3 ความสัมพันธ์ฉันเพื่อน
เสียงดนตรีกระหึ่มดังอยู่ในโซนวีไอพีของผับชื่อดัง ที่วันนี้ถูกปิดโดยเจ้าของ สำหรับการเลี้ยงฉลองวันเกิดที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ในทุกๆ ปี
“ไวน์หรือเหล้า?” คนถูกถามหันไปมองยังเจ้าของคำถามนั้น พร้อมส่ายหน้าให้อย่างเนือยๆ
“อะไรกันวะ มาปาร์ตี้ทั้งทีไม่ยอมดื่ม” คนบ่นว่าพร้อมจัดการชงเหล้าหลายแก้วพร้อมกันอย่างชำนิชำนาญ โดยไม่ได้หันมาสนใจคนที่ปฏิเสธตนอีกเลย
ภริยา แหวนเสนา เป็นสาวสะพรั่งวัย 27 ปีที่ออกงานปาร์ตี้เป็นว่าเล่น
เธอถ่ายรูปลงโซเซียลเหมือนตัวเองเอ็นจอยกับงานนักหนา แต่ไม่แม้จะแตะเครื่องดื่ม น้อยครั้งมากๆ ที่เธอจะหยิบมันขึ้นมาจิบเมื่อถูกคะยั้นคะยอจนน่ารำคาญ
เรือนร่างระหงของเธอในค่ำคืนนี้ บรรจุอยู่ในชุดเดรสรัดรูปตัวสั้นสีดำ ที่อวดทรวดทรงองค์เอวของเธอให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในงาน พากันลอบกลืนน้ำลายเป็นระยะ
ใครๆ ก็รู้จักเธอในฐานะสาวโสด ผู้ไม่เคยชายตาแลใครแม้เพียงเสี้ยว จะว่าหยิ่งก็ได้ จะว่าไม่สนใจใครก็ไม่เชิง
เธอเหมือนเป็นสาวสังคม...ที่มีโลกส่วนตัวสูง
“ดูย้อนแย้งนะ...” หนุ่มๆ ในงานปาร์ตี้วันเกิด เปรยขึ้นเชิงสรุป หลังจากวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของเธอมาสักพัก
“พวกมึงยังไม่ชินกันอีกเหรอวะ เภามันก็เป็นแบบนี้แหละ อินดี้มาตั้งสมัย ม.ปลายแล้ว” ปรารภ วงศ์ตั้งสูตร เอ่ยขึ้นพร้อมส่ายหน้า กระดกเบียร์เย็นๆ ลงคอไป พร้อมหันไปมองคนนั่งข้างๆ ที่ยังคงนั่งเงียบไม่ร่วมวงสนทนาตั้งแต่มาถึง
“ไง ดูหนังจบไปกี่เรื่องละ” แต่ก็มิวาย หันไปถามแบบไม่ต้องการคำตอบเชิงกวนกับคนที่อินดี้ไม่ต่างจากสาวนางที่ถูกกลุ่มผู้ชายพูดถึงไปเมื่อครู่
สายตาคมนิ่งที่ทอดมองหน้าจอโทรศัพท์แบบนิ่งๆ เหมือนไม่ได้สนใจ แต่ก็ไม่ได้ละสายตานั้น...สะดุดเล็กน้อย
“สาม” และตอบกลับมาแบบนิ่งๆ พร้อมดับหน้าจอลง
“มึงเอาของขวัญอะไรมาให้ไอ้พัฒน์มันวะ กูไม่เห็นมึงถืออะไรมาด้วยเลย” ปรารภถามพร้อมทำเป็นจะค้นตัวเพื่อนรักดูให้ทั่ว
“ต้องมีด้วยเหรอ”
“อ้าวไอ้นี่! มึงมางานวันเกิดนะเว้ย ไม่ได้มาเที่ยวผับตามปกติ ก็ต้องมีดิวะ” ปรารภรู้ว่าคนอย่าง เอก ศักดิ์ธาธิเวช ไม่ค่อยจะโผล่ไปร่วมงานวันเกิดใครง่ายๆ มาตั้งแต่ไหน
แต่สามปีมานี้...เขาออกงานบ่อยขึ้น แม้จะเป็นงานวันเกิดไม่บ่อยนักก็ตาม
เอกเลือกที่จะไม่ตอบ พร้อมขอตัวลุกไปเข้าห้องน้ำแบบขรึมๆ ตามแบบฉบับ โดยที่ไม่ลืมที่จะเหลือบไปมองคนที่นั่งสงบอยู่อีกมุมหนึ่งของงาน...โดยไม่ได้ชายตามองใครเลยแม้แต่น้อย คนนั้น
“พวกแก...ดูเอกสิ ดูหล่อขึ้นผิดหูผิดตา ไม่เจอมันมาเกือบเดือน ไปทำอะไรมารึเปล่าวะ” เสียงซุบซิบในวงสนทนาของพวกผู้หญิงในปาร์ตี้ เป็นไปในทำนองคิกคัก
และเรียกความสนใจจากคนที่นั่งเงียบอยู่ได้ โดยเธอได้เงยหน้า ชายสายตาไปยังผู้ที่ถูกกล่าวถึงเล็กน้อย
“แหม มันก็หล่อของมันอย่างนี้มาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอวะ ทำไมเพิ่งจะมาตื่นเต้นกัน” อุษา การะเวก ว่าเชิงขัดเขินเล็กน้อย เพราะชัดเจนมาตลอดว่าตนแอบปลื้มฝ่ายนั้น
“แหม...ถ้าจะออกท่าทางขนาดนี้ ไม่ไปขอกินมันตรงๆ เลยล่ะ ปล่อยให้มันลอยนวลมาตั้งนานทำไม” ฟางฝัน พันยศ มือชงเครื่องดื่มประจำปาร์ตี้ ขัดขึ้นในทำนองขำขัน
“โอ๊ย ใครจะไปกล้าล่ะ...เอกมันปากหมาขนาดนั้น ฉันไม่อยากหน้าแตกหรอก” คำพูดนี้ของอุษาทำเอาทุกคนเห็นตามพร้อมหัวเราะลั่น ไม่เว้นแม้แต่คนที่เหมือนจะไม่ได้สนใจใคร...ก็ยังถึงกับหลุดอมยิ้มมุมปาก
ความพูดตรงแบบไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าพรหมของเอก เป็นที่รู้จักในหมู่เพื่อนสมัย ม.ปลายเป็นอย่างดี เขาเป็นคนไม่เอาใครมาแต่ไหนแต่ไร แต่ยังคงมีคนอยากจะคบด้วย...เพราะบ้านรวยนั่นเอง
อันที่จริง คนในกลุ่มนี้ก็ต่างเป็นลูกคนมีฐานะกันทั้งนั้น หากแต่ถ้าจะจัดลำดับ เขาก็นับว่าอยู่อันดับหนึ่ง...รวมไปถึงภริยาด้วย
เธอเองก็อยู่ในฐานะของลูกคนรวยคนหนึ่ง ที่เพื่อนๆ ไม่ค่อยจะกล้าแซะหรือกระทบกระเทียบ แม้เธอจะทำตัวเหมือนหยิ่งยโสแค่ไหน
“จริง! ฉันจำได้เลย ตอนงานปีใหม่ที่ผู้หญิงใจกล้านางหนึ่งไปขอวันไนท์สแตนด์กับมัน...มันไม่ได้พูดอะไรเลยนะ แค่มองตั้งแต่หัวจรดเท้า เพียงแค่นั้น...นางก็เจ็บแสบเหมือนถูกเอาน้ำกรดมาราด ไม่กล้าโผล่หน้าไปงานไหนมาครึ่งปีละเนี่ย!” แล้วทุกคนก็หัวเราะอย่างขำขันให้กับการบอกเล่าอย่างเมามันของฟ้าโปรย สุขฤทธิ์
“แต่ถึงยังไง...มันก็คือชายในฝันของฉันเสมอนะ” อุษาว่าพร้อมส่งแววตาชวนฝันไปยังคนที่นั่งนิ่ง ก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองต่อไป
เท่านั้นแหละ เสียงแซวของเหล่าสาวๆ ก็ดังขึ้นมาอย่างสนุกสนาน
“แต่ฉันอยากจะรู้ว่ะ...ว่าคนปากหมาอย่างมัน เวลาทำเรื่องพวกนั้นจะแซ่บหรือว่าฟินแค่ไหน” ฟางฝันผู้เริ่มกรึ่มไปด้วยฤทธิ์เหล้าชงฝีมือตัวเอง ก็ว่าขึ้นมาด้วยแววตาหวานเยิ้ม จนอุษาต้องเอามือมาฟาดเชิงเขินเข้าให้
“นั่นสิๆ โอ๊ย...แกชงเหล้าเข้มๆ ให้ฉันหน่อย เผื่อฉันจะกล้าไปขอมัน แล้วมันจัดให้ฉันสักทีสองที...เดี๋ยวจะเอามาเล่าให้ฟังหมดเลย ว่ามันทำแซ่บหรือฟินกันแน่!”
แล้วเสียงหัวเราะระลอกใหญ่ของแก๊งสาวๆ ก็ดังมาอีกรอบ พร้อมชนแก้วกันเฮใหญ่
ปล่อยให้คนนั่งฟังด้วยใบหน้านิ่งที่เหมือนจะอมยิ้มหน่อยๆ ค่อยๆ หน้าแดงซ่านขึ้นมา...