บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

ทันทีที่เครื่องแตะลงพื้นแผ่นดินไทย ภูชิตเข็นกระเป๋าเดินทางไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน เสียงร้องตะโกนแต่ไกลจนต้องหันไปมอง นายเสือหรือภูบดินทร์น้องชายคนเดียวของเขานั่นเอง

“เสือน้อยมารับพี่เหรอ” ภูชิตเอ่ยทักทายด้วยความดีใจ สองพี่น้องกอดกันกลมด้วยความคิดถึงที่ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันเสียหลายปี

“นายนี่มันเหมือนเดิมเลยนะ นายเสือ” ภูชิตพูดหลังจากพิจารณาน้องชายอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ได้เจอกันเกือบสองปี น้องชายดูจะไม่เปลี่ยนไปเลยเคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น

“ผมก็เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนหรอก ว่าแต่พี่ภูเถอะ รู้ตัวหรือยังว่าจะเจออะไรบ้างเมื่อถึงบ้าน” น้องชายเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ภูบดินทร์อาสามารับพี่ชายที่เดินทางกลับจากประเทศอังกฤษด้วยตนเอง โดยให้เหตุผลว่าเขาจะไม่มีเวลาได้อยู่คุยกับภูชิตนานนัก เพราะต้องรีบกลับไปจัดการงานสวนที่กำลังล้นมืออยู่ในขณะนี้ แต่ความจริงแล้วเพราะน้องชายสุดที่รักหาโอกาสมาเจอก่อน เพื่อบอกให้รู้แต่เนิ่นๆ ว่ามารดากำลังคิดวางแผนจะทำอะไรต่างหาก

“มีอะไรเหรอ บอกกันก่อนล่วงหน้าได้ไหมแล้วนี่ทำไมนายมาคนเดียวล่ะ” ภูชิตถามด้วยความอยากรู้

“ทุกคนรอพี่อยู่ที่บ้านหมด นี่ป้าสะอิ้งมาจากสวนด้วยนะ บอกว่าอยากเห็นคุณภูของป้า” สองหนุ่มเดินคุยกันจนไปถึงรถ ภูบดินทร์ทำหน้าที่คนขับพาคุณหมอหนุ่มกลับบ้านในทันที

รถของภูบดินทร์เลี้ยวเข้ามาในอาณาเขตของครอบครัวภู่ปัญญาแล้ว ภูชิตเปิดประตูลงจากรถเห็นรอยยิ้มของบิดามารดาที่ยืนรออยู่ แวดล้อมไปด้วยคนเก่าแก่ที่เคยเห็นกันมาแต่เล็กแต่น้อย รวมถึงป้าสะอิ้งที่วันนี้ยอมทิ้งงานที่สวนเพื่อมารอเจอหน้าคุณหมอหนุ่มด้วยอีกคน

“คุณแม่ครับ ผมไปสำรวจมาแล้วพี่ภูไม่ได้พาเมียแหม่มที่ไหนกลับมาบ้าน อย่างที่คุณแม่กลัวเลยผมยืนยันได้” เสียงภูบดินทร์รายงาน ขณะที่ภูชิตก้มลงกราบบิดามารดาที่กอดรับขวัญลูกชายคนโตด้วยความปลื้มใจ

“ดีแล้วที่ไม่เอาออกมา ไม่อย่างนั้นแม่ต้องอกแตกตายแน่” คุณหญิงแพรวาหอมแก้มภูชิตฟอดใหญ่แล้วพูดว่า

"เมียแหม่มจะดีเท่าเมียคนไทยด้วยกันได้อย่างไร แม่มองหาเมียดีๆ ไว้ให้ภูแล้ว"

“พอเถอะคุณ ลูกเพิ่งกลับมางานการยังไม่ได้ทำเลย เรื่องมีเมียรอก่อนก็ได้” คำพูดของบิดาเหมือนระฆังมาช่วยชีวิต แล้วตัดบทด้วยการชวนบุตรชายทั้งสองเข้าไปบ้านไปรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง

ภูชิตอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยเตรียมจะรื้อข้าวของที่เอากลับมาด้วย สิ่งแรกที่หยิบออกมาก่อนเลยก็คือ ตุ๊กตาชายหญิงขี่จักรยานซึ่งเป็นของขวัญชิ้นแรกที่มุกรินซื้อให้เมื่อวันเกิดในปีที่ผ่านมา

‘เผื่อว่าพี่ภู จะพาสาวที่ไหนซ้อนท้ายไปด้วยกัน’

‘สงสัยคงจะมีแต่น้องมุกคนเดียวที่ต้องซ้อนท้ายพี่อย่างนี้ตลอดชีวิต’ ภูชิตสบสายตาอย่างมีความหมาย

น้องชายตัวแสบเคาะประตูห้องแล้วเปิดเข้ามาในทันที นั่งลงบนเตียงนอนแล้วสำรวจด้วยสายตา มองกองข้าวของที่ถูกรื้อออกมาจากกระเป๋า เหลือบไปเห็นตัวตุ๊กตาหนุ่มสาวขี่จักรยานวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอน ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยเหลือเกินว่าคุณหมอพี่ชายมีของแบบนี้ด้วยหรือ

“ตุ๊กตาซื้อที่ไหน น่ารักดี”

“ของขวัญวันเกิด” ภูชิตตอบผ่านๆ พยายามไม่แสดงพิรุธใดให้จับผิด เขาไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องมุกรินมากมายนัก เพราะต้องการให้เธอกลับมาเมืองไทยให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นจึงค่อยจัดการทุกอย่างให้ถูกต้องตามประเพณี

“คนซื้อเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ” ภูบดินทร์ถามต่อด้วยความอยากรู้ พลางสอดส่ายสายตามองหาของชิ้นอื่นที่น่าสนใจอีก ดูท่าว่าพี่ชายของตนคงไม่ได้แค่ไปเรียนอย่างเดียวกระมัง แต่คงมีใครพิเศษที่ยังไม่พร้อมเปิดเผยตัวด้วยเป็นแน่ เจ้าของสวนหนุ่มมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าใช่

“ไม่กลับสวนหรือไง” คุณหมอหนุ่มเอ่ยถาม พลางลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่อีกใบออกมา ภูบดินทร์กุลีกุจอรีบเข้าไปช่วยด้วยความเต็มใจ

เป้าหมายจริงๆ ของภูบดินทร์คือตั้งใจจะหาของพิเศษที่อาจจะติดไม้พี่ชายมาจากดินแดนแสนไกล ผ้าพันคอสีน้ำทะเลถูกพับอยู่ที่มุมกระเป๋า ชายหนุ่มสนใจหยิบคลี่ออกมาดู

“พี่ภูซื้อมาเหรอ สวยจัง” ภูบดินทร์หยิบผ้าพันคอขึ้นมาชม

“เปล่า นายอย่ายุ่งกับของพี่ได้ไหม ไปนอนเล่นตรงโน้นเลยไป” ภูชิตรีบฉวยจากมือน้องชายมาวางไว้บนเตียงนอนอย่างรวดเร็ว

“หวงเหรอข อดูแค่นี้ก็ไม่ได้” เจ้าของสวนหนุ่มแกล้งแซว เมื่อเห็นท่าทีหวงของซึ่งผิดวิสัยพี่ชายเป็นอย่างมาก ผ้าพันคอผืนนี้ต้องมีอะไรพิเศษแน่

ภูชิตไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาให้น้องชายจับผิดอีก ชายหนุ่มตัดสินใจเก็บกระเป๋าไว้อย่างเดิม รอให้พรุ่งนี้คนอยากรู้กลับไปให้หมดก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที

"เหนื่อยแล้ว พรุ่งนี้ค่อยรื้อต่อแล้วกัน" ภูชิตตัดบท อารามความรีบร้อนจนลืมปิดกระเป๋า ทำให้ทุกอย่างในนั้นร่วงหล่นลงเต็มพื้นห้องไปหมด

“เฮ้ย รูปสาวที่ไหนเนี่ยน่ารักจัง” ภูบดินทร์กระโจนคว้ากรอบรูปที่ร่วงหล่นลงพื้นก่อนที่ภูชิตจะคว้าไว้ทัน

“สาวไหนมาซ้อนจักรยานพี่ชายผม เนี่ย”

“เราจะไปไหนกันดีคะ พี่ภู น้องอยากไปดูทุ่งดอกไม้ค่ะ” ภูบดินทร์ดัดเสียงให้ดูเป็นเหมือนสาวที่อยู่ในภาพ

"เอาคืนมานายเสือ" ภูชิตเอ่ยเสียงเข้ม พยายามจะคว้าเอาคืนมาให้ได้ แต่ภูบดินทร์ไม่ยอมคืนให้ การไล่ล่ากรอบรูปจึงเริ่มต้นขึ้น

“แหม เล่นกันเหมือนสมัยเด็กๆ เลยนะคะคุณภู คุณเสือ เล่นลิงชิงบอลด้วย” ป้าสะอิ้งเปิดประตูเข้ามาเห็นสองหนุ่มกำลังวิ่งไล่ชิงข้าวของกัน เข้าใจว่าพี่น้องนึกสนุกเล่นกันเหมือนเด็กๆ จึงเอ่ยทักด้วยความเอ็นดู

“ตายจริง ทำไมรกแบบนี้ล่ะคะ มาป้าช่วยเก็บนะ” นางเห็นข้าวของภูชิตเกลื่อนกลาดเต็มห้องไปหมดจึงอาสาจะช่วยเก็บให้

“ไม่เป็นไร ป้า ผมทำเองดีกว่า” ภูชิตร้องห้าม แล้วรีบโกยของทุกอย่างเข้าไปในกระเป๋าอย่างรวดเร็ว โดยไม่คิดถึงคำว่าระเบียบซึ่งผิดวิสัยคุณหมอหนุ่มเป็นอย่างยิ่ง

“ป้า อันนั้นอย่าดูเลยดีกว่ามาดูอันนี้ดีกว่า” ภูบดินทร์เรียกให้หญิงวัยกลางคนมาดูของที่ตนถือไว้ในมือ

“นายเสือ อย่า...” ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะช้าไปเสียแล้ว ตอนนี้ป้าสะอิ้งกำลังหยิบตุ๊กตาขึ้นมาดูใกล้

“ใครคะ แฟนคุณภูเหรอ” ป้าสะอิ้งหันมาถามด้วยรอยยิ้ม เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมภูชิตถึงได้ลุกลี้ลุกลนผิดปกติ

“บอกมาเหอะน่าพี่ภู รับรองไม่บอกคุณแม่หรอก” ภูบดินทร์คะยั้นคะยอให้บอกเพราะอยากรู้

"นั่นรูป น้องมุก” ภูชิตบอกสั้นๆ

“แล้วเธอเป็นอะไรกับพี่ภู” น้องชายถามต่อทันที

“เป็นแฟนก็บอกมาเถอะ ไม่เห็นจะต้องปิดพี่ปิดน้องเลย อีกหน่อยก็ต้องรู้จักกันอยู่ดี” ภูบดินทร์ตบบ่าพี่ชายเบาๆ ดูสีหน้าก็รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นสำคัญต่อพี่ชายแค่ไหน

“หน้าตาก็น่ารักดีนี่คะคุณภู ปากนิดจมูกหน่อยป้าว่าเหมาะสมกับคุณภูดีออก คุณเสือว่าไหม” หญิงวัยกลางคนมองภาพถ่ายด้วยความชื่นชม น่าตาน่าเอ็นดูแบบนี้นี่เอง ถึงได้ทำให้หัวใจคุณหมอหนุ่มสั่นไหวได้

“แล้วทำไมไปบอกคุณพ่อคุณแม่เลยล่ะ” ภูบดินทร์เห็นด้วยกับป้าสะอิ้ง

“เป็นลูกเต้าเหล่าใครคะ คุณภู” ป้าสะอิ้งถาม

“ผมยังไม่เคยถามถึงพ่อแม่ รู้แต่ว่านามสกุลเทียนปรีชาบ้านอยู่แถวสุขุมวิท” คุณหมอหนุ่มพูดเท่าที่รู้ตามจริง เขาไม่เคยสนใจว่าหญิงคนรักจะเป็นลูกเต้าเหล่ารัก มุกรินเป็นคนดีเป็นที่พักพิงในหัวใจตนก็พอแล้ว

ป้าสะอิ้งถามไถ่อีกสองสามคำแล้วก็ขอตัวไปนอน ปล่อยให้สองหนุ่มคุยกันต่อในห้องนอนเพียงลำพัง

“ทำไมไม่บอกคุณแม่ไปตรงๆ ว่ามีสาวอยู่ที่อังกฤษ” น้องชายถามอย่างเป็นงานเป็นการ หลังจากที่ป้าสะอิ้งออกไปแล้ว

“ตอนแรกก็ว่าจะบอก แต่เห็นท่าทางคุณแม่แล้วไม่บอกดีกว่า รอให้มุกกลับมาก่อนแล้วค่อยพูดทีเดียว”

ภูชิตไม่รู้ว่ามารดาจะคิดเห็นประการใดเรื่องที่ตนมีคนรักอยู่ที่อังกฤษ อีกทั้งไม่รู้ว่าผู้หญิงที่มารดาเอ่ยถึงเมื่อตอนเย็นเป็นใคร แต่เขาไม่สนใจว่าคนที่คุณหญิงแพรวาเลือกจะเป็นนางฟ้ามาจากไหน สำหรับคุณหมอหนุ่มแล้วมุกรินเท่านั้นที่ต้องการจะแต่งงานด้วย เพียงแต่...

เขารู้นิสัยมารดาดีว่า อคติส่วนตัวอาจทำให้ปิดกั้นที่จะเปิดใจรับรู้เรื่องของมุกริน เพราะไม่มีใครรู้จักว่าคนรักของคุณหมอหนุ่มเป็นใคร หน้าตาอย่างไร นิสัยใจคอเช่นไร จึงไม่แปลกหากว่าคุณหญิงแพรวาจะตั้งแง่ขึ้นมาต่อต้านก่อน ดังนั้นภูชิตจึงคิดว่า รอให้มุกรินกลับมาเมืองไทยเสียก่อนแล้วค่อยพาเข้ามาให้รู้จักอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าเมื่อทุกคนได้เห็นคนรักของเขาแล้ว จะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น่ารักแน่

“พี่ภูแค่คบเฉยๆ แก้เหงาหรือว่าคิดจริงจังด้วย” ภูบดินทร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นจริงเป็นจัง อยากรู้ว่าสถานะความสัมพันธ์ของพี่ชายไปถึงไหนแล้ว

“พี่กับมุกตกลงกันแล้วว่า เราจะแต่งงานกันทันทีที่เธอกลับมา” ภูชิตพูดชัดๆ ให้คนรอฟังได้ยินเต็มสองรูหู ภูบดินทร์พยักหน้ารับทราบและมั่นใจว่า งานนี้คงต้องคุยกับคุณหญิงแพรวาอีกยาวแน่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel