คุณพ่อเลี้ยงคะ ตอนที่ 2
เป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงที่เฌอรดาต้องทนฟังยัยป้าท่าเยอะสาธยายเกี่ยวกับความสัมพันธ์เก่าๆ ของรุ่นพ่อรุ่นแม่บนโต๊ะอาหาร ทั้งๆ ที่พ่อเลี้ยงก็ไม่ได้มีท่าทีอยากจะคุยกับหล่อนหรือว่าสนใจเรือนร่างอันเย้ายวนที่หล่อนพยายามเปิดเผยให้เขาดูเลยสักนิด แต่ปัทมาก็ยังพยายามไม่เลิก โดนเมินไปก็หลายทีแต่เจ้าหล่อนก็ยังไม่ยอมแพ้หาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคุย สุดท้ายก็โดนเชิญกลับไปเหมือนทุกครั้ง แต่เชื่อเถอะว่าหล่อนไม่มีทางล้มเลิกเรื่องพ่อเลี้ยงแน่ๆ
20:30 น.
ก๊อกๆ ๆ ๆ
"เข้ามา"
แอร๊ด~
"พ่อเลี้ยงยังไม่นอนเหรอคะ?" เสียงเจื้อยแจ้วสดใสถามขึ้นขณะที่ชะโงกหัวผ่านประตูเข้าไปดูด้านในก่อน ซึ่งก็เห็นว่าพ่อเลี้ยงกำลังสวมเสื้อลำลองสีเทาอยู่พอดี
"นอนแล้วฉันจะอนุญาตให้เธอเข้ามาเหรอ?" ครั้นสวมเสื้อเสร็จชายหนุ่มก็เดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานเล็กๆ ริมหน้าต่างเพื่อนับเงินสดอีกครั้ง
ส่วนหญิงสาวตอนนี้เดินหน้ายู่เข้ามานั่งที่ขอบเตียงนอนของคนแก่กว่าหันหน้าไปทางที่เจ้าของห้องนั่งอยู่
เฌอรดาค่อนข้างจะสนิทสนมกับภาสกรอยู่มาก เนื่องจากสมัยตอนที่รับหญิงสาวมาอยู่ด้วยใหม่ๆ พ่อเลี้ยงค่อนข้างตามใจและพาไปไหนด้วยตลอด เพราะสงสารที่เด็กสาวไม่เหลือใคร เขาเลยต้องทำตัวเป็นที่พึ่งพิงสุดท้ายให้เธอเพื่อตอบแทนที่ มรุนัย หรือ อานัย ช่วยชีวิตไว้ในวันนั้น จนทำให้ตัวเองต้องมาจบชีวิตแทน
"พ่อเลี้ยง...ชอบคุณปัทหรือเปล่าคะ?" เฌอรดาเลียบเคียงถาม แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าภาสกรไม่ได้สนใจสาวอายุเยอะคนนั้น แต่เธอก็อดห่วงไม่ได้จริงๆ
"ถามทำไม? ไม่ใช่เรื่องของเด็กเลยนะ" คนตอบไม่ได้หันมามองคนถามเพราะมันไม่ใช่เรื่องสำคัญขนาดที่จะต้องหันมาตาต่อตาฟันต่อฟัน
"ปิ่นไม่เด็กแล้วนะคะ! อีกไม่กี่เดือนก็จะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว อายุก็สิบแปดแล้วด้วย" เด็กสาวเถียงกลับเสียงแหลม เธอไม่ชอบเอามากๆ เลยที่พ่อเลี้ยงยังมองเธอเป็นเพียงแค่เด็กไม่รู้ประสา
"ก็รู้หนิว่าตัวเองไม่เด็กแล้ว แล้วทำไมถึงยังแต่งตัวแบบนี้? คนงานชายในสวนเยอะแยะ จะรู้จักกันมานานแค่ไหนพวกเขาก็เป็นผู้ชาย ไว้ใจใครไม่ได้เข้าใจไหม?" คราวนี้ภาสกรถึงกับต้องหันไปดุเด็กสาวในปกครองอย่างจริงจัง ดูเจ้าหล่อนสิ ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยืดรัดรูปจนคนเห็นจินตนาการได้ไปถึงไหนต่อไหน ไม่ได้ระวังเนื้อระวังตัวเลยสักนิดเดียว
"ก็ไม่เท่าคุณปัทมาสักหน่อย!" เธอย้อนเถียงหน้าเลิดหน้าลอย ดื้อตาปริบๆ จนทำเอาภาสกรอยากจะหยิบไม้แขวนเสื้อขึ้นมาตีให้น่องลาย
"ไม่ต้องไปเปรียบคนอื่น! ฉันพูดก็หัดฟังบ้าง ไม่ใช่เถียงอย่างเดียว"
"ใช่สิ๊! ปิ่นไม่สวยไม่น่ามองเหมือนคุณปัทมาหนิ พ่อเลี้ยงถึงจะได้ชอบ ปิ่นทำอะไรก็ไม่น่ารักทั้งนั้นแหละ!" เด็กสาวลุกขึ้นยืนระบายความในใจอย่างตัดพ้อให้คนแก่กว่าฟัง พักหลังๆ มานี้เธอมักจะถูกพ่อเลี้ยงดุเอาบ่อยๆ เวลาที่พยายามจะเอาอกเอาใจเขา ดูเหมือนทำอะไรก็ไม่เข้าตาเหมือนแต่ก่อน
"หนูปิ่น!"
"ทำไมคะ หรือที่ปิ่นพูดมันไม่จริง? ทีคุณปัทมาแต่งตัวมายั่วพ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงไม่เห็นว่าเธอสักคำ ทีกับปิ่นแต่งตัวธรรมดาแค่เนี๊ยแต่พ่อเลี้ยงกลับมาดุปิ่น!"
"แล้วเรื่องอะไรฉันต้องไปยุ่งกับการแต่งตัวของคุณปัทเขาด้วย?"
"เพราะว่าพ่อเลี้ยงชอบมองเธอใช่ไหมล่ะ? เธอทั้งโตแล้วก็สวย อนาคตหากพ่อเลี้ยงอยากจะแต่งงานกับเธอก็คงไม่แปลก!"
"เดี๋ยวนี้เถียงคำไม่ตกฟากเลยนะ ยิ่งโตยิ่งดื้อ"
"ใครจะไปดีเท่าคุณปัทมาล่ะคะ?" ว่าจบเด็กสาวก็ย่ำเท้าเดินตึงๆ ออกไปจากห้อง ทิ้งให้ภาสกรต้องนั่งส่ายหัวพลางถอนหายใจออกมาหนักๆ
เขาจะจัดการกับความรู้สึกของเฌอรดาอย่างไรดี?
ใช่แล้วล่ะ ภาสกรรู้มาสักพักแล้วว่าเฌอรดาไม่ได้คิดกับเขาแค่ผู้ปกครองทั่วไป พักหลังเลยไม่ค่อยให้เด็กสาวติดสอยห้อยตามไปด้วย เพราะเขาเกรงว่าเฌอรดาจะประเจิดประเจ้อจนคนอื่นรู้ความคิดของเธอ ไม่วายจะถูกนินทาให้ร้าย
อีกอย่างภาสกรเป็นคนเลี้ยงเด็กสาวมา แม้จะไม่ใช่ตั้งแต่แบเบาะ แต่ก็ถือว่าตอนรับมาเฌอรดาก็เด็กอยู่มาก เกิดเขาบ้าบอคล้อยตามความรู้สึกของเธอเข้า มิวายจะโดนคนในสวนนินทาหาว่าหลอกเด็กอีก ไอ้ตัวเขาน่ะก็ไม่ได้แคร์ขี้ปากใครนักหรอก แต่ถ้ามันมีผลกระทบกับงานก็ต้องมีเผื่อใจไว้บ้าง ร้อยพ่อพันแม่ ความคิดความอ่านย่อมแตกต่างกันไปแต่ละคน
เช้าวันต่อมา...
"หนูปิ่นล่ะป้าน้อย?" ภาสกรถามขึ้นหลังจากนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะอาหารตอนเช้าแล้วไม่เห็นเด็กสาวนั่งยิ้มแป้นรอเขาเฉกเช่นทุกวัน มีแค่ป้าน้อยยืนรอรับใช้อยู่ท้ายโต๊ะ
"อ๋อ หนูปิ่นออกไปกับหนูริสาตั้งแต่เช้าโน่นแล้วค่ะ วันนี้ตื่นมาช่วยป้าทำงานบ้านแต่เช้ามืด พอช่วยทำครัวเสร็จหนูริสาก็มารับพอดีค่ะพ่อเลี้ยง" ป้าน้อยรีบชี้แจง กลัวภาสกรจะดุเด็กสาวอีกที่หายหน้าหายตาไปตั้งแต่เช้าตรู่ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย ป้าน้อยก็เป็นอีกคนที่เชียร์เฌอรดาให้สมหวังกับภาสกรเหมือนกัน ใครจะอยากได้ปัทมามาเป็นคุณนายล่ะ ขนาดยังไม่ได้เป็นยังมองเหยียดทุกคนในบ้านทุกครั้งที่มา ถ้าเข้ามาในอมรคีรินทร์จริงๆ ล่ะก็...บันเทิงแน่!
"ไปไหนกัน! ได้บอกไว้หรือเปล่า?" คนถามเสียงแข็งขึ้นโดยไม่รู้ตัว ปกติเฌอรดาไม่เคยออกบ้านแต่เช้าตรู่แบบนี้ ที่สำคัญเด็กสาวจะบอกเขาทุกครั้งที่จะออกไปไหนมาไหน แม้เขาจะรู้จักริสาลูกสาวคนเล็กของกำนันดีก็เถอะ แต่จะไปไหนมาไหนก็ควรขออนุญาตเขาเหมือนที่เคยทำหรือเปล่า
หรือยังโกรธเรื่องเมื่อคืนอยู่?
"ไม่ได้บอกไว้เลยค่ะพ่อเลี้ยง แต่หนูปิ่นกับหนูริสาคงไม่ไปดื้อที่ไหนหรอกค่ะ เด็กๆ กำลังจะเข้ามหาลัย คงพากันไปซื้อหนังสือหนังหากันนั่นแหละค่ะ" ป้าน้อยยังคงแก้ตัวแทน แม้จะรู้ความจริงว่าสาวๆ พากันไปช้อปปิ้งตามประสาวัยรุ่นก็เถอะ แต่เชื่อได้เลยว่าเฌอรดาไม่มีทางไปทำอะไรเสียๆ หายๆ แน่นอน
"ยิ่งโตยิ่งดื้อนะเด็กป้าน่ะ" ดวงตาคมค้อนนิดๆ ยามพูดถึงเด็กสาวที่เถียงเขาคอเป็นเอ็นเมื่อคืน ก่อนจะเอื้อมไปตักข้าวในโถที่ป้าน้อยเตรียมไว้ใส่จานตัวเอง
"ปล่อยไปเถอะค่ะพ่อเลี้ยง เด็กกำลังโต" ป้าน้อยยิ้มหวานชื่นชมเด็กสาวที่ตนช่วยภาสกรดูแลตั้งแต่รับเธอเข้ามาที่บ้านสวนอมรคีรินทร์ เฌอรดายิ่งโตก็ยิ่งสวย คนที่คอยบอกคอยสอนเด็กสาวมาเก้าปีอย่างป้าน้อยเลยอดภูมิใจไม่ได้ หล่อนก็เอ็นดูเฉกเช่นลูกหลานคนนึงเหมือนกัน
ภาสกรได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมๆ เพราะเฌอรดาถูกตามใจจนมากไปถึงได้กล้าเถียงเขาเหมือนทุกวันนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเด็กสาวก็มีความกตัญญูอยู่มาก ไม่เคยทำอะไรเสียหาย และช่วยงานในบ้านกับในสวนแทบทุกอย่าง
แต่นั่นก็เอามาเป็นข้ออ้างในการออกไปข้างนอกแต่เช้าโดยไม่บอกไม่กล่าวผู้ปกครองอย่างเขาไม่ได้!
