายุหล่อถึงขั้นมีแฟนคลับรุ่นแม่เลยเหรอคะ กันตาว่าต้องเรียกใหม่มีแม่ยกดีกว่า เขาส่งมาหลายปีแล้วปีนี้ก็คงส่งมาเหมือนเดิมแหละค่ะ”

“พี่ยังไม่ได้บอกเลยว่าเขาส่งมาหลายปี กันตารู้ได้ยังไงกัน”

หญิงสาวอยากจะตีปากตัวเองจริง ๆ ที่ปากไวพูดอะไรโดยที่ไม่คิดให้ดีก่อนพูด ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนเป็นผู้ต้องหาที่กำลังถูกตำรวจหลอกมาสอบสวนหาความจริงมากกว่าการมากินชาบูแบบอร่อย

“ก็พี่วายุบอกว่าเมื่อปีที่แล้วเขาส่งมา ไม่รู้ปีนี้เขาจะส่งมาไหม กันตาเห็นพี่พูดแบบนี้ก็เลยเดาไปว่าเขาคงส่งมาหลายปีแล้ว ทำไมพี่วายุทำเหมือนตำรวจจับผิดคำพูดของกันตาแบบนี้ล่ะคะหรือคิดว่ากันตารู้ว่าใครส่ง”

หญิงสาววางมือจากการกินและหันมาพูดจริงจังจนวาฤทธิ์เป็นฝ่ายที่หน้าเสียเสียเองเพราะกลัวกันตาจะโกรธที่เขาจับผิดเธอ

“เปล่า....เอาเป็นว่าพี่ขอโทษกินต่อดีกว่าพี่นี่แย่จริง ๆ ทำบรรยากาศเสียหมดเลย”

“ใช่ค่ะ....เอาแต่ถามนู่นถามนี่ กินหมูยังไม่ถึงสิบชิ้นเลย ไหนบอกจะแข่งกัน กันตากินซูชิจะหมดแล้วนะ นี่ถ้าไม่ต้องมาเถียงกับพี่ป่านนี้เดินไปหยิบอีกรอบแล้ว”

หัวข้อสนทนาถูกเปลี่ยนเป็นเรื่องของการเรียน อนาคตที่ทั้งสองอยากจะเป็นแทนการซักไซ้ของวาฤทธิ์แทนจึงทำให้บรรยากาศดีขึ้น กันตาเองก็หายใจทั่วท้องไม่ต้องคอยระมัดระวังเวลาจะพูดอะไร

ขากลับชายหนุ่มไม่ยอมไปส่งกันตาที่หอป๋วยแต่เขากลับจะไปส่งเธอที่หอพักเลย

“พรุ่งนี้กันตาต้องใช้รถขับมาเรียนนะคะ จ้างมอเตอร์ไซค์ก็แพงแถมขับน่ากลัวอีก ไปส่งกันตาเอารถเถอะ”

“พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง” คนขับดื้อไม่ยอมฟัง

“เก้าโมงครึ่งค่ะ”

“แปดโมงสี่สิบพี่มารับ จะได้ไปกินข้าวเช้ากันก่อน คราวนี้บอกทางไปหอพักได้หรือยัง”

กันตาจำเป็นต้องบอกทางแล้วเพราะถ้าพรุ่งนี้เธอไปเรียนได้ การที่เธอจะไปจากตึกที่เรียนเพื่อไปเอารถที่หอป๋วยก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว

“หอหญิงล้วนหรือหอรวม”

“หอรวมค่ะอยู่กันเป็นคู่ ๆ เกือบทุกห้อง”

กันตาตอบพร้อมกับทำท่าจะถอดสายคาดนิรภัยแต่กลับถูกมือหนาจับมือของเธอไว้ก่อน

“แล้วเราล่ะอยู่คนเดียวหรืออยู่เป็นคู่”

ชายหนุ่มโน้มตัวก้มหน้าลงมาถามจนหน้าของทั้งสองคนห่างกันแค่ไม่ถึงคืบ กันตาตกใจรีบปล่อยมือจากสายนิรภัยและนั่งหน้าตรงก่อนจะหันไปตอบ

“อยู่คนเดียวสิคะ ไม่ได้มีแฟนจะได้มีคนมาอยู่ด้วย”

หญิงสาวทำท่าจะถอดสายคาดนิรภัยอีกรอบแต่คราวนี้วาฤทธิ์กลับถอดให้เธอและคว้ากระเป๋าในมือของเธอมาวางที่ตักของเขาก่อนที่ชายหนุ่มจะรีบขับรถไปจอดใต้หอพักของกันตา

“ถ้าอยู่คนเดียวเดี๋ยวพี่ขึ้นไปส่งที่ห้อง จะได้รู้ว่ายายหนูของพี่ถึงห้องโดยปลอดภัย”

หัวใจของคนตัวเล็กที่แอบชอบอนาคตคุณหมอมานานแสนนานแทบจะหลุดลงไปอยู่ที่พื้น กันตารู้สึกเหมือนทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้เหมือนความฝันและยิ่งตอนนี้เขาจะไปส่งเธอถึงห้อง ท้องไส้มันปั่นป่วนไปหมด ใบหน้าของกันตาแดงอย่างไม่รู้ตัวด้วยความตื่นเต้น

“ไป ! ขึ้นห้องกัน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel