บท
ตั้งค่า

5 สุมไฟทิ้งท้าย

เห็นสายตาคลุมเครืออย่างมีเลศนัยส่งมาให้ ก็ทำให้คนถูกถามกลับอดกรีดร้องในใจออกมาไม่ได้

อร๊าย เขาคุยอะไรกันน่ะ เขินชะมัด

หญิงสาวคิดในใจอย่างขัดเขิน เนื่องจากท่าทางของทั้งสองคนมันดูคลุมเคลือจนอดคิดดีๆ ไม่ได้เลยจริงๆ

ส่วนเจียซื่อ เมื่อเห็นท่าทางขัดเขินจากหญิงตรงหน้า ก็ยักคิ้วข้างหนึ่งใส่อีกฝ่าย แล้วเดินจากมาอย่างอารมณ์ดีมากกว่าเดิม ที่ได้เพิ่มเชื้อไฟความคลุมเคลือทิ้งท้ายให้คนฟังได้จิตนาการต่อไปอีก

ให้ตายสิ สาววายพวกนี้ แค่นี้ก็กรี๊ดกร๊าดหน้าแดงกันซะแล้ว ไม่รู้ว่าคิดไปถึงไหนต่อไหนกัน เฮ้อ…

เจียซื่อเอ่ยกับตัวเองในใจอย่างขำขัน ทั้งส่ายหัวให้สาววายที่จากมาด้วยความทอดถอนใจด้วย ที่อีกฝ่ายช่างจินตนาการเป็นเลิศจริงๆ

และเมื่อกลับเข้ามาในห้องทำงานของตัวเองแล้ว เจียซื่อก็มาหยิบกระเป๋าถือของตนเดินออกจากห้อง ออกจากตึกสูงใหญ่ ไปยังบริษัทวิจัยที่อยู่ห่างไกลจนเกือบจะถึงชานเมืองทันที

ขับรถตามแผนที่มานานพักใหญ่ ก็มาถึงบริษัทวิจัยที่ว่า

“ที่นี่เหรอวะ” เจียซื่อพึมพำอย่างไม่แน่ใจ ขณะก้มมองซุ้มไม้เลื้อยซึ่งกำลังออกดอกสีแดงแซมขาวขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือประตูทางเข้า โดยที่ใต้ซุ้มก็มีป้ายไม้แกะสลักสมปรารถนาไม่เล็กไม่ใหญ่ห้อยเอาไว้ และด้านข้างก็มีรั้วไม้สูงเรียงรายเป็นแนวยาวปักกั้นอาณาเขตไว้อีกต่างหาก จึงรู้สึกว่าเหมือนตัวเองมาไม่ถูกที่อย่างไรอย่างนั้น

เนื่องจากสภาพตรงหน้านี้ดูไม่เหมือนบริษัทวิจัยเลยสักนิด แต่กลับเหมือนทางเข้าสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนสักแห่งมากกว่า เลยอดที่จะก้มหน้ามองแผนที่ในมือถือให้แน่ใจอีกครั้งไม่ได้ จนกระทั่งเห็นว่าตัวเองมาไม่ผิดจริงๆ เจียซื่อจึงเลี้ยวรถเข้าไปไม่รอช้า

ทันทีที่เลี้ยวรถเข้ามา ชายหนุ่มก็เห็นแปลงต้นไม้เล็กๆ ที่คาดว่าน่าจะเป็นต้นสมุนไพรสีม่วง แดง ดำผืนใหญ่ ปลูกทอดยาวเรียงรายไปยังอาคารสีขาวสองชั้น รูปแบบเรียบง่าย ขนาดพอประมาณหลังหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล โดยที่ด้านหลังแปลงสมุนไพร ก็มีโรงเรือนกระจกใสตั้งอยู่ไกลๆ สี่หลัง จึงลดกระจกลง สูดเอาอากาศบริสุทธิ์สดชื่นเข้าปอดไปเฮือกใหญ่ ด้วยความพึงพอใจ เพราะสถานที่แห่งนี้ ไม่มีผู้คนพลุกพล่านวุ่นวายเหมือนตึกสูงใหญ่ที่จากมา

ขับรถช้าๆ สูดอากาศบริสุทธิ์มาถึงอาคารสองชั้น เจียซื่อก็เห็นว่ามีชายสูงวัยเดินออกจากอาคารมายืนต้อนรับอยู่ข้างๆ จึงเปิดประตูรถลงไปหา

“สวัสดีครับที่ปรึกษากัว ผมป๋อเหยียนเป็นผู้ดูแลที่นี่ครับ” ชายสูงวัยเอ่ยต้อนรับคนของท่านประธานใหญ่อย่างนอบน้อม

หลังเห็นรถไม่คุ้นตาวิ่งเข้ามาจอดหน้าอาคาร เขาจึงรีบออกมาต้อนรับ ด้วยว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีใครมากล้ำกรายนานแล้ว เลยคิดว่าต้องเป็นบุคคลสำคัญมาตรวจดูงานที่ไม่มีความคืบหน้าเป็นแน่ และก็ใช่จริงๆ เพราะชายหนุ่มตรงหน้าเป็นคนของท่านประธานใหญ่ที่ออกข่าวด้วยกันบ่อยๆ นั่นเอง

“ตามสบายเถอะครับ เรียกผมว่าเจียซื่อก็ได้ ผมได้รับมอบหมายจากท่านประธานให้มาตรวจสอบถึงความคืบหน้าของการผลิตยาสมปรารถนาน่ะครับ” เจียซื่อแจ้งจุดประสงค์ของการมาของตัวเองให้ชายสูงวัยรับรู้อย่างนอบน้อมด้วยเช่นกัน เพราะอย่างไรอีกฝ่ายก็ทำงานมานานและยังมีอายุมากกว่าตัวเองอีก จึงแสดงความอ่อนน้อมออกมาให้เห็น

“ครับ อย่างที่รู้ว่ากว่าเราจะจำแนกและรวบรวมสมุนไพรที่ใช้ทำยาสมปรารถนาได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร อีกทั้งพอรวบรวมได้แล้วก็ต้องมาปลูกและขยายพันธุ์สมุนไพรเหล่านี้ ให้เพียงพอกับการคิดค้นทดลอง และต้องลองผิดลองถูกกันอีกหลายขั้นตอน จึงทำให้ไม่มีความคืบหน้ามาจนถึงตอนนี้ล่ะครับ” ชายสูงวัยรายงานไปตามจริง พร้อมกับผายมือเชื้อเชิญอีกฝ่ายเข้าไปในห้องรับรองแขกที่อยู่ด้านหลัง

“ครับ” เจียซื่อตอบรับอย่างเข้าใจ ว่าทำไมการผลิตคิดค้นถึงไม่มีความคืบหน้า ด้วยว่ายานี้มีอายุมากกว่าพันปีมาแล้วนั่นเอง ก่อนจะเดินตามชายสูงวัยเข้าไปพักด้านในตามที่ถูกเชิญ

ระหว่างที่นั่งพักจิบชาให้หายเหนื่อยจากการเดินทาง ผู้อำนวยการสูงวัยก็เล่าแผนผังของที่นี่ให้ฟังอย่างคร่าวๆ ว่าสถานที่แห่งนี้อะไรอยู่ตรงไหนยังไงบ้าง

โดยเริ่มจากอาคารสองชั้นหลังนี้ ที่ด้านบนเป็นห้องทดลองและเก็บสมุนไพร ส่วนชั้นล่างจะเป็นห้องรับแขกแห่งนี้และห้องปรุงยาของหมอยาพื้นบ้าน รอบๆ อาคารจะเป็นแปลงสมุนไพรอย่างที่เห็น แล้วก็ส่วนด้านหลังจะเป็นที่พักของเหล่าคนงานสิบกว่าคนภายในนี้

หลังเห็นว่าผู้มาเยือนหายเหนื่อยแล้ว ผู้สูงวัยจึงพาชายหนุ่มเข้าไปดูการปรุงยาที่อยู่ในห้องถัดไปทันทีอย่างไม่ให้เสียเวลามากไปกว่านี้

ภายในห้องปรุงยากว้างขวางครอบคลุมพื้นที่สามในสี่ของชั้น มีหน้าต่างบานใหญ่เปิดไว้ระบายอากาศหลายบาน

และภายในห้องจะแบ่งเป็นล็อกๆ ขนาดพอประมาณ ตามจำนวนหมอยา พื้นที่ตรงกลางจะเป็นชุดเก้าอี้โต๊ะกลมตัวใหญ่ตั้งไว้ให้ผู้ที่ทำงานในห้องนี้นั่งปรึกษาหารือกัน

เมื่อเข้ามาในห้องปรุงยา เจียซื่อก็เห็นว่าผู้ที่อยู่ภายในห้อง กำลังนั่งหน้าเครียดกันอยู่ที่โต๊ะตรงกลางห้อง ก่อนที่ชายสูงวัยข้างตัวจะกระแอมไอเรียกคนงานวัยเดียวกันที่กำลังครุ่นคิดเคร่งเครียดอยู่ให้หันมาทางตัวเอง เพื่อแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับคนของท่านประธานใหญ่ เป็นอย่างนี้ผู้สูงวัยทั้งหลายจึงลุกขึ้นยืนต้อนรับผู้มาเยือน

“ทุกคน คนนี้คือคุณเจียซื่อ เป็นคนสนิทของท่านประธานใหญ่ของพวกเรา คุณเขามาเพื่อติดตามดูความคืบหน้าของการผลิตยาสมปรารถนา ส่วนทุกคนที่อยู่ตรงนี้ก็คือหมอยาพื้นบ้านที่พวกเรารวบรวมมาได้ครับ คนนี้ตาแก่หลี่ หลี่ปิงเฉิง หลิวจือหลิน เซียวฟูจู่ เสิ่นหยาง จางหลง สวี่ซู่เหยียนครับ” ผู้อำนวยการสูงวัยแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน

แนะนำจบ ชายสูงวัยผอมแห้ง ทว่ายังแข็งแรงดีทั้งหลายก็พากันทักทายผู้มาเยือน

“สวัสดีครับ คุณเจียซื่อ”

“สวัสดีครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” เจียซื่อตอบกลับ แล้วค้อมตัวให้อย่างอ่อนน้อม

“ไอหย๋า มีแต่พวกเราสิครับต้องฝากเนื้อฝากตัวกับคุณ อย่าปิดที่แห่งนี้เลยนะครับ” ตาแก่เซียวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเจียซื่อเอ่ย เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ไม่มีคนมาติดตามความคืบหน้านานแล้ว จึงรู้สึกหวั่นใจว่าจะถูกยุบไปอยู่ไม่น้อย

“ก็คงต้องตามผลงานล่ะครับ” เจียซื่อบอกไปตามจริง เพราะเงินทุนที่นำมาลงตรงนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ คิดรวมเป็นตัวเลขแล้วคงจะซื้อตึกใหญ่ใจกลางเมืองได้หลายตึก

“แต่พวกเราก็พยายามกันมากแล้วนะครับ” หลี่ปิงเฉิงแย้งอย่างเศร้าหมอง เพราะทุกวันพวกเขาก็พยายามคิดค้นหาสูตรและทดลองกันอย่างเต็มที่แล้ว ด้วยอยากจะเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนร่วมในยาวิเศษขนานนี้

“แต่มันยังไม่มากพอ จนประสบผลสำเร็จนี่ครับ” เจียซื่อบอกอย่างเห็นใจ แต่ถ้าไม่ประสบผลสำเร็จ เขาก็ไม่อยากจะเก็บเอาไว้ให้สิ้นเปลือง

และเมื่อพูดจบ เจียซื่อก็เห็นว่าหมอยาสูงวัยตรงหน้าพากันหน้าถอดสีกันไปหมด จึงเอ่ยปลอบ “แต่ไม่ใช่ว่าจะปิดวันนี้พรุ่งนี้หรอกนะครับ ถ้ายังไงเรามาลองพยายามกันอีกสักตั้งนะครับ”

“ครับ” เหล่าหมอยาพื้นบ้านขานรับอย่างแข็งขัน ก่อนจะแยกย้ายกันเข้าห้องไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างตั้งใจ

เห็นดังนี้เจียซื่อจึงถอนหายใจออกมา ด้วยเข้าใจดีว่าทุกคนรู้สึกอย่างไร เนื่องจากทุกคนอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ดังนั้นคงจะรู้สึกผูกพันอยู่ไม่น้อย ทว่าธุรกิจก็คือธุรกิจ ถ้ามันไม่สำเร็จผลเขาก็คงไม่สนับสนุนให้ดึงดันต่อ

และเมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าไปทำงานของตัวเองอย่างแข็งขันแล้ว เจียซื่อก็เดินตรวจตราดูแต่ละล็อกด้วยความสนใจ และก็เห็นว่าในแต่ละล็อกจะมีถาดสมุนไพรตากแห้งวางอยู่บนชั้นวางของติดผนังทั้งสองฝั่งหลายชนิด ตรงกลางก็จะเป็นแคร่อันเล็กไว้ให้นั่งปรุงยา บดยาด้วย ส่วนด้านที่ติดหน้าต่างจะมีชุดหม้อและเตาดินเผาอันเล็กตั้งเรียงรายอยู่สี่ชุด

เห็นดังนี้คนสำรวจก็อดหันมาพูดกับคนที่เดินตามอยู่ด้านหลังด้วยความขำขันไม่ได้ “ถ้าเกิดว่าเราเปลี่ยนมาใส่ชุดโบราณอย่างที่ในหนังในละครเขาใส่กัน คงจะเข้ากับบรรยากาศมากเลยนะครับ”

เนื่องจากว่าการทดลองทำยาสมปรารถนานั้น ใช้วิธีแบบโบราณเหมือนอย่างที่ในหนังในละครทำกันไม่มีผิดเพี้ยน เจียซื่อจึงคิดว่าถ้าเปลี่ยนเครื่องแต่งกายสีขาวสะอาดแบบนักวิทยาศาตร์ที่หมอยาสูงวัยสวมใส่อยู่ตอนนี้ ไปเป็นแบบที่ละครย้อนยุคใส่ ก็คงจะได้อารมณ์สำนักปรุงยา หรือหมอยาเป็นแน่

“ผมก็ว่าอย่างนั้นล่ะครับ” ผู้อำนวยการสูงวัยซึ่งเดินตามให้คำอธิบายขั้นตอนการปรุงยาแก่ชายหนุ่มฟังตอบรับ ทั้งหัวเราะตามด้วยความขบขัน ที่อีกฝ่ายเองก็คิดเหมือนกันกับตน ด้วยว่ายาที่คิดค้นนั้นตกทอดมามากกว่าพันปีแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีการปรุงแบบโบราณอย่างนี้

หลังจากปล่อยให้หนุ่มหน้าหวานดูการทำงานของหมอยาสูงวัยจนพอใจแล้ว ป๋อเหยียนก็พาอีกฝ่ายออกมาดูแปลงสมุนไพรที่อยู่รอบๆ อาคาร และโรงเรือนทั้งสี่ ไม่มีตกหล่นเลยสักแห่ง

และเมื่อดูด้านหน้าครบทุกจุดแล้ว ผู้อำนวยการสูงวัยก็พาชายหนุ่มไปชมด้านหลัง ซึ่งเป็นส่วนที่พักของพนักงานต่อ

เนื่องจากสถานที่แห่งนี้อยู่ไกลจากตัวเมืองสักหน่อย ดังนั้นท่านประธานคนเก่า จึงได้สร้างหอพักไว้ให้พนักงานได้อาศัย เพื่อความสะดวกสบายในการทำงาน เพราะอย่างไรในส่วนการผลิตและคิดค้นยาก็มีแต่คนสูงวัยกันทั้งนั้น ซึ่งหอพักแห่งนี้ใครสมัครใจอยู่ก็สามารถอยู่ได้เลย ไม่มีปัญหา ทุกห้องทุกหลังล้วนมีของใช้ให้ครบครัน ส่วนอาหารนั้นต้องสั่งหรือออกไปซื้อเองที่ด้านนอก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel