บทที่ 8 ข้าพูดไม่ชัดเจนหรือเจ้าฟังไม่รู้เรื่อง 1/2
หลัวอี้หรูสาวเท้าไปหาไป๋เล่อฉิงและแสร้งพูดจาเกลี้ยกล่อมนางอีกครั้ง “จริง เล่อฉิงเรื่องนี้ต้องมีคนอยากให้พวกเราผิดใจกัน เจ้าจะเชื่อคำพูดที่ไม่มีมูลความจริงไม่ได้นะ เจ้าต้องเชื่อข้ากับคุณชายใหญ่เส้าเรื่องที่เจ้าได้ยินเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น”
ยามนี้ดวงตาของไป๋เล่อฉิงเริ่มแข็งกร้าว เมื่อสองคนช่วยแก้ต่างให้กันและกัน แต่ไป๋เล่อฉิงจะไม่ยอมให้เรื่องมันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว
“ใส่ร้าย? เข้าใจผิด? พวกเจ้าสองคนคิดว่าข้าเป็นคนโง่ไร้การศึกษาหรืออย่างไร ใช่เมื่อก่อนข้ามองข้ามและไม่ยอมรับฟังคนรอบข้าง เอาแต่คิดว่าพวกเจ้าสองคนสนิทสนมกันเพราะมีข้าเป็นคนสำคัญ แต่ตอนนี้ข้าตาสว่างมองเห็นความจริงทุกอย่างแล้ว และจะไม่มีวันยอมให้พวกเจ้าสองคนจูงจมูกอีกต่อไป หลัวอี้หรูนับจากนี้ระหว่างเจ้ากับข้ามิใช่สหายกันแล้ว ส่วนเจ้าเส้าเหยี่ยนเสียงจงฟังที่ข้าจะพูดให้ดี ไป๋เล่อฉิงคนที่เคยวิ่งตามเจ้าทำทุกอย่างเพื่อเจ้านางได้ตายไปแล้ว ส่วนข้าไป๋เล่อฉิงที่ยืนอยู่ที่นี่จะไม่มีวันชายตามองบุรุษเช่นเจ้า แม้แต่อากาศหายใจก็ไม่อยากใช้ร่วมกับเจ้า”
“ไม่มีทาง ไป๋เล่อฉิงชื่อเสียงของเจ้าถูกผู้คนพูดถึงไปทั่ว หากเจ้าไม่ได้แต่งเข้าจวนตระกูลเส้าจะมีบุรุษหน้าไหนกล้ารับเจ้าเข้าจวนบ้าง วันนี้ข้าจะกลับไปก่อนเจ้าจงคิดทบทวนให้ดีว่าพูดอันใดออกมา หากคิดได้แล้วก็ไปขอโทษข้าที่จวนก็แล้วกัน” เส้าเหยี่ยนเสียงก็ยังไม่ยอมเชื่อสิ่งที่ไป๋เล่อฉิงพูดออกมา
หลัวอี้หรูก็ยังพยายามพูดจาเพื่อชักจูงให้ไป๋เล่อฉิงเปลี่ยนใจและตามไปขอโทษเส้าเหยี่ยนเสีย “เล่อฉิงเจ้าอย่าเพิ่งใจร้อนเลยนะ ข้ารู้ว่าเจ้าน้อยใจคุณชายใหญ่เส้า แต่การที่เจ้าพูดออกมาเช่นนี้จะทำให้คนที่เจ้ารักเสียใจได้นะ”
“นี่...ข้าพูดเสียยืดยาวพวกเจ้าฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรือฟังที่ข้าพูดไม่รู้เรื่องกันแน่ ฟังที่ข้าพูดให้ชัด ๆ นะ ข้า...เลิก...รัก...เส้าเหยี่ยนเสียงแล้ว”
“ไป๋เล่อฉิง! /เล่อฉิง!”
“หึ ข้าให้เวลาเจ้าคิดทบทวนไว้ข้าจะมาพบเจ้าใหม่” เส้าเหยี่ยนเสียงยังคงไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินและกล่าวทิ้งท้าย เพื่อกดดันไป๋เล่อฉิงก่อนจะเดินออกจากร้านเครื่องประดับไปอย่างรวดเร็ว
ไป๋เล่อฉิงเห็นหลัวอี้หรูหันมองไปมาก็ตัดสินใจไล่นางออกไปอีกคน “เจ้ายังจะยืนอยู่ทำไมอีกรีบตามไปสิ แล้วบอกคนของเจ้าด้วยว่าอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก หากยังคิดเข้าข้างตนเองอยู่เจอกันคราวหน้าข้าไม่เกรงใจแล้วนะ ไสหัวออกไปจากร้านของข้าได้แล้ว”
“เล่อฉิงนี่เจ้า...หึ” หลัวอี้หรูพูดอันใดไม่ออกได้แต่กระฟัดกระเฟียดเดินตามเส้าเหยี่ยนเสียงไปอีกคน
“ขออภัยลูกค้าทุกท่านทำให้เสียเวลากับเรื่องไร้สาระอยู่นาน เชิญพวกท่านเลือกซื้อเครื่องประดับที่ถูกใจต่อได้เลยเจ้าค่ะ เพื่อเป็นการขอโทษวันนี้ลดราคาให้สองส่วนของราคาขาย ใครสนใจก็เข้ามาเลือกซื้อได้มีเพียงวันนี้วันเดียวเท่านั้น”
ไป๋เล่อฉิงตัดสินใจกล่าวกับลูกค้าจนลืมถึงไปว่าข้างกายยังมีพี่สาวอยู่ พอนึกขึ้นได้จึงหันไปยิ้มอ่อนเป็นการขอโทษที่ไม่ได้ปรึกษาพี่สาว แต่ไป๋เฟิงฮวามิได้ตำหนิสิ่งที่น้องสาวได้ทำลงไป การลดราคาสินค้าลงส่วนมิได้ส่งผลกระทบอันใด
“ฉิงเอ๋อร์ทำได้ดีมากแต่ครั้งหน้าหากเส้าเหยี่ยนเสียงมาพบเจ้าอีก พี่เกรงว่าคนเอาแต่ใจเช่นนั้นจะทำร้ายเจ้าน่ะสิ”
“พี่หญิงใหญ่อย่าได้กังวลไปเลยเจ้าค่ะ ฉิงเอ๋อร์พอมีวิธีรับมือกับเส้าเหยี่ยนเสียง หากเขาคิดจะทำร้ายฉิงเอ๋อร์มันไม่ง่ายอีกแล้ว”
“ให้มันจริงเถิด เลิกพูดเรื่องนี้แล้วไปช่วยกันดูแลลูกค้าดีกว่านะ”
“เจ้าค่ะพี่หญิงใหญ่”
เมื่อมีคนนำคำพูดของไป๋เล่อฉิงไปพูดต่อ ๆ กันเรื่องลดราคาสินค้า ใครบ้างจะไม่อยากซื้อเครื่องประดับคุณภาพดียามราคาถูกบ้าง ดังนั้นสองพี่น้องจึงต้องต้อนรับลูกค้าที่แน่นร้านจนลืมเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นไปชั่วขณะ
เพียงแต่เสียงการประกาศเลิกวิ่งตามเส้าเหยี่ยนเสียงของไป๋เล่อฉิงนั้น กลับทำให้หัวใจของโจวเหวินหลงที่อยู่ในห้องส่วนตัวบนชั้นสองของร้านค้าตระกูลโจวถึงกับเต้นไม่เป็นส่ำ เมื่อน้ำเสียงอันไพเราะของนางกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น แม้แต่แววตายังแสดงออกว่าสิ่งที่นางพูดเป็นเรื่องจริง
“ฉิงเอ๋อร์ไว้พี่จะไปพบเจ้าเร็ว ๆ นี้แน่นอน”