บทที่ 10 สำรับนี้เพื่อ...
ตอนที่ ๑๐
สำรับข้าวนี้เพื่อ...
"ข้ามาแล้ว ขอโทษที่ทำให้คุณหนูเหยารอนาน คุณหนูเหยามีธุระรีบร้อนอันใดถึงต้องรีบมาพบข้าถึงจวน" น้ำเสียงเรียบนิ่งของเถียนเจี้ยนซื่อดังขึ้น ทำให้ใบหน้าหวานที่หงิกงอจำเป็นต้องปั้นหน้าแสร้งนิ้มขึ้นมาทันที
"คุณชาย ข้าขอโทษที่มารบกวนโดยมิได้นัดหมายท่านมาก่อน"
"ไม่เป็นไร เชิญคุณหนูเหยานั่งลงก่อนเถิด" เถียนเจี้ยนซื่อเชิญคุณหนูเหยาให้นั่งลง ก่อนที่ตนเองจะนั่งลงตามอย่างเรียบร้อย
"ถ้าเช่นนั้นข้าไม่อ้อมค้อมแล้วนะเจ้าคะคุณชาย เมื่อคืนแม่ของข้าบอกฤกษ์แต่งงานของเราสองคนกับข้าแล้ว ข้าร้อนใจจึงรีบมาหาท่านโดยไม่ได้แจ้งนัดหมายเสียก่อน เป็นการเสียมารยาทอย่างไม่สมควร"
"ข้าไม่ถือสาหรอกคุณหนูเหยา ว่าแต่เจ้ามานี่คงร้อนใจเรื่องแต่งงานสินะ"
"ใช่ สองครั้งก่อนที่ข้าพบท่านอาจทำตัวไม่เหมาะสมนัก ข้าต้องขออภัยท่านด้วย" เหยาเหม่ยเหม่ยแสดงสีหน้าเศร้า แสร้งทำเหมือนคนสำนึกผิด
"ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้ถือสา เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ช่างมันเถิด" เถียนเจี้ยนซื่อไม่ได้ถือสาอย่างที่ปากพูดจริงๆ เขาไม่ได้ว่างมากพอจะใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้
"ไม่ได้หรอก ข้าเตรียมสำรับอาหารมาให้ท่านด้วย ช่วยรับไว้ด้วยนะเจ้าคะ ถือว่าเป็นคำขอโทษจากจากข้า" เหยาเหม่ยเหม่ยหันไปหยิบสำรับอาหารที่เตรียมมาวางบนโต๊ะ ก่อนจะดันส่งให้เถียนเจี้ยนซื่อ
"ขอบใจคุณหนูเหยามาก " เถียนเจี้ยนซื่อหยิบสำรับอาหารเตรียมยื่นให้สาวใช้
"เดี๋ยว สำรับอาหารนั้นข้าตื่นมาปรุงเองตั้งแต่เช้า ท่านทานเลยจะดีกว่านะเจ้าคะ ข้าจะได้มั่นใจว่าท่านอภัยให้ข้าแล้วจริงๆ" เหยาเหม่ยเหม่ยรีบท้วงทันที หากเถียนเจี้ยนซื่อไม่กินสำรับอาหารที่นางทำมาให้ นางก็เสียเวลาเปล่านะสิ
"เจ้าเอาไปจัดใส่จานมาให้เรียบร้อย" เถียนเจี้ยนซื่อพยักหน้า ก่อนจะหันไปสั่งกับสาวใช้
เสร็จข้าล่ะเถียนเจี้ยนซื่อ ในเมื่ออยากแต่งงานกับข้านัก ท่านก็ต้องทนทานอาหารรสชาติแย่ฝีมือข้าตั้งแต่วันนี้ เหยาเหม่ยเหม่ยคิดอย่างอารมณ์ดี
นึกว่าข้าไม่รู้ทันสินะ ละครที่เจ้าเล่นยังเด้กน้อยเกินไปนักคุณหนูเหยา เจ้าคงคิดว่าข้าจะเชื่อว่าเจ้าตั้งใจทำอาหารมาให้ข้าโดยที่ไม่ใส่อะไรลงไปงั้นหรือ แล้วข้าจะทำให้เจ้าเห็นว่าอย่าลองดีกับคนอย่างข้า เถียนเจี้ยนซื่อมองเหยาเหม่ยเหม่ยที่แสร้งมองไปนอกศาลาชมนกชมไม้อย่างอารมณ์ดี
สำรับถูกนำมาวาง หน้าตาอาหารดูน่าทานกว่าที่เขาคิดเสียอีก นับว่าคุณหนูตระกูลเหยามีฝีการเข้าครัวที่ดี แต่ก็ประมาทนางไม่ได้
"ข้าให้สาวใช้จัดมาสองชุด เจ้ากินด้วยกันสิ" เถียนเจียนซื่อเอ่ยปากชวน
"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้ากินข้าวมาแล้ว อีกอย่างสำรับอาหารนี้ข้าก็ตั้งใจทำมาให้ท่านโดยเฉพาะ จะเป็นการเสียมารยาทหากข้าแย่งท่านกิน"เหยาเหม่ยเหม่ยปฏิเสธพลวัน จะให้นางกินได้อย่างไร ซุปกระดูกอ่อนนั่นนางใส่เกลือไปตั้งเท่าไหร่ ผัดผักนั่นอีกน้ำตาลไม่น้อยเลยทีเดียว ยังไม่รวมเป็ดตุ๋นน่าอร่อยที่นางโรยสมุนไพรพิษอีก
"หรือในนี้มีอะไรงั้นหรอ" ตรงประเด็นไม่อ้อมค้อมสมกับเป็นแม่ทัพนักรบ เถียนเจี้ยนซื่อคาดเดาได้อย่างแม่นจำ
"ไม่มี กินก็กินสิ ท่านคิดว่าข้าจะใส่อะไรลงไปในอาหารรึ" สีหน้าตกใจของเหยาเหม่ยเหม่ยบ่งบอกว่าสิ่งที่เขาคิดไม่ไว้ไม่ผิดสักนิด นางตักซุปซดเพียงเล็กน้อย หน้าตาเหยแเกบอกถึงรสชาติที่ไม่สู้ดีนัก ก่อนจะรีบซ่อนโดยไว
"อร่อยออก ท่านลองชิมดูสิ" เหยาเหหม่ยเหม่ยขยับชามซุปไปตรงหน้าเถียนเจี้ยนซื่อ หากแต่เขาหาได้สนใจไม่ คีบผัดผักมาวางในชามข้าของนาง
"กินผักสิ มีประโยชน์ต่อสุขภาพเจ้านะ" รอยยิ้มที่นานๆทีจะผุดบนใบหน้าเขร่งขรึมสักที ทำให้เหยาเหม่ยเหม่ยจำใจคีบผักเคลือบน้ำตาลส่งเข้าปาก และแสร้งทำเป็นเอร็ดอร่อย นางทำมาให้เขากิน ทำไมถึงเป็นนางที่ต้องมานั่งกินเองเสียล่ะ หรือว่าเถียนเจี้ยนซื่อจะรู้ทันนางกันแน่
"ท่านไม่ชิมสักคำหรือ" เหยาเห่ยเหม่ยถามขึ้น เมื่อนางไม่เห็นเขาตักอาหารใส่ปากสักคำ
"ข้ายังไม่หิว "
"แต่ข้าตั้งใจทำมาให้ท่านนะ" เหยาเหม่ยเหม่ยโวยวาย
"เดิมทีข้าจะเก็บไว้กินพร้อมท่านพ่อกับท่านแม่ของข้า แต่เจ้าต่างหากที่คะยั้นคะยอให้ข้ากินเสียเดียวนี้ ข้าไม่หิวข้าก็เลยให้เจ้ากินแทน อีกอย่างแค่ดูเจ้ากินข้าก็มีความสุขแล้ว นี่เป็ดตุ๋นใช่ไหม เจ้ากินเสียสิ" เถียนเจี้ยนซื่อหันไปคีบเป็ดตุ๋นหน้าตาหน้ากินใส่ชามข้าวเหยาเหม่ยเหม่ย
"ข้าอิ่มแล้ว ข้าขอตัว" ในเมื่อโดนจับได้นางก็ไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทอีกต่อไป เหยาเหม่ยเหม่ยลุกขึ้นเดินกลับออกไปนอกจวนทันที โดยไม่หันกลับมามองเถียนเจี้ยนซื่อที่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"นางอายุยี่สิบสามตามที่านพ่อท่านแม่พูดจริงหรอ ใยนางถึงยังซุกซนเป็นเด็กน้อยแบบนี้นะ" เขาพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนคีบผัดผักใส่ปากและคายทิ้งทันที
"เอาไปทิ้ง นางคงเผลอทำกระปุกเกลือกระปุกน้ำตาลหกตอนทำแน่ๆ" เถียนเจี้ยนซื่อสั่งสาวใช้ก่อนจะยกชาซดล้างคอ ดีนะที่เขาไม่ได้กินตอนอยู่ต่อหน้านาง ไม่เช่นนั้นนางคงจะชอบใจที่แกล้งเข้าสำเร็จเป็นแน่
