บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

ท่าอากาศยานฮีทโรว์ประเทศอังกฤษ เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องตามเที่ยวบินต่างๆ ดังเป็นระยะ แจ้งเตือนให้ผู้ที่กำลังจะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางทราบเพื่อเตรียมตัวร่ำลาบุคคลอันเป็นที่รักให้เรียบร้อย

ประตูทางเข้าผู้โดยสารขาออกที่กำลังรอขึ้นเครื่อง ตอนนี้ถ้าใครผ่านไปผ่านมาก็จะเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังสบสายตากันอย่างอาลัยอาวรณ์

“พี่ภู ยังไม่กลับไม่ได้เหรอคะ” สาวน้อยเอ่ยประโยคนี้ซ้ำเป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้แล้วในวันนี้ แต่เพราะอยากโน้มน้าวให้คนที่กำลังจะขึ้นเครื่องเปลี่ยนใจ ต่อให้ต้องพูดอีกกี่ร้อยครั้งก็ยอม

"พี่ไปรอที่เมืองไทยก่อนไง พอมุกเรียนจบแล้วค่อยตามพี่กลับไป” ชายหนุ่มกุมมือหญิงสาวที่อ้อนวอนด้วยสายตาอาลัยไม่แพ้กัน

เขาเองก็ใช่ว่าอยากจะไปไกลจากหน้าคนรัก ยิ่งเวลานี้ด้วยแล้วเสียงประกาศเรียกเตือนผู้โดยสารให้ขึ้นเครื่องดังขึ้นบ่อยครั้ง ยิ่งทำให้ไม่อยากจะจากไปเลย

“กว่ามุกจะจบอีกตั้งหลายเดือนนะ” เธอพยายามหาเหตุผลเพื่อรั้งเขาไว้ไม่ให้ไป

“พี่ก็จะทำงานเก็บเงินรอ พอมุกเรียนจบกลับไปเราจะได้แต่งงานกันทันทีไง” เขาจับมือทั้งสองข้างของเธอกุมไว้แน่นพร้อมกล่าวต่อ

“มุกรีบเรียนให้จบ แล้วตามพี่กลับไป พี่จะรอ” คำสัญญาที่ออกจากปากของชายคนรัก ทำให้แววตาคู่สวยคลายความกังวลลงไปบ้าง

“พี่จะเขียนจดหมายหาทุกอาทิตย์” ภูชิตให้สัญญาหนักแน่น

“พี่ภูกลับไปแล้ว ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ อย่าลืมคิดถึงกันบ้าง มุกจะคิดถึงพี่ภูตลอด”

"พี่คิดถึงมุกทุกวินาทีนะ จำไว้" ชายหนุ่มดึงสาวน้อยเข้ามากอดลาอีกครั้ง ร่างเล็กฝังใบหน้าลงบนแผ่นอกคล้ายกับจะจดจำความอบอุ่นนี้ไว้ให้นานแสนนาน

‘พี่ภู หางานทำที่นี่ก็ได้นี่คะ’ มุกรินหาทางออกให้ภูชิต ทันทีที่รู้ว่าชายหนุ่มจะเดินทางกลับเมืองไทยในสัปดาห์หน้า

‘ไม่ได้หรอก น้องมุกก็รู้ว่าคุณพ่อรออยู่ ท่านโทรศัพท์มาเร่งให้พี่กลับไปตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว’ ภูชิตบอกตามความเป็นจริง

‘แล้วมุกจะอยู่กับใคร อีกตั้งนานกว่าจะเรียนจบ’ มุกรินไม่อยากให้ภูชิตกลับไปในเวลานี้

ไม่ใช่เพราะอยากรั้งเขาไว้ด้วยความเห็นแก่ตัว เพราะรู้ดีว่าอนาคตที่สดใสของนายแพทย์หนุ่ม ผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังระดับประเทศรอภูชิตอยู่ แต่ความรักที่กำลังสุกงอมและหอมหวานที่เกิดขึ้นในจิตใจของทั้งสองต่างหาก ที่เป็นบ่วงแห่งรักที่ยื้อไม่ให้ทั้งคู่แยกจากกันได้

‘พี่จะฝากมุกไว้กับอาเดียร์ มุกมีอะไรไปหาอาเดียร์ได้ตลอดเวลานะ’ ทางออกเดียวที่ภูชิตคิดได้คือฝากคนรักไว้กับญาติสนิท ซึ่งนี้คือเหตุผลที่ทำให้เขายอมตัดใจกลับประเทศไทยตามคำเร่งรัดของบิดา

เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารดังขึ้นอีกครั้ง ภูชิตตัดใจหยิบกระเป๋าสะพายประจำตัวขึ้นมา แล้วกล่าวลาคนรักอีกครั้งว่า

“พี่ต้องไปแล้ว มุกส่งแค่นี้เถอะ เราเจอกันที่เมืองไทยนะ"

“เดินทางดีๆ นะคะ ไปถึงแล้วส่งข่าวหามุกบ้าง” หญิงสาวกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา พยายามฝืนยิ้มเพื่อให้ภูชิตสบายใจที่สุด

"ถึงเมืองไทยเมื่อไร พี่จะโทร.หามุกเป็นคนแรก พี่ไปนะ" ภูชิตดึงร่างเล็กมากอดเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะตัดใจหันหลังเดินจากไปตามเสียงประกาศเรียกผู้โดยสาร

ภูชิตเดินทางกลับเมืองไทยตามคำเรียกร้องของบิดา นายแพทย์ภูสิงห์ ภู่ปัญญา เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองไทย ชายหนุ่มเป็นบุตรชายคนโตของนายแพทย์เจ้าของโรงพยาบาลกับคุณหญิงแพรวา คุณหญิงตราตั้งที่ทำงานการกุศลอยู่ตลอดเวลา

ภูชิตเรียนจบวิชาแพทย์บัณฑิตจากสถาบันอันดับหนึ่งของเมืองไทยในสาขาวิชาอายุรศาสตร์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องหลอดเลือดและหัวใจ ทันทีที่เรียนจบก็ออกไปหาประสบการณ์การทำงานเป็นคุณหมอรักษาคนไข้อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งของรัฐตามคำแนะนำของบิดา ก่อนจะกลับมาเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลของครอบครัว รับหน้าที่ดูแลคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่ตลอดจนงานต่างๆของโรงพยาบาล

ชายหนุ่มขอบิดาไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อจะนำความรู้ที่ได้พัฒนางานและบริการของโรงพยาบาลให้ดีมากขึ้น เขาจึงเลือกที่จะศึกษาด้านบริหารที่ประเทศอังกฤษเพราะมีสาขาที่ต้องการเปิดสอน อีกทั้งมีญาติมาทำธุรกิจร้านอาหารอยู่ที่นี้ด้วย

ใช้เวลาไม่ถึงสองปีก็สามารถคว้าปริญญาโทมาให้ครอบครัวได้ชื่นใจ อาจเป็นเพราะภูชิตหัวดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หรือเพราะว่ามีกำลังใจดีอย่างมุกรินกันแน่ อันนี้เจ้าตัวเท่านั้นที่จะตอบได้

อีกทั้งตอนแรกที่มาอยู่ต่างแดน เขาไม่มีเพื่อนที่ไหนมากจึงใช้เวลาทั้งหมดที่มีทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างเต็มที่จนได้คะแนนดีเป็นอันดับต้นๆ

วันไหนไม่มีเรียนชายหนุ่มใช้เวลาหมดไปกับการท่องตำราต่างๆ หรือไม่ก็ขลุกอยู่แต่หอสมุดเพื่อหาความรู้ใหม่ๆ ด้านการแพทย์เสมอ บางครั้งถ้ากลับบ้านเร็วก็จะช่วยญาติที่มาตั้งรกรากทำกิจการร้านอาหารอยู่ที่นี่เป็นเวลาหลายปี ดูแลลูกค้าหรือไม่ก็เสริฟ์อาหารหรือแม้แต่ล้างจานภูชิตก็ทำได้หมด

ความรักของทั้งคู่เกิดขึ้นที่ร้านอาหารแห่งนี้ เมื่อวันหนึ่งหญิงสาวมาทานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนคนไทยในชั้นเรียนเดียวกันเมื่อต้นปีก่อน ครั้งแรกที่ได้พบหน้ากัน เหมือนรักแรกพบสำหรับภูชิตเลยก็ว่าได้เพราะมุกรินไม่เหมือนใครที่เคยเห็นมาก่อนเลยจริงๆ ใบหน้ารูปไข่ ปากนิดจมูกหน่อยทำให้หัวใจของคุณหมอหนุ่มแทบจะละลายลงในพริบตา

จากนั้นจึงหาโอกาสที่จะเข้าใกล้โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย โชคเข้าข้างภูชิตเมื่อรุ่นน้องที่คณะเป็นรุ่นพี่ของหญิงสาว ทั้งคู่จึงได้มีโอกาสสานสัมพันธ์กันผ่านทางรุ่นน้องคนนี้ ตั้งแต่นั้นมาและดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะเป็นไปด้วยดี เพราะชายหนุ่มใส่เกียร์เดินหน้าไม่มีถอย อาศัยความที่เป็นคนสุภาพและมีมารยาทไม่ทำอะไรรุ่มร่าม ทำให้สามารถพิชิตใจหญิงสาวได้สำเร็จโดยไม่ยาก

มุกรินเองก็ปลื้มชายหนุ่มอยู่เช่นกัน เพราะภูชิตแสดงออกชัดเจนจริงจังว่าสนใจในตัวเธอเพียงคนเดียว และที่สำคัญชายหนุ่มไม่มีท่าทีเจ้าชู้ไก้แจ้กับเธอในเวลาที่มีโอกาสอยู่กันเพียงลำพัง ทำให้วางใจที่จะไปไหนมาไหนได้อย่างสนิทใจ

เวลาผ่านไปครบปีภูชิตเรียนจบและจะต้องกลับเมืองไทยในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ชายหนุ่มจึงถือโอกาสนี้ถามความรู้สึกในใจของหญิงสาวที่มีต่อตนว่า

‘พี่ต้องกลับเมืองไทยแล้ว น้องมุกจะรอพี่ไหมคะ’ ภูชิตถามในขณะที่ไปเดินเล่นริมทะเลสาปแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก

‘พี่ภูจะกลับเมืองไทยอยู่แล้วจะมาสนใจอะไรกับมุก อีกหน่อยพอเจอสาวสวยที่โน่น ขี้คร้านจะลืมมุกไปเอง’ เธอยิ้มแต่ดวงตากลับเศร้าและก้มหน้าหลบสายตาเพื่อปิดบังความรู้สึกไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าตนคิดอย่างไร ภูชิตเชยคางมุกรินขึ้นมาให้สบสายตา แล้วพูดออกมาช้าๆ และชัดเจนว่า

‘พี่จะลืมมุกได้ยังไง ในเมื่อหัวใจของพี่อยู่กับมุกที่นี่’ ภูชิตบอกความนัยทางสายตาให้กับหญิงสาวได้รับรู้ความรู้สึกของตน

มุกรินตกใจเล็กน้อยที่ภูชิตกล้าพูดความในใจออกมา แต่ก็แอบยิ้มด้วยความดีใจเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มรู้สึกอย่างไรกับตน

‘อยู่แค่ที่เมืองนี้หรือคะ’ หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อยด้วยความเขินอายก่อนจะถาม

‘อยู่ทุกทีที่มีมุกรินคนนี้ล่ะค่ะ’

เวลาหนึ่งเดือนก่อนที่ภูชิตจะกลับเมืองไทย ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่า เรียกว่าเห็นภูชิตที่ไหนต้องเห็นมุกรินที่นั้น ตั้งแต่อาทิตย์ขึ้นยันอาทิตย์ตก จะห่างจากเธอต่อเมื่อเวลานอนเท่านั้น ที่เหลือต่อจากนั้นทั้งคู่จะไปในทุกทีที่อยากไป เพื่อเก็บเกี่ยวช่วงเวลาดีๆ ของกันและกันไว้ให้มากที่สุดแม้จะเหลือน้อยเต็มทีก็ตาม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel