บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เจ้าสาวบรรณาการ

"เอ๋…นี่มันที่ไหนนะ" ลี่เหยาเหยาลืมตาขึ้นท่ามกลางความสลัว ใบหูของเธอคล้ายได้ยินเสียงคลื่นกำลังซัดสาด ร่างกายแข็งทื่อเสียจนไม่อาจขยับ

"เราตายแล้วอย่างนั้นเหรอ หรือว่านี่คือโรงพยาบาล" ดวงตากลมโตกะพริบถี่ ทว่ากลับยังคงมองไม่เห็นสิ่งใด เพียงรู้สึกคล้ายใบหน้าของตนมีบางสิ่งมาบดบังเสียจนน่าอึดอัด

"อะไรเนี่ย? เสี่ยวผิง"

"…"

"เสี่ยวผิง"

"…"

มีเพียงเสียงเงียบสงัดตอบรับกลับมา ลี่เหยาเหยาจึงถอดใจ พลางพ่นลมหายใจออกเชื่องช้า หลับดวงตาลงอีกหน

"สงสัยเรากำลังฝันแหง ปวดหัวจัง นอนต่ออีกหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวตื่นขึ้นอีกทีก็เช้าแล้ว ช่างเถอะ" ด้วยความเหนื่อยล้าและรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ลี่เหยาเหยาจึงผล็อยหลับลงในที่สุด เรือลำเล็กเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางความอนธการโดยรอบ ร่างหญิงสาวนอนทอดกายอยู่ด้านใน ลมหายใจของนางเข้าออกสม่ำเสมอ ห่างออกไปไม่กี่ลี้มีสายตาสองคู่กำลังกวาดมองมายังตัวเรือที่ลอยแล่นอยู่บนผิวน้ำด้วยความสนอกสนใจ

"เถียนชีเจ้าเห็นแล้วหรือไม่" เสียงทุ้มเอ่ยพลางเพ่งสายตามองไปยังเบื้องหน้าท้องน้ำอันไกลโพ้น

"ข้าเห็นแล้ว สายตาของเจ้าช่างไม่ได้เรื่องยิ่งนัก เราไปรับพระชายาท่านจอมมารกันเถิด" บุรุษร่างกำยำเหลียวหน้าตอบกลับ พลางสั่นศีรษะไปมาราวเอือมระอา

"ประเดี๋ยว!"

"อะไรอีกเล่า" ร่างกำยำเหลียวมองผู้ที่ร่างสูงระดับใกล้เคียงกับตน พลางนิ่วหน้าด้วยความฉงน

“มาเดิมพันกันหรือไม่ ว่าสตรีนางนี้จะรอดได้กี่วัน” คิ้วเข้มเลิกขึ้น ริมฝีปากยกโค้งหนึ่งฝั่งอย่างนึกสนุก

“เถียนหยาเดิมพันคราใดเจ้าก็แพ้ข้าเสมอ เหตุใดไม่เคยหลาบจำ”

“ครานี้ข้าไม่แพ้เจ้าแน่นอน”

เถียนชีเหลียวมองท่าทีมั่นอกมั่นใจของสหายพลางยิ้มเยาะ “เหอะ เอาก็เอา เจ้าจะเดิมพันด้วยสิ่งใด”

“ผลึกแก้วห้วงเวลาสามชิ้น”

“ได้! อย่างเก่งนางก็ทนได้เพียงสองชั่วยามเท่านั้น”

“แต่ข้าว่าคุณหนูเหยาเหยาคนนี้ดูน่าสนใจไม่น้อย ที่นางถูกชาวบ้านรวมตัวลอยแพมาเป็นเจ้าสาวสังเวยให้ท่านจอมมารเพราะนางได้สมญานามว่า สตรีผู้น่ากลัวที่สุดในใต้หล้า แม้ใบหน้าจะงดงามแต่ทว่านางสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้” เถียนหยากล่าวเป็นตุเป็นตะ นัยน์ตายังคงมองตรงไปเบื้องหน้า

เถียนชีหลุดหัวเราะลั่น พลางส่ายศีรษะไปมา “เหลวไหล สตรีนางใดจะน่าเกรงขามไปกว่าท่านจอมมารกัน”

“ข้าให้เกินสองชั่วยามที่เจ้าว่ามา” เถียนหยาเอ่ยขึ้นทันควัน

“ตกลงตามนั้น”

สหายทั้งสองจึงกำหมัดกระทบกัน ร่างของบุรุษพลันร่อนกายเข้าใกล้เรือลำเล็ก อีกคนยกหัวเรือ อีกคนยกท้ายเรือ นำตัวเจ้าสาวซึ่งนอนด้านในหายวับเข้าไปยังหุบเขาหม่นทะมึน

.

.

เอ๊ะ…หืม

ลี่เหยาเหยาลืมตาตื่นขึ้นท่ามกลางความสลัว ภาพที่ปรากฏสู่สายตาคือเพดานสีทึมทึบ ซ้ำผ้าม่านเหนือศีรษะยังเป็นสีดำทมิฬ ลี่เหยาเหยาสะดุ้งเล็กน้อยพลันดีดกายขึ้นนั่งด้วยความรวดเร็ว จึงส่งผลให้ศีรษะเกิดอาการชาหนึบ

"ปวดหัวจัง นี่มันที่ไหนกัน"

"ตื่นแล้วหรือ"

"ใครน่ะ!"

ลี่เหยาเหยาสะบัดใบหน้ามองไปยังต้นเสียง

"เจ้ามันช่างเป็นสตรีขี้เซาโดยแท้ หญิงสาวอื่นที่ถูกส่งตัวเข้ามาล้วนแล้วแต่ร้องห่มร้องไห้จนน่ารำคาญไปหมด ส่วนเจ้ากลับนอนหลับสบายใจ ไม่เกรงกลัวข้าบ้างเลยอย่างนั้นหรือ"

ลี่เหยาเหยาหรี่ดวงตามองด้วยความฉงน เงาตะคุ่มสูงใหญ่ย่างกรายออกจากความมืดมิด ใบหน้าบุรุษผู้นี้ดูหล่อเหลาทว่ากลับแฝงไปด้วยกลิ่นอายของความเหี้ยมเกรียมจนน่าขนลุกพิกล

"นายเป็นใคร!?" ลี่เหยาเหยาเอ่ยถามเสียงแข็ง นางจำได้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองเป็นลมหมดสติระหว่างกำลังแสดงละครเวที แล้วเหตุใดจึงมาโผล่ที่เช่นนี้ได้ ซ้ำยังอยู่ร่วมกับชายแปลกหน้า ลี่เหยาเหยากระถดถอยกายของตนซึ่งกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงขนาดกว้างเชื่องช้า นัยน์ตากวาดมองซ้ายขวาพลางหอบหายใจถี่กระชั้น

'ที่ไหน นี่มันคือที่ไหน โต๊ะโบราณ ห้องสีดำ แจกันทรงประหลาด' ดวงตาของลี่เหยาเหยากวาดมองไปรอบทิศ เหงื่อเย็นเริ่มผุดขึ้นบนกรอบหน้างาม หญิงสาวจึงยกมือขึ้นและฟาดไปยังใบหน้าของตนเต็มแรง

เพียะ!

"โอ๊ยเจ็บ"

ชายร่างสูงยืนกอดอกขมวดคิ้วเพ่งมองการกระทำประหลาดด้วยความหงุดหงิด

"นั่นเจ้ากำลังทำสิ่งใดกัน"

ลี่เหยาเหยาไม่ได้สนใจคำถามเมื่อสักครู่ ทว่านางยังคงพยายามตบตีและหยิกกายตนจนร้องโอดโอย แต่ดูเหมือนลี่เหยาเหยายังไม่พอใจ เรียวนิ้วจึงหยิกลงบนต้นแขนขาวเนียนด้วยความรุนแรงอีกหน

"โอ๊ย เจ็บ เจ็บ เจ็บ ไม่ได้ฝันเหรอเนี่ย!" ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตื่นตะลึง

จู่ ๆ บุรุษร่างสูงที่ยืนห่างออกไปก็ปรากฏกายเบื้องหน้าลี่เหยาเหยาในพริบตา เธอตื่นตระหนกพลันถอยกรูดเสียจนแผ่นหลังติดกำแพง ฝ่ามือหยาบระคายคว้าหมับเข้าไปยังลำคอระหง เพิ่มแรงบีบเสียจนหญิงสาวกระอักไอหน้าดำหน้าแดง

แค่ก แค่ก

"ปะ…ปล่อยนะ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยเหยาเหยาด้วย"

ลี่เหยาเหยาพยายามกู่ก้องร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ทว่ากลับถูกฝ่ามือที่แข็งราวคีมเหล็กเพิ่มแรงบีบรัดเข้ามามากขึ้น

"เจ้าเมินข้าหรือ สตรีงามเมืองข้าถามไฉนไม่ตอบเล่า" เสียงทุ้มเอ่ยลอดไรฟัน ดวงตาสีแดงฉานจ้องใบหน้าเหยเกของลี่เหยาเหยาเขม็ง

ลี่เหยาเหยาพยายามดีดขาไปมา ภายในศีรษะประมวลความคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า 'นี่มันที่ไหนกัน หรือเรากำลังถูกโจรจับตัวมาเรียกค่าไถ่'

ต้นคอขาวผ่องถูกบีบรัดเสียจนเกิดรอยนิ้วทั้งห้า ใบหน้าเกลี้ยงเกลาแหงนองศาเชิดขึ้นตามฝ่ามือใหญ่โตของบุรุษ เรียวมือเล็กพยายามแกะและทุบตีอีกฝ่าย ทว่าแรงมดหรือจะสู้แรงช้าง

"ปล่อยนะ ปะ…" อากาศในปอดเริ่มหมดลงแล้ว ลี่เหยาเหยาไม่อาจเปล่งเสียงได้ถนัด เปลือกตาบางจึงหลับลงช้า ๆ ก่อนลมหายใจขาดสะบั้นลง ฝ่ามือกว้างจึงผลักกายเธอออกเสียจนกระแทกติดผนังด้านหลังจนเกิดอาการจุกอก

อึ้ก!

ลี่เหยาเหยากระอักไอออกมาหลายหน นัยน์ตาคู่งามช้อนมองบุรุษเบื้องหน้า พลางกัดฟันกรอด "นายเป็นบ้าอะไรกัน! หน้าไม่อาย ทำร้ายแม้กระทั่งผู้หญิง"

"เจ้าเป็นเจ้าสาวบรรณาการของข้า เป็นคนของข้า ข้าสั่งให้เจ้าพูดก็ต้องพูด ข้าสั่งให้เจ้าตายก็ต้องตาย!"

"ไร้สาระ เผด็จการ!"

ลี่เหยาเหยาพยายามรวบรวมสติ และดูเหมือนว่าเธอพอเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น ที่แห่งนี้ไม่ใช่ฝัน เพียงแต่อยู่ ๆ เธอมาปรากฏกายในห้องผู้ชายบ้าดีเดือดคนนี้ได้อย่างไรกัน

"หนวกหู! รีบส่งโลหิตของเจ้ามา แล้วไสหัวกลับบ้านเจ้าไปซะ!" เสียงทุ้มตะเบ็งดุดัน

"โลหิตเหรอ นายพูดจาเพ้อเจ้ออะไร"

"อย่ามาทำหน้าไขสือได้หรือไม่ สตรีกลิ่นเหม็นเช่นพวกเจ้า ต่อให้ส่งมานับร้อยคนข้าก็ไม่มีวันแตะต้อง"

"พูดบ้าอะไร ใครกลิ่นเหม็น" ลี่เหยาเหยานิ่วหน้า นัยน์ตาสวยลดลงมองกายของตน เวลานี้ลี่เหยาเหยามองเห็นว่าบนกายของตนสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงสด "ชุดแต่งงาน คนละชุดกันนี่" ลี่เหยาเหยาตื่นตระหนก แต่มิวายยกแขนขึ้นดมกายซ้ายขวาอย่างเร่งร้อน 'อึ๊ย! เหม็นจริงแฮะ'

"ทำท่าทีประหลาดใดของเจ้า" คิ้วเข้มขมวดมุ่น นัยน์ตาคมปลาบมองอีกฝ่ายเขม็ง

"เอ่อ…"

ท่าทีหยิ่งผยองสงบลง ลี่เหยาเหยาแหงนเงยใบหน้าขึ้นเชื่องช้า กล่าววาจากระอักกระอ่วน "ขอถามได้ไหม?" เสียงใส่เอ่ยตะล่อมด้วยอาการประหม่า

บุรุษร่างสูงยืนกอดอกพลางหลุบดวงตามองสตรีร่างบางบนเตียงด้วยสีหน้าเย็นชา

"ถามสิ่งใด หากถามเรื่องไม่เกิดประโยชน์ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!"

เชิงอรรถ

^

ลี้ คือเป็นหน่วยวัดของจีนมีความยาวเท่ากับ 500 เมตร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel