คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์

153.0K · จบแล้ว
有缘千里 โหย่วหยวนเชียนหลี่
95
บท
39.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

คุณหนูใหญ่จวนแม่ทัพ เอาแต่ใจที่สุด เลือกกินที่สุด ชอบชายงามที่สุด แต่หลังจากนางไล่ตามอ๋องเยียนไปชายแดนครั้งนั้น กลับมานางก็เปลี่ยนไป และพาสามีอัปลักษณ์คนหนึ่งกลับมาด้วย นางทั้งเอาใจเขา รักเขา คลั่งเขา

นิยายจีนโบราณนิยายย้อนยุคนิยายรักนางเอกเก่งผู้ชายอบอุ่นพิการฟินๆจีนโบราณรักหวานๆ18+

บทที่ 1 โดนจับ

หลี่เฟิ่งเซียน คุณหนูใหญ่ ลูกสาวคนเดียวที่เกิดจากภรรยาเอกของจวนแม่ทัพ รั้นเอาแต่ใจอยากตามท่านพ่อและท่านอ๋องเยียนไปชายแดนสวีโจวให้ได้ นางให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องตามไปเกี้ยวท่านอ๋องเยียน ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นชายงามอันดับหนึ่งในใต้หล้า แม้จะถูกท่านย่าทำโทษคุกเข่าในศาลบรรพชนกระทั่งขบวนทัพออกเดินทางได้หลายวันแล้ว สุดท้ายเมื่อท่านย่ารู้ หลี่เฟิ่งเซียนก็หอบผ้าขี่ม้าตามขบวนทัพไปแล้ว

เพราะตามมาช้าหลายวัน ต่อให้หลี่เฟิ่งเซียนควบม้าไม่พัก จนต้องเปลี่ยนม้าไปสองตัวก็ยังไม่สามารถตามขบวนทัพทัน นางได้แต่ก่นด่าตามถนนครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายเมื่อมืดค่ำก็ยังต้องหาที่พักก่อน

คืนนั้นในห้องพัก ระหว่างที่นางกำลังหลับสบาย จู่ๆก็มีบางอย่างปิดลงมาที่หน้าของนางอย่างแรง ด้วยความตกใจหลี่เฟิ่งเซียนสะดุ้งตื่น จมูกได้กลิ่นฉุนบางอย่างคล้ายสมุนไพร นางตะเกียกตะกายคว้าโดนมือของใครบางคน แต่โชคร้าย มือข้างนั้นบีบลงมาที่คอของนางอย่างแรง หายใจไม่สะดวก รู้สึกปวดแสบทั่วลำคอเพราะกลิ่นฉุนและแรงกด แล้วทุกอย่างก็ค่อยๆเลือนรางลง

นางสิ้นสติในที่สุด!!

หลี่เฟิ่งเซียน ตื่นมาด้วยความรู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว ลืมตาตื่นท่ามกลางความมืด แต่คล้ายว่านางนอนขดตัวอยู่บนรถม้าที่เต็มไปด้วยฟางข้าวสาลี กำลังวิ่งโคลงเคลงไปตามถนนขรุขระ มีบางอย่างมัดมือของนางไว้ทั้งสองข้างไพล่หลัง

นางพยายามดิ้นรนแต่ไม่หลุด พยายามจะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่เสียงที่ออกมาจากปากของนาง แหบแห้งจนฟังแล้วคล้ายกับเสียงลูกหมูที่กำลังถูกเชือดคอ สิ่งที่น่าตกใจที่สุดยังไม่ใช่เสียงของนาง

แต่เป็นความรู้สึกด้านในลำคอที่ราวกับถูกถ่านไฟแดงฉานลวก ทั้งปวดแสบปวดร้อน ทั้งทุกทรมานทุกช่วงขณะที่หายใจ ด้วยความโมโห นางเตะขาไปทั่ว จนกระทั่งไปโดนถูกบางอย่างเข้า

หลังจากนั้น หลี่เฟิ่งเซียนได้ยินเสียงคล้ายบางอย่างกำลังขยับ นางจึงนิ่งตั้งใจฟัง หวังว่าจะเป็นสาวใช้หรือใครบางคนที่ต้องรีบหาทางจุดไฟ และรีบขอโทษขอโพยคุณหนูใหญ่เช่นนาง แต่นางคาดผิด จู่ๆก็มีมือผอมบางเย็นยะเยือกข้างหนึ่ง คลำไปทั่วตัวของนาง!

คราแรกก็คลำจากสะโพก ไปที่เอว ค้นเจอถุงเงินและบางอย่างก็หยิบฉวยขโมยทันที หลี่เฟื่องเซียนอยากจะกรีดร้องประท้วงแต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่เตะเปะปะ ดิ้นรนไม่พอใจ

"ชู่ว..." มีเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายกระซิบห้ามนางส่งเสียงที่ข้างหู

หลี่เฟิ่งเซียนขนลุกซู่ ตัวแข็งทื่อด้วยความกลัว นางเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น!

มือข้างนั้นยังคงเลื่อนขึ้นไปบริเวณใกล้หน้าอก ก่อนจะเลี่ยงไปจับแขนของนาง ลูบคลำไปเรื่อยๆจนถึงลำคอ และเลื่อนไปลูบคลำที่ใบหูของนาง ค่อยๆดึงตุ้มหูทองคำแกะสลักที่ฮ่องเต้ประทานให้เมื่อปีก่อนออก

นางเข้าใจแล้วว่ากำลังถูกปล้น แต่ทั้งชีวิตคุณหนูใหญ่เช่นนางไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ถึงนางจะเป็นลูกสาวจวนแม่ทัพ กล้าหาญเหนือชายหลายคน ในสถานการณ์น่ากลัวเช่นนี้ นางทำสิ่งใดไม่ได้มาก ได้แต่นิ่งเฉย ปล่อยให้ตัวเองถูกลูบคลำ ถูกขโมย และร้องไห้ด่าตะโกนในใจ ไม่เช่นนั้นนางอาจตายได้ นางเข้าใจสถานการณ์ดี

นางนิ่งเงียบหวาดกลัวจนคนถ่อยที่ลูบคลำรู้สึกได้ เขาจึงหยุดกระทำเรื่องชั่ว หันไปนั่งห่างๆเช่นเดิม

'หน็อยแน่!!! เจ้าคนชั่ว ทำมาเป็นคนดี ทั้งที่เจ้าขโมยของมีค่าบนตัวข้าไปหมดแล้ว ฮึ่ม!' หลี่เฟิ่งเซียนก่นด่าในใจ เจ็บใจที่กระทั่งด่านางยังทำไม่ได้

เพราะความเจ็บปวดที่ลำคอหรือเพราะยาสลบที่นางโดนยังไม่หมดฤทธิ์ดี ทำให้นางค่อยๆง่วงซึมหลับไปอีกครั้ง แม้รถม้าจะกระเด้งกระดอนไม่สบายตัว ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่แน่ใจ เมื่อหลี่เฟิ่งเซียนลืมตาตื่นอีกครั้ง ครานี้มีแสงสว่างสายหนึ่งลอดผ่านช่องบนกำแพงหนา ถึงจะไม่เห็นชัดเจน แต่ก็พอจะสามารถแยกออกว่าสิ่งใดเป็นสิ่งใด

นางยังคงถูกมัดมือ รู้สึกเจ็บปวดตามเนื้อตัว และยังคงรู้สึกแสบร้อนที่ลำคอ หลี่เฟิ่งเซียนกวาดตามองไปรอบๆ ห้องนี้คล้ายคุกใต้ดินในจวนแม่ทัพอยู่มาก เพียงแต่ที่นี่ทั้งสกปรกทั้งเหม็น บนพื้นมีคราบน้ำเฉอะแฉะ ยังดีที่มีกองฟางบางๆปูให้นั่งให้นอน

ที่สำคัญ นางไม่ได้เป็นคนเดียวที่ถูกจับ!! ยังมีหญิงสาวอีกสองสามคนที่นั่งตัวสั่นหวาดกลัวอยู่ข้างๆนาง และมีอีกคนที่ท่าทางผอมแห้งมาก ขดตัวซุกหน้านอนคู้อยู่ตรงมุมห้อง เพราะในห้องแสงสว่างไม่พอ ส่องไปไม่ถึงที่มุมนั้น นางจึงเห็นร่างนั้นไม่ชัด รู้เพียงว่าเสื้อผ้าสกปรกยิ่ง

หลี่เฟิ่งเซียนเบะปาก ขยะแขยงและไม่พอใจ เหตุใดมีเพียงนางที่ถูกมัดมือ!! แต่ถึงจะโมโหเพียงใด นางยังคงส่งเสียงไม่ได้ จะหายใจยังยากลำบาก

จู่ๆ ก็มีเสียงพูดคุยดังมาแต่ไกล คราแรกยังจับใจความไม่ได้ว่าพูดอะไรกัน รู้เพียงว่าเป็นเสียงของชายฉกรรจ์หลายคน ต่อมาก็เริ่มได้ยินชัดเจนว่าพวกมันพูดว่าอย่างไร

"ข้าเอาคนขาวๆ"

"ข้าอยากได้นางม้าพยศ ฮ่าๆๆ.."

"ข้าจองคนเด็กสุด"

"เฮ้ย เดี๋ยวก่อน ข้าไม่อยากได้ไม้เสียบผีผอมแห้งนั่นหรอกนะ"

หลี่เฟิ่งเซียนกำลังพยายามจับใจความหมายที่พวกมันคุยกัน แต่จู่ๆ เงาที่มุมห้องนั่นก็ลุกพรวดพราดเข้ามาใกล้นาง ผลักนางล้มบนกองฟาง แต่เพราะกองฟางไม่ได้หนามาก นางยังคงเจ็บอยู่ดี นางความโมโหมากแต่พูดไม่ได้ นางจึงชักสีหน้าแบบคุณหนูใหญ่กลับไป

แต่กลับมีฝ่ามือปิดลงมาที่ปาก ป้องกันไม่ให้นางส่งเสียง อีกมือหนึ่งก็เริ่มดึงเชือกมัดเอวของหลี่เฟิ่งเซียน นางตกใจแต่ทำอะไรไม่ได้มาก ได้แต่ดิ้นไปมา แม้ร่างที่คร่อมนางอยู่จะผอมมาก แต่ยังมีแรงสามารถกดนางเอาไว้ได้ แล้วคนผู้นั้นก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของนาง ครั้งนี้หลี่เฟิ่งเซียนไม่อาจยอมได้จริงๆ มันน่ารังเกียจแม้ผู้ที่พยายามถอดจะเป็นสตรีก็ตาม นางเริ่มส่งเสียงแม้จะพูดไม่ได้

"อื้อออ.. อ้ากกก.."

หญิงสาวหลายคนที่อยู่ข้างๆ มองมาด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะขยับ หลี่เฟิ่งเซียนโมโห นางร้องขนาดนี้ ถูกกระทำเลวร้ายเช่นนี้ พวกนางก็ยังโง่งมไม่ลุกมาช่วยนางอีก

เสื้อผ้าของนางหลุดลุ่ยจนเห็นตู้โตว แต่ยายผู้หญิงสกปรกที่นั่งคร่อมนางอยู่ก็ยังไม่หยุด ยื่นมือมาดึงกระชากตู้โตวของนางทิ้ง เผยให้เห็นหน้าอกและยอดชมพูที่ราวกับซาลาเปาลูกท้อ อีกฝ่ายชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะดึงนางขึ้นมากอด พยายามแก้มัดมือให้หลี่เฟิ่งเซียน

แต่โชคร้าย หลี่เฟิ่งเซียนนางเป็นใคร จะให้คนผู้หนึ่งกระทำกับนางเช่นนี้หรือ นางกัดไปบนไหล่ของร่างที่กอดนางอยู่

'นางนี่ ผอมจนเหลือแต่กระดูกแล้วหรือไร ...' แล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็นึกบางอย่างออก

มือผอมบาง เย็นยะเยือก นี่ใช่เจ้าคนที่ปล้นนางเมื่อคืนหรือไม่ มันไม่ได้เป็นผู้หญิงนี่!!!