บท
ตั้งค่า

๖ กินอิ่มทุกวันคืน 1

กินอิ่มทุกวันคืน

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์กับการมีเฝือกครอบขาตลอดเวลา เปิดเปลือกตาขึ้นมองเพดานแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพบว่าตื่นเช้ากว่าปกติ แต่หันไปมองเบาะข้างเตียงกลับพบเพียงความว่างเปล่า ที่นอนถูกพับเก็บเรียบร้อย

นอนห้องเดียวกันมาหลายวันรู้ดีว่าหล่อนตื่นเช้าแค่ไหน ถึงจะพยายามตื่นให้ทันสุดท้ายก็ไม่เคยทันอยู่ดี กลิ่นหอมของอาหารลอยขึ้นมาด้านบน จึงไม่อาจข่มตาหลับได้นอกจากรีบลงไปกินข้าวข้างล้าง หยัดกายลุกนั่งพลางวาดขาหย่อนลงข้างล่าง

ค่อยลุกอย่างระมัดระวังเพื่อเดินไปห้องน้ำ ไม่อยากลงน้ำหนักกับขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บ บางครั้งก็เขย่งไปจนถึงห้องสุขาแล้วเริ่มทำความสะอาดตามใบหน้าและร่างกายจนสดชื่น ระหว่างที่แปรงฟันและโกนหนวดก็ลองลงน้ำหนักที่ขาซึ่งได้รับบาดเจ็บ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันทีแล้วพึมพำกับตัวเองเสียงเบา

“ไม่เจ็บ...หายแล้วเหรอวะ” น้ำเสียงไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่

ล้างหน้าล้างตาก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า วันหยุดไม่มีแผนจะออกไปข้างนอก เหตุผลหนึ่งก็คือยังคงบาดเจ็บเดินทางไม่สะดวก ส่วนอีกเหตุเป็นสิ่งที่เขาไม่ค่อยอยากยอมรับกับตัวเองเท่าไหร่ การได้อยู่บ้านกับภรรยากลายเป็นเรื่องพิเศษสำหรับเขาไปแล้ว

แสงอรุณพยายามกล่อมตัวเองว่าที่อยู่บ้านก็เพื่อตอบแทนที่หญิงสาวดูแลเขาดี จะให้เธอได้ดูตนได้เต็มตาและรักได้หมดหัวใจ

อยู่บ้านก็เพื่อหอมนวลทั้งนั้น...

เขาไม่ได้รู้สึกรักเธอสักนิด

“พี่แสง” จังหวะที่กำลังจะเดินไปเปิดประตูด้วยการลงน้ำหนักขาสองข้างเกือบเท่ากันเพราะไม่รู้สึกเจ็บสักนิด แต่หล่อนกลับเปิดประตูเข้ามาจนเขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ รีบล้มลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว เป็นปฏิกิริยาที่เขาเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกัน

คนที่เพิ่งเข้ามาก็ตกใจกับภาพตรงหน้า อีกทั้งเขายังร้องเสียงหลงเอามือจับเฝือกเหมือนเจ็บมาก เธอไม่รอช้ารีบเข้ามาถามไถ่อาการอย่างรวดเร็ว

“โอ๊ย!”

“เป็นอะไรมากไหมคะ!” ใบหน้าหวานมีแววตระหนกแล้วสำรวจร่างกายภายนอกของเขา จะจับที่เฝือกก็ไม่กล้ากลัวอีกฝ่ายเจ็บ ทำได้เพียงมองด้วยความกังวล คนตัวสูงก้มหน้าไม่กล้าสบตาเธอ กลัวว่าหอมนวลจะสังเกตเห็นว่าเป็นเพียงการแสดงละครของเขาเท่านั้น

เจ็บที่ไหนกันล่ะ ที่นั่งลงก็เพราะตกใจต่างหาก

แล้วเขาจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร...เจ้าตัวได้แต่สงสัยและถามตนเอง

“ไม่ ไม่เป็นอะไร ช่วยพยุงไปที่เตียงหน่อยเหมือนจะเจ็บยังไงไม่รู้” ทำเหมือนจะลุกแต่ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บลุกไม่ขึ้น หล่อนได้ยินอย่างนั้นก็เข้ามาประคองเขาอย่างรวดเร็ว แสงอรุณก็พยายามลุกแต่ยังคงส่งเสียงโอดครวญไม่ขาดสาย

“ระวังนะคะ ค่อยๆ เดิน” ทิ้งตัวไปหาเธอจนได้กลิ่นหอมของแชมพูจากผมสวย มุมปากหยักแอบยกยิ้มก่อนกลับมาทำหน้านิ่งเหมือนเดิมเมื่อนั่งลงบนเตียงได้สำเร็จ พยายามไม่แสดงพิรุธให้หล่อนจับได้ว่าตัวเองแค่แกล้งทำ

เขาคลำไปที่ขาพลางทำหน้าเจ็บปวด หญิงสาวเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งกังวลมากกว่าเดิม มือบางกำเข้าหากันแน่นแล้วจ้องใบหน้าคมพลางถามด้วยความเป็นห่วง ไม่รู้ทำไมจึงล้มลงได้ทั้งที่พื้นก็ไม่ได้ลื่น อาจเป็นเพราะชายหนุ่มพยายามเดินมาเปิดประตูหรือเปล่า

แต่ผ่านมาหลายวันก็เห็นเขาขึ้นลงชั้นสองได้เป็นปกติ ไม่เคยตกบันไดเลยสักครั้ง กลับมีปัญหาล้มในทางราบ...เหลือจะเชื่อ

“เป็นยังไงบ้าง ให้หอมขับมอ’ไซค์พาไปหาหมอดีหรือเปล่า ยังไงวันมะรืนก็ต้องไปให้หมอตรวจอยู่แล้ว เราไปก่อนวันนัดคงไม่เป็นไรหรอก” ได้ยินแบบนั้นก็รีบปฏิเสธทันที ทำเอาเธอต้องมองเขาด้วยความฉงนไม่คิดว่าชายหนุ่มจะบอกปัดเร็วขนาดนี้

อีกไม่กี่วันเขาก็จะต้องถอดเฝือกแล้ว ทำให้ชายหนุ่มเริ่มกังวลมากกว่าเดิม ถ้าเขาไม่มีเฝือกที่ขาเธอจะคอยดูแลอย่างใกล้ชิดและมานอนด้วยกันหรือเปล่า กลายเป็นชินที่ได้นอนห้องเดียวกับหอมนวลไปแล้วถึงจะไม่ได้ร่วมเตียงก็ตาม

และการเจ็บขาก็เป็นข้ออ้างอย่างดีให้เราได้ใกล้ชิดกัน นึกหงุดหงิดที่หมอนัดเอาเฝือกออกเร็ว ยืดระยะเวลาออกไปอีกสักหน่อยไม่ได้หรือไง

“ไม่ๆ โอเคแล้วล่ะ ไม่เป็นอะไรมาก แล้วเธอเรียกฉันทำไม” เปลี่ยนเรื่องคือทางออกของเขาในตอนนี้ ชายหนุ่มแย้มยิ้มเหมือนไม่เจ็บปวด เธอเห็นอย่างนั้นก็พอคลายความกังวลได้บ้าง แล้วนึกออกว่าตนต้องรีบออกไปทำงานที่ร้านซักผ้าในวันหยุดเสาร์อาทิตย์

“หอมจะมาบอกว่าอาหารอยู่ในครัวถ้าพี่หิวก็ตักกินได้เลย หอมจะไปทำงานแล้ว” นึกได้ก็รีบออกจากห้องของเขา แต่ถูกชายหนุ่มรีบถามด้วยความรู้สึกเศร้าสร้อยเพราะตัวเองต้องอยู่บ้านคนเดียวในวันหยุด

คิดว่าเราจะได้ใช้เวลาด้วยกันซะอีก...

“ต้องไปทำงานด้วยเหรอ” เผลอถามออกไปโดยไม่รู้ตัว

“คะ?” หล่อนได้ยินไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ดูจากสีหน้าของเขาก็คาดเดาไม่ได้ว่าชายหนุ่มต้องการจะสื่ออะไร แสงอรุณเห็นอย่างนั้นก็รู้ทันทีว่าตัวเองแสดงอารมณ์มากเกินไป จึงตีหน้าเคร่งขรึมเหมือนทุกครั้ง พลางโบกมือไล่เธอ

“เปล่า ไปเถอะ” ถึงจะไม่ชอบอยู่คนเดียวแต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อหญิงสาวมีความจำเป็นต้องออกไปข้างนอก

ทว่าเงินเหง่านั้นจะได้มากแค่ไหนกันเชียว เขาจ้างเธอให้อยู่บ้านก็ได้...

ไม่เห็นต้องลำบากออกไปทำงานข้างนอกเลยนี่น่า

“แล้วหอมจะรีบกลับนะคะ” ถึงจะกังวลกับอาการเจ็บของเขาแต่ตนก็สายแล้ว จึงต้องบอกลาชายหนุ่มเพื่อไปทำงาน ตอนเที่ยงแวะกลับมาดูอาการของเขาทั้งยังทำอาหารไว้ให้สามีค่อยกลับร้าน

ทำให้คนที่ว่างทั้งวันเริ่มคิดว่าคงต้องทำบางอย่าง ให้เธอเหนื่อยคนเดียวแบบนี้ก็ดูจะเห็นแก่ตัวเกินไป

เงินเขาก็มีใช่ว่าขาดเงินเสียเมื่อไหร่...ต้องเอาออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์สักหน่อยสิ

ร่างสูงนอนเอกเขนกอยู่โซฟายาวหน้าจอโทรทัศน์ นอนเล่นโทรศัพท์สลับกับดูรายการบันเทิงที่ไม่ได้มีความรู้สึกร่วมสักเท่าไหร่ เปิดให้เสียงดังอยู่เป็นเพื่อนก็เท่านั้นเอง ดวงตาจดจ้องกับข้อความที่คุยกับน้องสาวซึ่งร่ายยาวถึงความรักแสนหวานจนตนเริ่มหงุดหงิด

รุ่งอรุณ เวทย์วินธาคือน้องสาวที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเขาตลอด ไม่ค่อยจะพูดดีกันเท่าไหร่แต่รู้ว่ามีความหวังดีและเป็นห่วงกันเสมอ แฟนของน้องก็เป็นเพื่อนสนิทของเขา รู้จักนิสัยใจคอเป็นอย่างดีจึงยอมให้คบกับน้องสาวตัวเอง

แต่ตอนนี้เริ่มหมั่นไส้คนทั้งสองแล้ว ขยันโชว์กันเหลือเกิน เขาก็ไม่อยากจะอวดหรอกว่าตนมีภรรยาเหมือนกันนั่นแหละ

เสียงรถมอเตอร์ไซค์จอดลงหน้าบ้านทำให้คนเจ็บดีใจจนเกือบลุกไปต้อนรับ หากไม่ติดว่ามองเห็นขาของตัวเองที่ใส่เฝือกซะก่อน จึงได้นั่งลงที่เดิมพร้อมแสร้งทำหน้าหงอยให้เธอต้องถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel