บทที่ 9 เจ้าต้องแต่งไป๋เล่อฉิงเข้าจวนให้เร็วที่สุด 1/1
โจวเหวินหลงที่เพิ่งจะดีใจจากการได้ยินคำพูดของไป๋เล่อฉิงได้ไม่นาน เจิ้งอู่ก็นำข่าวดีเข้ามารายงานให้เขาได้ทราบอีกครั้ง
“นายน้อยมีคนของเราส่งข่าวเรื่องสินค้าตระกูลเส้ามาแล้วขอรับ”
“ว่าอย่างไร”
“เรียนนายน้อยขบวนสินค้าของตระกูลเส้าถูกคนของเราสกัดไว้ได้หลายเส้นทาง และทำตามคำสั่งของท่านอย่างเข้มงวด คาดว่าอีกไม่เกินสองชั่วยามข่าวคงมาถึงจวนตระกูลเส้าแล้วขอรับ”
“อืม ดีมากสั่งการลงไปตกรางวัลให้ทุกคน”
“ขอรับนายน้อย”
ขณะนั้นเองซวี่ไห่ก็โพล่งถึงเรื่องที่อาจส่งผลกระทบถึงไป๋เล่อฉิง และนั่นทำให้ตัวของซวี่ไห่ต้องถูกส่งไปคอยติดตามเส้าเหยี่ยนเสียง
“เอ่อ นายน้อยขอรับการค้าของตระกูลเส้าครั้งนี้ใช้เงินไปไม่น้อย ในเมื่อสูญเสียเงินทองจำนวนมากเสนาบดีเส้าจะไม่คิดหาเงินมาเติมคลังในจวน อย่างการเร่งให้บุตรชายรีบแต่งงานกับคุณหนูสี่ไป๋หรือขอรับ?”
“หึ เจ้าคิดว่าข้าจะยอมให้คนอย่างเส้าเหยี่ยนเสียงทำได้สำเร็จงั้นหรือ ไหน ๆ เจ้าก็พูดถึงเรื่องนี้เช่นนั้นเจ้าคอยจับตาดูเส้าเหยี่ยนเสียง ว่าหลังจากนี้คิดวางแผนทำอันใดกับฉิงเอ๋อร์ของข้าหรือไม่”
“นายน้อยจะให้บ่าวเริ่มลงมือตั้งแต่วันนี้เลยหรือไม่ขอรับ...”
“คำสั่งของข้าควรจะชักช้าหรือลงมือทันทีล่ะซวี่ไห่...”
น้ำเสียงที่เคร่งขรึมของโจวเหวินหลงทำเอาซวี่ไห่ตัวแข็งทื่อ เมื่อนึกได้ว่าเจ้านายของตนไม่เคยพูดล้อเล่นไม่ว่าเรื่องอันใดก็ตาม
“แหะ ๆ ๆ บ่าวจะพยายามอย่างสุดความสามารถและจะรายงานให้นายน้อยทราบอย่างต่อเนื่องขอรับ”
“ดี เจ้ารีบตามไปที่จวนตระกูลเส้าเถิด”
“บ่าวทราบแล้วขอรับ”
โจวเหวินหลงอยู่ตรวจบัญชีที่ร้านค้าต่อเพียงไม่นานก็กลับจวน เนื่องจากน้องชายของเขาอย่างโจวฉีหมิงส่งข่าวมาว่า จะเดินทางถึงจวนในปลายยามเว่ยของวันนี้ เขาต้องกลับไปรอรับและตรวจสอบหลักฐานที่จะมอบให้กับสหาย
ทางด้านเส้าเหยี่ยนเสียงที่ถูกไป๋เล่อฉิงป่าวประกาศว่าเลิกสนใจตนเองต่อหน้าผู้คนมากมาย หลังจากออกจากร้านเครื่องประดับตระกูลไป๋ก็ตรงกลับจวน โดยไม่สนใจว่าหลัวอี้หรูจะตามมาหรือไม่ เพราะยามนี้เขาอยากอยู่ตามลำพังมากกว่าให้ใครมารบกวน
ส่วนหลัวอี้หรูเมื่อเห็นว่าเส้าเหยี่ยนเสียงกำลังอารมณ์ไม่ดี และนางก็วิ่งตามเขาไม่ทันจึงหันหลังกลับจวนของตนไปเช่นกัน
“ฮึ่ย ไป๋เล่อฉิงนะไป๋เล่อฉิงเจ้าทำแผนการของข้าพังไม่มีชิ้นดี จิวเมี่ยวอย่าลืมกำชับบ่าวที่ซื้อตัวไว้หากมีเรื่องอะไรให้รีบมารายงานทันที”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
ภายในห้องตำราของเสนาบดีเส้าที่กลับจากวังหลวง ก็กำลังฟังคนสนิทของตนรายงานเรื่องราวที่ถูกพูดถึงเกี่ยวกับบุตรชายคนโต เสนาบดีเส้าคิดไม่ต่างจากบุตรชายว่าไป๋เล่อฉิงก็แค่เรียกร้องความสนใจ เพราะอยากให้บุตรชายของตนไปสู่ขอหมั้นหมายนางโดยเร็วเท่านั้น
จนกระทั่งเกือบถึงสองชั่วยามอย่างที่เจิงอู่พูดไว้ พ่อบ้านเส้าก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพบเจ้านายด้วยสีหน้าแตกตื่น และเกรงโทสะที่เสนาบดีเส้าจะแสดงออกมายามได้ยินข่าวที่ตนนำมารายงาน
แฮ่ก ๆ ๆ “นายท่าน ๆ แย่แล้วเกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ”
“เกิดเรื่องใหญ่อันใดกันพ่อบ้านถึงได้ส่งเสียงดังตั้งแต่ยังมาไม่ถึงห้องตำราของข้า”
ฟู่ “นายท่านเรื่องใหญ่ที่บ่าวพูดถึงก็คือขบวนสินค้าที่กำลังมุ่งหน้ามาเมืองหลวง ถูกกลุ่มคนสกัดไว้และเผาทำลายทั้งหมด ครั้งนี้ไม่มีสินค้ามาเติมให้กับร้านค้าแล้วขอรับ”
พรึบ! “เจ้าพูดว่าสินค้าของผู้ใดถูกเผานะพ่อบ้านเส้า!”
“ขบวนสินค้าที่นายท่านกับฮูหยินสั่งซื้อจากต่างแคว้นและจากหัวเมืองใหญ่ ๆ ในแคว้นขอรับ”
เสนาบดีเส้าเกิดอาการเคร่งเครียดขึ้นมาทันใด เมื่อได้ยินอย่างชัดเจนว่าสินค้าของตนถูกทำลายทั้งหมด “นี่มันเกิดเรื่องบ้าอันใดกัน หากไม่มีสินค้าพวกนั้นมาต่อยอดก็เท่ากับว่าข้าเสียเงินหลายหมื่นตำลึงไปเปล่า ๆ น่ะสิ แล้วคนของเราไม่มีใครจับตัวคนลงมือได้เลยหรือพ่อบ้านเส้า”