บทที่ 2 เลขาฯ คนใหม่ [1]
วันนี้พริมารินทร์ตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปทำงานเป็นวันแรก หญิงสาวเดินลงมาที่ห้องทานอาหารทำเอาจิรัตน์กับวรรณที่นั่งทานอาหารเช้าอยู่ถึงกับงง
"ตื่นเช้าไปไหนเหรอลูก?"
จิรัตน์ถามลูกสาว พริมารินทร์ยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่มก่นจะตอบ
"ไปทำงานค่ะ"
"ทำงาน? หนูไปทำงานที่ไหน?"
"ก็ที่บริษัทเราน่ะสิคะคุณป๋า ถามได้"
เธอตอบก่อนจะตักโจ๊กที่แม่บ้านเอามาเสิร์ฟให้เข้าปาก พลางเปิดแท็บเล็ตทวนดูตารางงานของธันย์ที่เขาต้องทำในวันนี้
"ไปทำตำแหน่งอะไรล่ะเรา? ป๋าจำได้ว่าไม่ได้จัดตำแหน่งที่สำนักงานใหญ่ให้หนูนะ"
จิรัตน์บอก พริมารินทร์หันมามองผู้เป็นพ่อก่อนจะยิ้มให้บาง ๆ
"ตำแหน่งเลขาฯนาย - - เอ่อ...พี่ธันย์ค่ะ"
"เอ...แต่ตาธันย์ก็มีเลขาฯอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะคุณพริม?"
วรรณถามอย่างสงสัยทำเอาพริมารินทร์กรอกตา
แปลว่าไม่ได้รู้เลยใช่ไหมน่ะว่าลูกชายตัวเองมีเลขาฯแบบไหน และทำอะไรกับเลขาฯตัวเองบ้าง
"เพิ่งออกไปเมื่อวานค่ะ พริมก็เลยอาสาเป็นให้ชั่วคราว จะได้เรียนรู้งานจากเขาด้วย" พริมารินทร์บอกก่อนจะยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่มอีกครั้ง "พริมไปก่อนนะคะ เริ่มงานวันแรก ไม่อยากสาย"
หญิงสาวบอกก่อนจะเดินออกจากบ้านไป วรรณหันมามองหน้าจิรัตน์อย่างงง ๆ
"คุณพริมไปเป็นเลขาฯตาธันย์ นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะคุณ?"
วรรณถามอย่างสงสัย เพราะรู้ดีว่าสาวเจ้าไม่ชอบธันย์ตั้งแต่ที่จิรัตน์รับธันย์เป็นลูกบุญธรรม คอยหาทางกลั่นแกล้งธันย์สารพัด แต่วรรณก็ไม่เคยโกรธและก็คอยบอกไม่ให้ธันย์โกรธน้อง เพราะเข้าใจการแสดงออกของเธอที่สูญเสียแม่ และกลัวที่จะเสียความรักจากพ่อไปอีกคน
"ก็...เราอาจจะได้มีหลานมาอุ้มในไม่กี่เดือนนี้แล้วน่ะสิคุณ หึหึ"
จิรัตน์มองรถของลูกสาวที่ขับออกไปพลางหัวเราะชอบใจ
ถ้ามีหลานขึ้นมาจริง ๆ เขาจะต้องเป็นปู่หรือตากันล่ะเนี่ย แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว...
พริมารินทร์ขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นยี่สิบสามซึ่งเป็นชั้นของท่านประธาน หญิงสาวก้มมองนาฬิกาข้อมือ เข็มยาวชี้ที่เลขหกทำเอาพริมารินทร์ยิ้มอยู่ในใจ เธอมักจะทำอะไรก่อนเวลาเสมอตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เพราะสำหรับเธอนั้นการตรงต่อเวลาถือว่าสาย อย่างน้อยการเผื่อเวลาก็ทำให้เธออุ่นใจมากกว่า
ร่างบางในชุดเดรสทำงานสั้นสีขาวกับรองเท้าส้นสูงสีครีมเดินออกจากลิฟต์มุ่งหน้ามาที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นธันย์ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มพร้อมกับทรงผมที่เซ็ตอย่างดียืนกอดอกรออยู่ที่โต๊ะของเธอ
"ก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง สมกับเป็นน้องพริมจริง ๆ นะคะ"
ธันย์ยิ้ม พริมารินทร์มองหน้าเขาก่อนจะเดินอ้อมไปหลังโต๊ะ
"ก็ยังสายกว่าท่านประธานอยู่ดีนี่...คะ"
พริมารินทร์พูดเสียงแข็ง ลืมไปว่าวันนี้เธอมาในฐานะเลขาฯ เกือบหลุดด่าท่านประธานไปแล้วไหมล่ะ
"วันนี้ตารางงานพี่มีอะไรบ้างคะ?"
ธันย์หันมาถาม พริมารินทร์วางของลงบนโต๊ะก่อนจะหยิบแท็บเล็ตมาเปิดดู
"เก้าโมงครึ่งมีประชุมกับฝ่ายวางแผน สิบโมงครึ่งมีประชุมกับทีมพีอาร์ บ่ายโมงมีออกไปสำรวจคุณภาพที่สาขาสาทรต่อด้วยสีลม แล้วก็บ่ายสามมีประชุมทางไกลกับคุณเฉินจากสาขาที่ฮ่องกงค่ะ"
"ยกเลิกให้หมดเลย"
"คะ??"
พริมารินทร์ทวนคำเสียงหลง ให้ยกเลิกตารางงานเลยหรือ?
"ยกเลิกตารางพี่วันนี้ให้หมดแล้วส่งไปที่รองประธานแทน วันนี้เราจะไปสมุยกัน"
"ไปสมุย? ไปทำไม?"
พริมารินทร์ถามอย่างไม่เข้าใจ ธันย์หันมาหาเธอพลางเท้าโต๊ะแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้
"ข้อหนึ่ง เลขาฯต้องทำตามคำสั่งของท่านประธานทุกอย่างโดยไม่มีข้อข้องใจใด ๆ และข้อสอง เลขาฯที่ดีต้องพูดจาเพราะ ๆ กับท่านประธาน เข้าใจไหมคะ?"
ธันย์ยกมือขึ้นจับคางมนแต่หญิงสาวปัดได้ทัน คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ
นี่น่ะหรือประธานที่เก่งนักเก่งหนาของคุณป๋า เบี้ยวงานไปเที่ยวเนี่ยนะ? ถ้าเป็นเธอล่ะก็ไม่มีทางเป็นแบบอีตานี่แน่นอน
ดีล่ะ! เก็บหลักฐานไปฟ้องคุณป๋าดีกว่าว่าลูกเลี้ยงสุดที่รักของคุณป๋าทั้งบ้ากามพาเลขาฯเข้าไปเล่นจ้ำจี้ในห้อง แถมยังโดดงานไปเที่ยวสมุยอีกด้วย เผลอ ๆ นายธันย์ก็จะถูกปลดจากการเป็นประธานเองโดยที่เธอไม่ต้องแต่งงานกับเขาด้วยซ้ำ
ฉลาดจริง ๆ เลยเรา
"แล้วจะให้ดิฉัน จองตั๋วเครื่องบินให้ด้วยไหมคะ?"
พริมารินทร์ฉีกยิ้มตาแข็งใส่ ธันย์อมยิ้มก่อนจะส่ายหน้า
"พี่ให้คนจัดการให้เรียบร้อยแล้วค่ะ เรารีบไปกันดีกว่า เดี๋ยวไม่ทัน"
ธันย์บอกก่อนจะผายมือเป็นเชิงเชื้อเชิญ หญิงสาวคว้ากระเป๋ามาสะพายก่อนจะเดินนำไปอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
ฉันจะต้องมาเป็นประธานแทนประธานสุดห่วยอย่างนายให้ได้เลยคอยดูสิ!
