บทที่ 6 ข้าจะเอาคืนแทนนางอย่างสาสม 1/2
โจวเหวินหลงและฝูอวิ้นมู่พูดคุยกันน้ำชายังไม่ทันหมดกา เส้าเหยี่ยนเสียงก็พาหลัวอี้หรูที่เดินเที่ยวจนเหน็ดเหนื่อยเข้ามานั่งด้านในร้าน โดยคนของโจวเหวินหลงที่ได้รับคำสั่งจากเจ้านายก็เริ่มลงมืออย่างรวดเร็ว
คนนับสิบขยับตัวนั่งโต๊ะใกล้ ๆ กับโต๊ะของเส้าเหยี่ยนเสียง จากนั้นก็เริ่มพูดจาแทะโลมหยอกเย้าหลัวอี้หรู เพราะพวกเขาสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าของนางไม่ค่อยเรียบร้อย ซึ่งพวกเขาคิดถูกแล้วเพราะทั้งสองคนเพิ่งทำเรื่องที่ไม่สมควร
“อั้ยโย่ว พวกเจ้าดูคุณหนูคนงามผู้นี้สิ ดูท่าจะมีความสุขไม่น้อยเลยถึงได้เร่งรีบใส่เสื้อผ้าเกินไป สาบเสื้อถึงได้เก็บไม่เรียบร้อย ช่างน่าอิจฉาคุณชายที่มากับนางจริง ๆ”
“ข้าเห็นด้วยกับเจ้าสงสัยจะเหน็ดเหนื่อยเกินไป ถึงได้แวะพักที่นี่ก่อนจะกลับจวนกระมัง ฮ่า ๆ ๆ”
หลัวอี้หรูได้ยินเช่นนั้นก็ก้มลงมองหน้าอกตนเองและเป็นเช่นนั้นจริง ๆ นางรีบใช้มือดึงสาบเสื้อให้เข้าที่อย่างรีบร้อน ส่วนเส้าเหยี่ยนเสียงเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจเพราะคำพูดที่ได้ฟังกำลังทำให้เขาอับอาย
“อาเสียงพวกเขากำลังดูถูกข้า”
ปัง! “เจ้าพวกปากสุนัขกล้ามากที่พูดจาไม่เคารพข้ากับคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ พวกเจ้าอยากเจ็บตัวกันใช่ไหม”
“ดูสิ ๆ ๆ คุณชายจากตระกูลใหญ่กำลังใช้อำนาจข่มขู่พวกเราเสียด้วย เพราะเช่นนี้ถึงไม่เคยเกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองสินะ”
ฟิ้ว เพล้ง! “ข้าบอกให้พวกเจ้าหุบปาก ในเมื่อรู้ว่าข้าเป็นใครยังกล้าปากดีไม่หยุด เช่นนั้นวันนี้ข้าจะสั่งสอนพวกเจ้าให้หลาบจำ เจียหงจัดการพวกมันให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
“ขอรับคุณชายใหญ่” เจียหงรับคำสั่งและหันไปส่งสัญญาณให้ผู้ติดตามอีกสองสามคนลงมือ
“พวกข้ารออยู่นานแล้วเข้ามาเลย!”
และเหตุการณ์ที่โจวเหวินหลงต้องการก็เกิดขึ้น แม้เส้าเหยี่ยนเสียงจะมีผู้ติดตามมาด้วย แต่จำนวนคนก็ยังน้อยกว่าอีกฝ่ายอยู่ดี และคนที่ต้องเจ็บตัวมากที่สุดย่อมเป็นเส้าเหยี่ยนเสียง ถึงจะมีเจียหงคอยปกป้องก็ไม่รอดอยู่ดี
เมื่อเห็นว่าคนที่เจ้านายต้องการสั่งสอนนอนหมดสติ คนทั้งสิบจึงรีบแยกย้ายไปคนละทิศละทางอย่างรวดเร็ว ปล่อยที่เหลือให้บ่าวไพร่ตระกูลเส้าจัดการเอาเอง
ด้านหลัวอี้หรูกับสาวใช้แอบหนีออกจากร้านน้ำชาตั้งแต่บุรุษที่นางรักใคร่ถูกรุมทำร้าย และคิดว่าค่อยแสร้งทำท่าทีเสียใจยามไปเยี่ยมเขาที่จวนก็ได้ ส่วนเส้าเหยี่ยนเสียงต้องนอนซมอยู่ถึงเจ็ดวันจริง ๆ กว่ารอยฟกช้ำตามร่างกายจะทุเลาจนออกมาพบหน้าผู้คนได้
ปัจจุบันในห้องตำราของโจวเหวินหลง
ร่างสูงโปร่งแต่ภายใต้เสื้อผ้าที่สวมใส่กับเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่แข็งแรง โจวเหวินหลงกำลังรอฟังข่าวจากซวี่ไห่ ที่ไปสืบข่าวของไป๋เล่อฉิงว่านางเป็นอย่างไรบ้าง พอได้รู้ว่านางต้องล้มป่วยก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟยิ่งกว่าเดิม
“นายน้อย...”
“เจ้ากลับมาแล้วหรือได้เรื่องว่าอย่างไร”
“เรียนนายน้อยหลังจากคุณหนูสี่ไป๋ถูกสาวใช้พากลับจวน พอฟ้าใกล้สางก็มีไข้ขึ้นสูงจนต้องตามท่านหมอมาตรวจอาการ คุณหนูสี่ไป๋หมดสติไปสองคืนและเพิ่งฟื้นยามเว่ยของเมื่อวานขอรับ”
ปัง! “ไอ้คนสารเลวเส้าเหยี่ยนเสียง เจ้าบังอาจทำให้เด็กน้อยของข้าต้องล้มป่วย ข้าคงต้องสั่งสอนตระกูลเส้าให้มากกว่านี้เสียแล้ว”
ซวี่ไห่ที่รับรู้มาตลอดสามปีว่าเจ้านายของตนชื่นชอบคุณหนูสี่ตระกูลไป๋มากเพียงใด แค่เพราะตอนที่นางอายุสิบสามหนาวได้ยื่นมือช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มที่ตราตรึงใจ ตั้งแต่นั้นมาในสายตาของเจ้านายก็ไม่เคยมองสตรีใดอีกเลย
“นายน้อยต้องการให้ลงมือกับตระกูลเส้าอย่างไรหรือขอรับ”
“หึ ส่งคนไปขัดขวางการส่งสินค้าของตระกูลเส้าและเผาทำลายสินค้าเหล่านั้นให้หมด ครั้งนี้ตระกูลเส้าจะต้องพยายามหาทางออกเรื่องเงินครั้งใหญ่ นี่จะเป็นการเปิดโอกาสให้สหายของข้าเก็บหลักฐานเพิ่มได้มากขึ้น”
“บ่าวเข้าใจแล้วขอรับ”
“เจ้ารีบส่งจดหมายถึงหัวหน้าหน่วยแต่ละหัวเมืองโดยเร็ว อย่าปล่อยให้ขบวนสินค้าของตระกูลเส้าเข้าใกล้เขตเมืองหลวงได้”
“รับทราบขอรับนายน้อย”
เพียงเพราะรับรู้ว่าสตรีในดวงใจถึงกับล้มป่วยนอนหมดสติไปหลายวัน นอกจากการสั่งสอนเมื่อวันก่อนคงไม่เพียงพอสำหรับโจวเหวินหลงเสียแล้ว ในเมื่อต้นเหตุมาจากเส้าเหยี่ยนเสียงว่าที่ผู้นำตระกูลเส้าคนต่อไปที่ไม่เอาไหน เช่นนั้นคนที่ครอบครองการค้าไปทั่วแคว้นอย่างตระกูลโจว จะสั่งสอนเพื่อเอาคืนแทนว่าที่ฮูหยินของตนก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว