บท
ตั้งค่า

๕ ความจริงใจของเธอ 2

“น้าเรายุ่งแบบนี้ตลอดเหรอ” ระหว่างนั่งโซฟาแล้วกินขนมที่เธอทำใส่กล่องไว้แล้วดูการ์ตูนเป็นเพื่อนเด็กน้อยก็หันมาถามข้อมูลด้วยความอยากรู้

“คับ! น้าหอมยุ่งมากๆ อยู่บ้านก็ต้องช่วยยายทำกับข้าวตลอดเลย แล้วก็ไปขายของที่ร้านป้าตุ้ง ไปร้านซักรีดป้าแฟง ส่งขนมให้ร้านพี่เจี๊ยบ...อือ อะไรอีกนะ” งานที่ร่ายมาค่อนข้างเยอะพอสมควรจนไม่อยากเชื่อว่าเธอจะมีเวลาเหลือเฟือทำทุกงานขนาดนั้น

จันทร์ถึงศุกร์ทำงานประจำตามเวลาราชการ ส่วนวันหยุดก็ทำงานพิเศษเพิ่มเพื่อหาเงินช่วยครอบครัว ยิ่งช่วงที่บิดาของหล่อนป่วยเป็นโรคไตต้องใช้เงินในการรักษาสูงทำให้ต้องหาเงินหัวหมุนแต่สุดท้ายท่านก็จากไป ทิ้งหนี้เอาไว้ให้หญิงสาวตามใช้เพิ่งปลดหนี้ไปได้ไม่นานนี้เอง

คนที่รู้จักมักจะสงสารเธอจึงพยายามช่วยเหลือทุกทาง ทำให้หอมนวลซาบซึ้งในน้ำใจของทุกคนเป็นอย่างมาก แต่กระนั้นหล่อนก็ยังอยากพึ่งตัวเองในการทำงาน ไม่ต้องการเอาตัวเข้าแลกเหมือนที่นางรมณีพร่ำบอกหลายต่อหลายครั้ง

“โม้หรือเปล่า” หรี่ตามองแต่เด็กชายก็ทำหน้าจริงจัง ยืนยันในสิ่งที่ตัวเองพูดว่าไม่ได้กล่าวความเท็จแต่อย่างใด

“ไม่โม้นะ น้าหอมทำงานเก่งจริงๆ” พยักหน้าขึ้นลง

เขาจึงได้เชื่อโดยไม่มีข้อกังขา เหมือนเธอจะทำงานเก่งมากเพราะเห็นหญิงสาวนำเสื้อผ้ากลับมาเย็บตลอด เธอไม่ได้ใช้จักรและเย็บด้วยมือ บางครั้งก็เย็บเสื้อที่ขาดให้เขา เอาเสื้อผ้ามาน้อยจึงใช้ซ้ำเวียนกันไป อย่างไรก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่นาน แค่อยากพักสมองจากงานเอกสารเท่านั้น

แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะเริ่มชอบความเป็นมิตรของผู้คนที่นี่เสียแล้ว จนไม่อยากไปไหน...

“แล้วน้าหอมมีแฟนไหม” ความสนใจของเด็กชายถูกดึงมาที่คำถามอีกทั้ง เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงอยากรู้เรื่องนี้ แต่ก็อดจะถามไถ่ไม่ได้และคำตอบก็ทำให้เขาเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ไม่มี คนมาจีบเยอะแต่น้าหอมไม่ชอบใคร ชอบน้าแสงคนเดียว” เอื้อมไปหยิบขนมมากินแล้วมองโทรทัศน์ที่ฉายการ์ตูนยามเช้า ดวงตาของเด็กน้อยเป็นประกายทั้งยังหัวเราะไปกับเรื่องราวตลกแม้ตัวละครจะไม่ได้พูดภาษาไทยก็ตาม

ประโยคสุดท้ายของน้ำพุสร้างความลิงโลดในใจของคนฟังเป็นอย่างยิ่ง ยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วพยักหน้าขึ้นลง หัวเราะในลำคอพร้อมกับร้อนผ่าวที่ใบหน้าลามไปถึงหูที่แดงก่ำ

“หึหึ รู้ได้ยังไง” คราวนี้จี้ถามเด็กน้อย อยากรู้ว่าทำไมจึงพูดเช่นนั้น

“ตาของน้าหอมจะวิ้งๆๆๆ แบบนี้ตอนมองน้าแสงไง” กะพริบตาปริบแล้วจ้องเขาเหมือนพยายามแสดงให้เห็นว่าอาการของหญิงสาวเป็นเช่นไร คนที่ฟังมาตลอดก็เริ่มคล้อยตามจนต้องบอกตัวเองให้ทำหน้าเคร่งขรึมเข้าไว้

แม้ตอนนี้ปากจะฉีกแทบถึงหูก็ตาม...

“จริงเหรอ...” ถามเสียงเบา

“อื้อ เด็กไม่โกหก” แทบจะพยักหน้าเป็นตุ๊กตาสปริง เขาเห็นแล้วก็หัวเราะเสียงดังก่อนหยิบเงินให้หลานชายอีก ยอมปล่อยน้ำพุให้ดูการ์ตูนส่วนตัวเองก็คิดถึงคำพูดของเด็กน้อยพลางยิ้มหัวเราะราวคนบ้า คำถามที่สงสัยมาตลอดตอนนี้ได้คำตอบแล้ว

ที่เธอต้องการแต่งงานกับเขาไม่ใช่เพราะเงิน

เป็นเพราะรักต่างหาก...

หล่อนแอบรักตนมาโดยตลอด ยอมทนทุกอย่างก็เพื่อคำว่ารักสินะ

คิดอย่างนั้นหัวใจก็พองโตขึ้นมาทันที เสียงหัวเราะของคุณน้าทำให้หนูน้อยหันมามองบ่อยครั้ง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเหตุใดผู้ชายคนนี้ถึงได้อารมณ์ดีนัก เบื่อจากการนั่งเขาก็ไปนอนบนเบาะที่หญิงสาวเป็นคนจัดการไว้ให้ตั้งแต่เมื่อคืน

นอนหลับสนิทตื่นมาอีกทีก็พบหลานชายลงมานอนข้างกัน เขาได้ยินเสียงรถมอเตอร์ดังเข้ามาใกล้ก่อนจอดลงหน้าบ้าน ถึงได้หยัดกายลุกอย่างทุลักทุเล มองดูนาฬิกาก่อนพบว่าเป็นเวลาเที่ยงครึ่งแล้ว ท้องเริ่มร้องประท้วงด้วยความหิว

“กลับมาแล้วค่ะ! พี่แสงกินข้าวหรือยัง พุล่ะ...”

ไม่นึกว่าเขาจะเดินมารับถึงหน้าบ้านทำให้หล่อนชะงัก ซื้อขนมมาจากข้างนอกให้น้าหลานกินเป็นของว่าง รีบเข้ามาช่วยประคองเขาแล้วพบว่าหลานชายนอนที่เบาะนุ่มหลับสบายใจเฉิบก็มองด้วยความเอ็นดู

ตอนแรกนึกว่าทั้งสองจะตีกันซะอีก นึกโล่งใจที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี อีกไม่นานพี่สาวก็น่าจะมารับลูกกลับบ้านแล้ว

“ยังไม่กิน เธอทำงานเสร็จแล้วเหรอ” พอมีเธอเข้ามาพยุงก็เดินได้สะดวกขึ้น มองเสี้ยวหน้าหวานแล้วอมยิ้มมีความสุข คิดถึงคำพูดของน้ำพุที่บอกว่าหล่อนชอบเขาก็เกือบเปล่งเสียงหัวเราะออกมา ทั้งที่เหตุผลแสนง่ายดายทำไมจึงมองข้ามไปได้

หอมนวลชอบเขานี่เองจึงยอมแต่งงานด้วย...

“พักเที่ยงค่ะ เลยจะมาทำข้าวให้พี่กับพุกิน เอาเป็นไข่เจียวหมูสับกับกะเพราะทะเลแล้วกันนะ พี่เอาไข่ดาวด้วยไหม” พาเขามานั่งที่โต๊ะอาหารแล้ววางของที่ซื้อมาไว้บนโต๊ะ ก่อนหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมแล้วเริ่มทำอาหาร

“สองฟอง” มองเธอทำทุกอย่างด้วยความเพลิดเพลิน

“ค่ะ”

วัตถุดิบถูกเตรียมไว้แล้วจึงเริ่มทำกะเพราทะเลให้เขาก่อน ใช้เวลาไม่นานก็พร้อมเสิร์ฟ แล้วเริ่มทอดไข่ดาวสองฟองก่อนจบที่ไข่เจียวหมูสับสำหรับหลานตัวน้อย ทำทุกอย่างในเวลาจำกัดไม่ได้สนใจว่ามีสายตาหนึ่งคู่มองตนตลอดเวลา

น่าแปลกที่นึกหลงใหลในการทำอาหารของหล่อน สามารถมองหอมนวลเคลื่อนไหวร่างกายในครัวโดยไม่เบื่อเลยสักนิด นั่งเท้าคางมองอยู่อย่างนั้นจนอาหารเสร็จจึงได้ลุกไปคดข้าวใส่จาน ไม่อยากรบกวนเธอมากไปกว่านี้

“เสร็จแล้วนะ ฝากป้อนพุด้วย...”

ล้างมือเรียบร้อยพร้อมกับจัดการล้างกระทะและจานชามที่ใช้แล้วก็ถอดผ้ากันเปื้อนออก บอกอย่างรวดเร็วสลับกับมองนาฬิกาไปพลาง กลัวว่าตัวเองจะกลับไปทำงานสาย

“ไม่กินด้วยกันเหรอ” รีบถามทันที

“ต้องรีบกลับไปทำงานแล้วค่ะ ไปก่อนนะ!”

พูดจบก็วิ่งไปหยิบกระเป๋าเพื่อกลับไปให้ทันเข้างานช่วงบ่าย เขามองตามก่อนถอนหายใจเหนื่อยหน่าย เพิ่งได้มีวันหยุดแล้วเขาอยู่บ้านเป็นครั้งแรก คิดว่าเธอจะอยู่ด้วยแต่กลับเห็นงานสำคัญกว่า

“งานอะไรจะยุ่งขนาดนั้น...”

สุดท้ายก็ต้องปลุกหลานมากินข้าว แล้วถามเรื่องของหอมนวลจนรู้เกือบหมดทุกอย่าง

รู้เขารู้เราเอาไว้ รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel