คุณพ่อเลี้ยงคะ ตอนที่ 3
ณ ตลาดในอำเภอ
"นี่ๆๆ ปิ่น! ตัวนี้เลยตัวนี้!"
"ไหน โห...เปิดเยอะไป พ่อเลี้ยงดุแน่ๆ" เฌอรดารีบปล่อยเสื้อครอปเปิดไหล่สีชมพูลายดอกออกจากมือคืนเพื่อนเมื่อประเมินดูแล้วว่ามันไม่น่าจะผ่าน
เช้านี้เฌอรดาได้โทรนัดเพื่อนสนิทออกมาเดินเที่ยวตลาดนัดตอนเช้าในตัวอำเภอ ซึ่งจุดประสงค์ก็คือการซื้อเสื้อผ้าที่ใส่แล้วจะดูโตเป็นสาวขึ้น เนื่องจากเฌอรดาคิดว่าการที่เธอใส่อะไรเดิมๆ ทำให้ภาสกรยังมองว่าเธอเป็นเด็ก เลยอาจคิดอะไรด้วยไม่ลง ก็เลยต้องตามเพื่อนสนิทอย่าง ภาริสา ให้มาช่วยแก้ไขสถานการณ์
"ถ้าแกยังมัวแต่กลัวพ่อเลี้ยงดุอยู่แบบนี้ ชาตินี้แกก็ไม่ได้สวยแซบเท่าคุณปัทมาหรอกยัยปิ่น!" ริสาเท้าเอวเตือนเพื่อนที่เอาแต่เกรงใจผู้ปกครอง แน่นอนว่าเรื่องของเฌอรดาเธอรู้ดีหมดทุกอย่าง ก็เป็นเพื่อนสนิทกันจะไม่รู้ได้อย่างไร
"งั้น...ตามใจแก เอาไว้เริ่มใส่ตอนไปอยู่มหาลัยก็แล้วกัน" เฌอรดาพยักเพยิดหน้าให้เพื่อนอย่างตามใจ ซื้อวันนี้ไม่ได้แปลว่าจะต้องใส่พรุ่งนี้สักหน่อย ไว้เข้ามหาวิทยาลัยแล้วมีงานสังคมค่อยเลือกใส่ไป อย่างน้อยก็ต้องหลิ่วตาตามสังคมในเมืองบ้าง
"โอเค เรื่องนี้ฉันยอมแก แต่มีอีกเรื่องนึงที่แกจะรอตอนไปอยู่มหาลัยไม่ได้!"
"อะไรเหรอ?" คิ้วเรียวสวยขมวดให้เพื่อนสนิทที่เดินนำเธอไปยังล็อคชุดนอน ก่อนจะต้องเบิกตาโพลงให้กับชุดนอนที่เพื่อนเลือกหยิบออกมา
"ชุดนอนไม่ได้นอนจ้า! แกต้องใส่ไปอ่อยพ่อเลี้ยง หาโอกาสใส่ชุดนี้แล้วไปห้องเขา ขืนแกมัวแต่เคอะเขินโดนคุณปัทมาคาบไปรับประทานแน่ค่ะ!"
"ฉันต้องใส่ชุดนี้จริงเหรอ?" เฌอรดาทำหน้าแหยพลางจีบชายกระโปรงชุดนอนสายเดี่ยวสีแดงกุหลาบขึ้นมาดู เนื้อผ้าบางจนเห็นทะลุปรุโปร่ง แถมยังสั้นชนิดที่ก้มนิดเดียวอะไรต่อมิอะไรก็โผล่ออกมาให้เห็นแล้ว
"ต้องใส่ค่ะ! ส่วนวิธีการยั่วกับบทรักเร่าร้อนบนเตียงแกก็ไปหาดูในเน็ตเอาเองก็แล้วกัน ขืนให้ฉันดูเป็นเพื่อนแกมีหวังได้เขินตัวบิดไม่ต้องเป็นอันเรียนรู้กันพอดี"
เพี๊ยะ!
"ริสา!! เบาๆ สิ!" เฌอรดาฟาดปลายมือเข้าที่ไหล่เพื่อนไม่แรงมากนักเมื่อริสาพูดประโยคนั้นออกมาโดยไม่ลดเสียงลงเลย โชคดีที่คนเดินผ่านไปผ่านมาไม่ได้หันมาสนใจ
"โอเคๆ ฉันก็ลืม มัวแต่ชงแกให้พ่อเลี้ยงเนี่ย.." ริสาผ่อนระดับเสียงลงพลางมองซ้ายมองขวา ก็เธอมัวแต่เข้มงวดกับเฌอรดาจริงๆ นี่นา กลัวเพื่อนจะไม่สมหวังเพราะมัวชักช้าลีลาอยู่นั่น ผู้ชายหล่อๆ รวยๆ เสน่ห์เกินต้านทานอย่างพ่อเลี้ยงภาสกรไม่ได้หาง่ายๆ นะ เห็นแก่ความรักเดียวใจเดียวของเพื่อนที่มีต่อผู้ชายคนนั้นมานานหลายปีด้วย ถ้าต้องผิดหวังโดยที่ไม่พยายามมันก็น่าเสียดาย
"ก็ได้ งั้น...เลือกให้ฉันหน่อยนะ ให้ฉันเลือกเองคงไม่ได้เรื่อง" เฌอรดายอมโอนอ่อนผ่อนตามแผนการของเพื่อนอีกครั้ง ก็อย่างที่ริสาว่า ขืนชักช้าเดี๋ยวยัยป้าท่าเยอะก็คาบพ่อเลี้ยงไปรับประทานเอาเสียหรอก รายนั้นยิ่งไม่หมดไฟง่ายๆ ด้วย มาแต่ละทีขนฟืนมาเติมจนไฟลุกโชนตลอด
"จัดไป! เชื่อมือฉันได้เลย"
แล้วริสาก็ช่วยเฌอรดาเลือกเสื้อผ้า ทั้งชุดใส่เที่ยว ใส่เล่น แล้วก็ใส่นอน เรียกได้ว่าตั้งใจเปลี่ยนลุคเพื่อนสนิทให้เป็นสาวแซบเลยทีเดียว
หลังจากซื้อเสื้อผ้าเสร็จ สองสาวก็พากันเดินเที่ยวตลาด กินนู่นกินนี่ โดยที่ทั้งคู่ไม่ลืมที่จะซื้อของติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้าน
11:20 น.
"กลับมาแล้วค่าป้าน้อย!"
"มาแล้วเหรอหนูปิ่น? แหม...รู้ดีจริงๆ นะว่าควรกลับเวลาไหน" ป้าน้อยแซวเด็กสาวที่กลับบ้านมาในตอนที่เจ้าของบ้านออกไปทำงาน สงสัยจะกลัวโดนดุที่เมื่อเช้าออกไปไม่ยอมแจ้งพ่อเลี้ยงก่อน
"ต้องรู้สิป้าน้อย ขืนเจอพ่อเลี้ยงตอนนี้ก็โดนดุเอานะสิจ๊ะ นี่! ปิ่นซื้อก๋วยเตี๋ยวไก่มะระเจ้าดังมาฝาก มีขนมด้วยนะ ซื้อมาเผื่อพี่หยกด้วย" เด็กสาวยิ้มแป้นอย่างภูมิใจยามที่ชูของกินเต็มไม้เต็มมือให้ป้าน้อยดู ก่อนจะวางไว้บนโต๊ะไม้ในครัวที่เอาไว้วางวัตถุดิบปรุงอาหาร
"พูดถึงนังหยกนี่ก็หายหัวไปเลยนะ ใช้ให้ไปเก็บมะนาวในสวนข้างบ้านนี่เอง" ป้าน้อยเท้าเอวบ่นหลานสาวที่เอามาทำงานอยู่ในบ้านสวนอมรคีรินทร์ด้วยกัน เอาเข้ามาได้ไม่กี่วัน ก็ได้ลูกตาหนั่นเป็นผัวเสียแล้ว ซึ่งตาหนั่นที่ว่าก็เป็นหัวหน้าคนงานในสวนนี่แหละ ไม่ใช่ว่าแอบออกไปหาผัวอีกรึ
"ให้ปิ่นไปดูให้ไหมจ้ะ?"
"โอ๊ยไม่ต้องๆ หนูปิ่น ดูสถานการณ์แล้ว มันคงถ่อไปหาไอ้ดินในสวนมังคุดโน่นแหละ!"
"งั้นเดี๋ยวปิ่นไปเก็บมะนาวให้จ่ะ"
"ไม่เอาๆ หนูปิ่น..." ป้าน้อยโบกไม้โบกมือห้ามเด็กสาวที่กำลังจะถอดกระเป๋าสะพายข้าง "...หนูไปพักผ่อนอ่านหนังสือเถอะ เดี๋ยวตอนบ่ายก็ต้องไปเตนท์หน้าสวนอีก มันหายหัวไปไม่นานหรอกนังหยกน่ะ"
"เอางั้นก็ได้จ่ะ งั้นถ้าป้าน้อยมีอะไรตะโกนเรียกปิ่นได้เลยนะจ้ะ"
"จ้าลูก ไปเถอะๆ"
เฌอรดาเดินออกจากห้องครัว แล้วขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของตัวเองทันที
เมื่อเอาถุงเสื้อผ้าและข้าวของส่วนตัววางไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็กระโดดขึ้นเตียงนอน หยิบไอแพดที่ชาร์จแบตทิ้งไว้ขึ้นมา ก่อนจะดึงสายชาร์จออกแล้วเปิดอินเทอร์เน็ตเสิร์ชหาหนังผู้ใหญ่ดูตามคำแนะนำของเพื่อนสนิท
ฟึบ!
"โอ๊ยย~" เฌอรดาคว่ำหน้าไอแพดลงกับที่นอนพลางเอามือทาบไว้ที่อกข้างซ้ายอย่างต้องการระงับอารมณ์ความเขินอายที่เกิดขึ้นภายในใจ หญิงสาวพึ่งดูฉากที่พระเอกกำลังเล้าโลมนางเอกได้แค่ห้านาทีเท่านั้น จู่ๆ ใบหน้าก็ร้อนเห่อขึ้นมา เลยต้องกดหยุดคลิปแล้ววางไอแพดลง ตอนนี้พวงแก้มใสขึ้นสีแดงเปล่งปลั่งลามไปจนถึงใบหู คิดภาพไม่ออกเลยว่าถ้าตัวเองถูกพ่อเลี้ยงทำแบบนี้เธอจะรู้สึกยังไง
เมื่อทำใจได้สักพัก หญิงสาวก็หยิบไอแพดขึ้นมากดดูคลิปต่อ เธอฝืนดูจนจบและเปิดคลิปอันใหม่ขึ้นมาดูเรื่อยๆ พยายามจดจำสิ่งที่นางเอกทำให้พระเอก เพราะหวังจะเอาไปใช้กับพ่อเลี้ยงบ้าง เห็นพระเอกในคลิปดูชอบมากเวลาที่นางเอกใช้ปากกับส่วนตรงนั้น ไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงเองจะชอบเหมือนกันหรือเปล่า
หลังจากเรียนรู้ท่วงท่าจากหนังผู้ใหญ่ไปประมาณสองชั่วโมง หญิงสาวก็ผล็อยหลับไปคาคลิปที่ยังเปิดค้างอยู่ จนคลิปมันเล่นจบถึงได้หยุดไปเอง กระทั่งเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนสี่โมงเย็น และพบว่ามันเลยเวลาไปเตนท์มาหนึ่งชั่วโมงแล้ว ร่างบางจึงผุดลุกขึ้นไปล้างหน้า ก่อนจะรีบลงไปจากห้องแล้วปั่นจักรยานไปหน้าเตนท์อย่างเร่งรีบ
19:30 น.
มื้อเย็นวันนี้เริ่มที่หนึ่งทุ่มครึ่งพอดีเนื่องจากพ่อเลี้ยงภาสกรพึ่งเสร็จงานจากในสวนมา มื้อเย็นของที่นี่จะไม่มีเวลาตายตัว อิงจากความสะดวกของเจ้าของบ้านล้วนๆ ว่าจะเสร็จงานตอนไหน
"พรุ่งนี้สั่งคนไปเอาปุ๋ยเร็วกว่าเวลาเดิมสองชั่วโมงนะ เถ้าแก่เขาไม่ได้เปิดร้านแต่จะเปิดให้เราเข้าไปเอาปุ๋ยก่อน"
"ครับคุณคินน์" ภูมิพัฒน์พยักหน้ารับคำสั่งจากเจ้านาย ก่อนจะรับบิลค่าปุ๋ยที่ภาสกรยื่นมาให้แล้วออกไปจากตรงนั้นทันที
"เมื่อเช้าออกไปไหนมาหนูปิ่น?"
".....!" มือบางที่กำลังตักแกงในถ้วยใส่ชามหยุดชะงักทันทีที่ได้ยินเจ้าบ้านถามเสียงเข้ม ใบหน้าสวยเงยมองคนถามก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังตักข้าวเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนที่ดวงตาคมจะปราบมองมาเพื่อเอาคำตอบที่พึ่งถามไปเมื่อครู่ "...เอ่อ ปิ่นไปเดินตลาดกับริสามาค่ะ"
"ก็แค่เดินตลาด เลิ่กลั่กทำไม?"
".....!" นี่เธอทำตัวมีพิรุธเหรอ? "..ปิ่นเปล่าสักหน่อย ก็พ่อเลี้ยงทำเหมือนจะดุปิ่นนี่นา"
"แน่ใจว่าไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีมา?" ภาสกรยังคงถามต่อพลางตักข้าวกิน การถามนู่นถามนี่ของเขาถือเป็นเรื่องปกติบนโต๊ะอาหาร แต่เด็กสาวที่ทำหน้าตาตื่นตรงหน้านั่นแหละที่ทำตัวไม่ปกติ
"พะ..พ่อเลี้ยงจะหาเรื่องหักค่าขนมปิ่นเหรอคะ?" จะไม่ให้เธอเลิ่กลั่กมีพิรุธได้ไง ก็ภาพพระเอกหนังผู้ใหญ่ที่เธอดูเมื่อตอนบ่ายมันวนเวียนอยู่ภายในหัวตลอดเวลา พอมองหน้าพ่อเลี้ยงมันก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงร่างกายใต้ร่มผ้าของเขาว่าจะมีลักษณะแบบไหน
ให้ตายเถอะยัยปิ่น...หน้าตาร้อนผ่าวหมดแล้ว!
"ทำไมหน้าแดงแบบนั้นหนูปิ่น! ไม่สบายเหรอ?"
