บทที่ 4
"ล้อพี่เล่นใช่ไหม"
มุกรินรู้ดีว่าภูชิตคงจะยังรับไม่ได้กับสิ่งที่เเอ่ยไปเมื่อครู่นี้ จะให้เข้าใจได้อย่างไร ในเมื่อตลอดเวลาที่คบกันในต่างแดนนั้น ชายหนุ่มไม่เคยถามเรื่องชาติกำเนิดแม้แต่น้อย ส่วนตัวเองก็ไม่เคยเล่าเรื่องราวส่วนตัวให้ฟังเลยเช่นกัน
มุกรินเห็นภูชิตนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาใดๆ ทั้งสิ้น หญิงสาวรู้สึกไม่สบายใจเหลือเกิน เธอกุมมือของภูชิตไว้เบาๆ แล้วพูดต่อไป
“ขอโทษที่ทำให้ตกใจ เราสองคนไม่เคยเล่าเรื่องของครอบครัวให้ฟังกันเลยแม้แต่น้อย เพราะมุกคิดว่าที่คบกับพี่ภูไม่ใช่เพราะเรื่องฐานะหรือหน้าตาทางสังคม มุกรักพี่ภูเพราะเป็นพี่ภูแบบนี้ ไม่ได้คิดเรื่องยศศักดิ์ฐานะหรืออะไรทั้งสิ้น มุกไม่เคยสนใจเรื่องนี้เลยจริงๆ นะคะ” มุกรินยืนยันหนักแน่น
เรื่องนี้เขาเองก็คิดเช่นเดียวกับเธอ ความรักไม่มีชนชั้นหรือยศศักดิ์หรือหน้าตาทางสังคม ความรักมีแค่หัวใจที่ผูกพันกันตลอดไปเท่านั้นเอง
“มุกตั้งใจเรียนให้จบเพื่อจะกลับมาเมืองไทยตามที่สัญญาไว้กับพี่ภู แต่คุณพ่อกับคุณแม่บอกให้มุกทราบ เรื่องการแต่งงานที่ผู้ใหญ่หมั้นหมายเอาไว้ให้ก่อนหน้านี้แล้ว หม่อมยายของมุก เอ่อ...” หญิงสาวชะงักเล็กน้อย แล้วเล่าต่อว่า
“หม่อมยายของมุกคือหม่อมมาลัย ชาตวิทย์ ชายาของหม่อมเจ้าชาคร ชาตวิทย์ ท่านเป็นท่านตาของมุกเองค่ะ”
หม่อมเจ้าชาครและหม่อมมาลัย ชาตวิทย์ ภูชิตรู้จักท่านทั้งสองจากทางหน้าหนังสือพิมพ์ในข่าวสังคมอยู่บ่อยๆ และเคยได้ยินบิดาเอ่ยถึงหม่อมมาลัยให้ฟังบ้างในบางครั้ง แต่ไม่คิดว่าคนรักของตนจะเกี่ยวดองเป็นญาติด้วย
“หม่อมยายเคยสัญญาไว้กับเพื่อนคนหนึ่งในอดีตว่า หากแต่งงานมีลูกเมื่อไรจะให้เด็กสองตระกูลมาเกี่ยวดองกัน เพื่อเพิ่มความแน่นแฟ้นของสองครอบครัว แต่ว่าน่าเสียดายที่หม่อมยายทำไม่สำเร็จในรุ่นของคุณแม่ เพราะคุณแม่มารักกับคุณพ่อเสียก่อน ซึ่งท่านตาก็เห็นดีด้วยจึงสนับสนุนให้ท่านทั้งสองแต่งงานกันในที่สุด”
“แล้วหม่อมยายของน้องมุก ท่านไม่มีลูกหรือหลานคนอื่นแล้วเหรอครับ” ภูชิตฟังแล้วอดที่จะขนลุกกับสัญญาในอดีตของผู้ใหญ่บ้านนี้ไม่ได้
“มีค่ะ หม่อมยายมีลูกสาวกับลูกชายอย่างละคนคือคุณแม่กับคุณลุงกัมพลหรือหม่อมราชวงค์กัมพล ชาตวิทย์”
หม่อมราชวงค์กัมพล ชาตวิทย์ ภูชิตรู้จักเป็นอย่างดีเพราะท่านเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และที่สำคัญตอนนี้บิดาของเขาร่วมหุ้นทำธุรกิจด้านนี้ด้วย
“แล้วไม่มีคนอื่นแต่งงานกับลูกของเพื่อนหม่อมยายเหรอครับ”
“ไม่มีค่ะ คุณลุงก็ไม่ยอมตกอยู่ในสัญญาของหม่อมยาย ตอนนั้นคุณลุงขอให้ท่านตาออกหน้าให้เหมือนคราวคุณแม่ หม่อมยายจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยเลยตามเลยไป ที่สำคัญฝั่งโน้นเขาก็ไม่มีใครที่สามารถจะมาแต่งงานกับบ้านมุกได้ เพราะเขามีหม่อมเจ้าชยธร ผนินทรเป็นบุตรชายคนเดียว แม่มุกแต่งงานไปแล้วทำให้คำสัญญาของหม่อมยายไม่สำเร็จในรุ่นลูก”
“งั้นคราวนี้ เราก็ให้ท่านออกหน้าให้อีกครั้งซิครับ” ภูชิตพูดอย่างมีความหวังขึ้นมา
“งานนี้ คงไม่มีใครช่วยเราได้ เพราะท่านตาสิ้นไปได้สองปีกว่า ก่อนที่มุกจะไปเรียนต่อที่อังกฤษ” มุกรินพูดเสียงเศร้า รู้ดีว่าถ้าท่านตายังมีพระชนม์ชีพอยู่ถึงตอนนี้เรื่องราวแบบนี้ก็จะไม่เกิดแน่นอน
ภูชิตก้มหน้าคอตกหมดแรงอีกครั้ง ทางออกของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรตอนนี้ยังมองไม่เห็นเลยแม้แต่น้อย ไม่มีใครสามารถจะช่วยให้เรื่องนี้มีทางออกที่สวยงามได้จริงหรือ ทำอย่างไรไม่ให้มุกรินต้องแต่งงานกับคนอื่น
แค่คิดว่าต้องเห็นหญิงคนรักเข้าพิธีวิวาห์แล้วตกอยู่ในอ้อมกอดของชายอื่น ภูชิตก็แทบจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว หัวใจเหมือนกำลังจะตายทั้งเป็น เขาคงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้าขาดมุกรินไป
คิด...เขาต้องรีบคิดหาทางออกเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
มุกรินเองก็ไม่ต่างไปจากภูชิตสักเท่าไร เพียงแค่หลับตาจินตนาการว่าตนเองต้องตกไปเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่ภูชิตแล้วนั้นนั้น หัวใจก็แทบสลายจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกเลย เธอยอมตายหากต้องเป็นของคนอื่น
ภูชิตเงยหน้าขึ้นสบตาหญิงคนรัก แววตาของชายหนุ่มในตอนนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ไม่อาจจะบรรยายได้ เขากลั้นใจถามมุกริน
“แล้วคนที่น้องมุกต้องแต่งงานด้วย ผู้ชายคนนั้นเป็นใครมากจากไหน”
“มุกไม่ทราบค่ะ ไม่เคยเห็นหน้า รู้แต่ว่าตอนนี้ไม่อยู่ที่เมืองไทย” มุกรินกลืนก้อนสะอื้นลงคออย่างยากเย็น น้ำเสียงเธอเต็มไปด้วยความปวดร้าวจากหัวใจ
ภูชิตถอนหายใจอย่างหมดแรง ขอเพียงรู้ว่าผู้ชายที่มุกรินต้องแต่งงานด้วยเป็นใคร อาจจะทำอะไรได้บ้างมากกว่าการรอดูคนรักแต่งงานไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้
“มุกนึกได้แล้ว คนที่หม่อมยายจะให้มุกแต่งงานด้วยคือหม่อมราชวงค์ปูณณ์ ผนินทร”
ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาออกว่าตอนนี้ภูชิตจะรู้สึกอย่างไร คู่แข่งของตนเป็นถึงหม่อมราชวงค์ที่มีชื่อเสียง และแทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมหม่อมยายของมุกรินถึงอยากให้หญิงสาวแต่งงานกับคุณชายปูณณ์แห่งวังผนินทร
เพราะหม่อมราชวงค์ปูณณ์ ผนินทร หรือคุณชายปูณณ์นั้นเป็นราชนิกูลที่สืบสายโลหิตมาจากเจ้านายชั้นสูงพระองค์หนึ่ง วังผนินทรยังมีธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์อีกมากมาย และยังมีกิจการด้านการส่งออกที่ไม่เป็นรองใครอีกด้วย ภูชิตพอจะทราบเรื่องราวของคุณชายท่านนี้มาบ้าง จากคำบอกเล่าของมารดาและตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ
ปัจจุบันหม่อมราชวงค์ปูณณ์พำนักอยู่ต่างประเทศในฐานะอัครราชทูตที่ปรึกษาประจำประเทศหนึ่งในยุโรป และมีข่าวแว่วในวงในของคณะทูตด้วยกันว่า เร็วๆ นี้อาจจะได้เลื่อนขั้นเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศใดประเทศหนึ่งแน่นอน
ยังไม่ทันจะออกแรงสู้เพื่อความรักของตน ภูชิตก็แทบจะยอมแพ้ในเวลานี้เลยชายหนุ่มคิดเองว่าตนไม่มีอะไรจะเทียบเท่ากับคุณชายว่าที่คู่หมั้นของมุกรินแม้แต่น้อย ทั้งฐานะชาติตระกูลหรือแม้แต่หน้าที่การงานของตน
หากมุกรินแต่งงานกับเขานั้นคงจะเป็นเพียงได้แค่นางมุกริน ภู่ปัญญา ภรรยาของนายแพทย์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่หากมุกรินได้แต่งงานกับคุณชายแล้ว หญิงสาวจะมีหน้าฐานะเป็นถึงภรรยาท่านทูตในอนาคต ชีวิตคงจะเปลี่ยนไปในพริบตาชนิดที่เรียกว่าเป็นซินเดอเรล่าข้ามคืนเลยทีเดียว
เขาคงต้องยอมกับความพ่ายแพ้ครั้งนี้อย่างราบคาบ เพราะรู้ดีแก่ใจว่าถึงจะดิ้นรนสู้ไปแค่ไหนก็ไม่มีวันจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้ และมุกรินไม่สามารถจะขัดขืนความต้องการของผู้ใหญ่ได้ หากต้องให้คนรักมีปัญหากับผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัวเพื่อตนแล้ว
“แล้วทำไมน้องมุกถึงต้องแต่งงานกับท่านชายด้วย ทำไมหม่อมยายถึงไม่เลือกหลานคนอื่น”
มุกรินเห็นท่าทีของคนรักแล้วแทบอยากจะร้องไห้ออกมา แต่เพื่อไม่ให้สถานการณ์มันเลวร้ายมากไปกว่านี้ หญิงสาวจำเป็นต้องเข้มแข็งไว้เพื่อไม่ให้ทุกอย่างแย่ลงกว่าเดิม
“หม่อมยายจับคู่ให้รุ่นลูกไม่สำเร็จ จึงคาดหวังมาที่รุ่นหลานโดยประกาศออกมาชัดเจนว่า ถ้าหลานคนโตเกิดมาเมื่อไรจะต้องเป็นตัวแทนไปแต่งงานกับลูกหลานวังผนินทร ซึ่งมุกเป็นหลานสาวคนแรกของหม่อมยายค่ะ” มุกรินพูดอย่างเจ็บปวด
“คุณลุงแต่งงานกับคุณป้าจรูญรัตน์หลายปีกว่าจะมีลูกคือหม่อมหลวงโสภิตนภา แต่คุณพ่อแต่งงานกับคุณแม่ได้เพียงปีเดียวก็มีมุกเกิดขึ้นมา เพราะฉะนั้นมุกจึงเป็นหลานคนแรกของครอบครัว หน้าที่นี้จึงตกเป็นของมุกอย่างไม่ต้องสงสัย”
“แต่น้องมุกไม่ได้เป็นหม่อมอะไรทั้งสิ้น แล้วทางโน้นเขาจะยอมแต่งงานด้วยเหรอ ทำไมไม่ให้น้องสาวของน้องมุกเป็นคนแต่งงานแทน เจ้ากับเจ้าแต่งงานกันน่าดีกว่าที่จะมาแต่งงานกับคนธรรมดาอย่างน้องมุก”
“คำนำหน้าของมุกไม่ใช่นางสาวมุกริน เทียนปรีชา อย่างที่มุกบอกพี่ภูแต่แรก แต่คำนำหน้าของมุกคือคำว่าหม่อมราชวงค์มุกริน เทียนปรีชา ธิดาคนเดียวของหม่อมเจ้ามานพและหม่อมราชวงค์มณีรัตน์ เทียนปรีชา”
ภูชิตตกตะลึงซ้ำสอง มองหน้าหญิงคนรักชัดๆ ผู้หญิงที่เขารักเป็นถึงหม่อมราชวงค์ เรื่องการแต่งงานคราวนี้คงทำอะไรไม่ได้จริงๆ
“หน้าที่ของการเป็นหลานคนแรกของครอบครัว จึงตกเป็นของมุกอย่างไม่ต้องสงสัย มุกไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะพูดหรือปฏิเสธสิ่งใดทั้งสิ้น นอกจากก้มหน้ายอมรับในชะตากรรมของตนเองค่ะ”
ภูชิตปล่อยมือของมุกรินอย่างหมดแรง แทบจะหมดลมหายใจลงไปต่อหน้าต่อตาเสียเดี๋ยวนี้ แพ้แล้ว แพ้อย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องสู้ เพราะไม่มีอะไรจะสู้ได้เลย
คำว่าเจ้าแต่งงานกับเจ้าที่เขาเอ่ยออกมาก่อนหน้านี้ว่าเหมาะสมกัน คงจะเป็นเรื่องจริงเสียแล้วกระมัง หม่อมราชวงค์มุกริน เทียนปรีชากับหม่อมราชวงค์ปูณณ์ ผนินทร ช่างเหมาะสมอะไรกันเช่นนี้
ภูชิตสะท้อนในหัวอกคนเดียวว่า คำนำหน้าของเขาคือนายแพทย์ภูชิต ภู่ปัญญา ศัลยแพทย์จนๆ ที่บังอาจมารักคุณหญิงมุกริน เทียนปรีชา จนต้องอกหักสภาพไม่เหลือชิ้นดีแบบนี้ สมเพชตัวเองเหลือเกิน
ภูชิตพยายามกลั้นน้ำตาที่พาลจะไหลออกมาให้ได้ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเสียใจอะไรเท่านี้มาก่อน หญิงคนรักกำลังจะไปแต่งงานกับคนอื่นเพียงเพราะคำสัญญาของคนรุ่นเก่าที่ไม่มีวันจะเปลี่ยนแปลงได้ และเพราะชาติกำเนิดฐานันดรศักดิ์ที่ติดตัวมาความเป็นลูกชาวสวนเก่าอย่างเขา คงไม่อาจจะเทียบได้กับหม่อมราชวงค์ผู้สูงศักดิ์ปานนั้น
“พี่ดีใจกับน้องมุกด้วย ไม่ใช่ซิ พี่ต้องเรียกว่าคุณหญิงมุกถึงจะถูก พี่ขออวยพรให้การแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ขอให้มุกมีความสุขกับสิ่งที่มุกได้เลือกแล้ว แต่พี่คงไม่อาจจะไปร่วมงานแต่งงานได้” ชายหนุ่มเอามือปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นยืนเหมือนคนไม่มีชีวิต
เขาตายแล้ว ตายทั้งเป็นอย่างไม่น่าเชื่อ...
“พี่ขอให้มุกของพี่มีความสุขมากๆ ขอภาวนาให้คุณชายรักมุกของพี่ให้มากกว่าที่พี่รักมุกตลอดไป” ภูชิตก้มหน้าลงไม่อยากให้หญิงสาวที่ตนรักต้องเห็นความอ่อนแอของตนในขณะนี้
“มุกไม่ได้เลือก มุกไม่มีสิทธิ์เลือกมากกว่า” มุกรินลุกขึ้นยืน ผวาเข้ากอดแขนชายหนุ่มไว้แน่น แล้วพูดด้วยน้ำตานองหน้า
“มุกไม่อยากได้ความรักจากคุณชาย ไม่ต้องการมีความสุขในการแต่งงานกับใครทั้งนั้น คนที่มุกรักและต้องการจะแต่งงานด้วยมีเพียงคนเดียวเท่านั้น มุกรักพี่ภู...” มุกรินโผเข้าหาอ้อมอกที่คุ้นเคยของภูชิต
น้ำตาของหญิงสาวร่วงหล่นลงที่หน้าอกของชายหนุ่ม ภูชิตอยากจะเป็นคนปลอบโยนหญิงสาวเหมือนก่อน แต่ต้องฝืนใจไว้เพราะตอนนี้ไม่มีสิทธิ์ที่จะแตะต้องตัวเธออีกต่อไป มุกรินกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่เหมาะสมมากกว่าตน
สิ่งเดียวที่ภูชิตทำได้ตอนนี้คือยืนนิ่งๆ ให้หญิงสาวได้ปลดปล่อยความเศร้าออกมา ไม่กล้าแม้แต่จะลูบหัวปลอบขวัญเหมือนเช่นเดิมที่เคยทำมา ฟังเสียงมุกรินร้องไห้สะอื้นอย่างปวดใจไม่แพ้กัน
แสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปนานแล้ว แม้ความมืดเข้าปกคลุมพื้นที่บริเวณแต่ก็ยังมีแสงไฟส่องทางให้คนเดิน แต่หัวใจของภูชิตและมุกรินตอนนี้กำลังมืดบอดสนิท ไม่มีทางออกสำหรับความรักของทั้งสองเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่ทั้ทำได้คือ ทำใจ ให้ยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาในไม่ช้านี้
อากาศเริ่มเย็น ภูชิตกำลังจะทนไม่ไหวกับเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มต้องหาทางระบายมันออกไปจากหัวใจ ก่อนที่จะไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
“กลับบ้านเถอะน้องมุก มืดแล้วเดี๋ยวจะลำบาก” ภูชิตค่อยๆ รั้งตัวหญิงสาวออกจากแผ่นอกของตนที่ชุ่มไปด้วยคราบน้ำตา มุกรินสะอื้นค่อยๆ เดินตามชายหนุ่มไปอย่างคนหมดอาลัยในชีวิต
ระหว่างทางที่เดินขึ้นจากแพนั้น ไม่มีใครพูดอะไรกันอีกเลย ต่างฝ่ายต่างเงียบจนกระทั่งถึงลานจอดรถ ภูชิตส่งมุกรินขึ้นรถก่อน
“พี่ภูคะ มุกจะจำพี่ภูตลอดไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมุก พี่ภูจะอยู่กับมุกตลอดไปในนี้...” มุกรินชี้นิ้วชี้ลงมาที่หว่างอกของตนแล้วพูดอย่างไม่อาย
“ในนี้...ในใจของมุกตลอดไป” มุกรินก้มหน้าร้องไห้
คำว่าในใจของมุกตลอดไป ทำให้หัวใจของภูชิตแทบจะสลายลงตรงนั้น เขาฝืนยิ้มออกมาอย่างยากเย็น แล้วพูดว่า
“พี่จะจำน้องมุกไว้ น้องมุกจะอยู่ในนี้...” ภูชิตเอามือทุบที่หน้าอกของตนเบาๆ ราวกับจะปลอบใจไม่ให้หัวใจของตนแหลกสลายลงตอนนี้
“ในนี้...ในใจของพี่ตลอดไป” น้ำตาลูกผู้ชายของภูชิตหล่นลงอย่างไม่อายอีกครั้ง
ก่อนที่มุกรินจะตัดใจขับรถออกไป หญิงสาวหันหน้ามามองภูชิตให้เต็มตา ราวกับว่าภาพของชายหนุ่มจะติดตรึงอยู่ในหัวใจของหญิงสาวอย่างไม่มีวันลบเลือน
แม้หยดน้ำตาจะพรั่งพรูออกมาอย่างไม่ขาดสาย หัวใจของมุกรินเหมือนถูกบีบให้แตกเป็นเสี่ยงๆ ก็ไม่อาจจะปฎิเสธกับเสียงเรียกร้องของหัวใจได้ว่า ภูชิตคือเจ้าของหัวใจของเธอแต่เพียงผู้เดียว
รถของมุกรินลับตาไปแล้วภูชิตไม่ต้องฝืนอะไรอีกต่อไป เดินเข้ามานั่งในรถแล้วฟุบหน้าลงบนพวงมาลัยร้องไห้ออกมาให้พอใจ นาทีนี้ไม่ต้องฝืนเข้มแข็งเพื่อใคร ไม่ต้องอายอะไรอีกต่อไป
ไม่มีแล้ว ไม่มีภูชิตคนเดิมแล้ว ไม่มีจริงๆ
เป้าหมายที่ภูชิตกำลังจะไปในตอนนี้ไม่ใช่บ้านของตน ไม่ใช่บ้านสวนของภูบดินทร์ หากแต่เป็นที่ไหนก็ได้สักที่ ที่ทำให้ชายหนุ่ม ลืม ลืมเรื่องบ้าๆ พวกนี้ ลืมมุกริน เขาอยากลืมเธอให้ได้เดี๋ยวนี้ เวลานี้ ตอนนี้ และลืมให้ได้ว่าตนเองกำลังจะตายเพราะเสียหญิงคนรักเป็นของคนอื่น
