บท
ตั้งค่า

๓ ยิ่งรักยิ่งเจ็บ 3

เหมือนว่าหอมนวลจะกลายเป็นคนนอกสายตาของเขาในทันที เธอทำได้เพียงนั่งมองคนทั้งสองตาปริบ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีกลัวชายหนุ่มจะอารมณ์เสียอีก จึงได้มองภาพความสัมพันธ์ที่ชวนให้เข้าใจผิด เพราะดูเหมือนว่าทั้งสองจะสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก

“หมวยๆ เซ็ทผมให้หน่อย” มองกระจกก็เห็นว่าผมไม่เรียบร้อย จึงได้กวักมือเรียกเพื่อนด้วยความเคยชิน

“ตลอด เป็นแบบนี้ตลอด ไหนหันหน้ามาหน่อย...เออ โอเคยัง” สมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็ได้หล่อนคอยจัดการทรงผมยุ่งเหยิงให้หล่อเหลา ยิ่งช่วงไหนเขาผมยาวก็จะได้เธอช่วยเซ็ทผมบ่อยหน่อย จึงติดนิสัยมาถึงปัจจุบัน

“ดีขึ้นแล้ว ไปกัน” เขาเดินออกไปรอเธอที่รถยนต์ เหลือมัสลินที่หันมาโบกมือลากับน้องสาวที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรกก็ถูกชะตาทันที

“พี่ไปก่อนนะน้องหอม ไว้คราวหน้าถ้ามาหาจะซื้อของมาฝากด้วย” หล่อนลุกยืนแล้วยกมือไหว้อีกฝ่าย

“ค่ะ” มองตามรถยนต์ที่แล่นลับออกจากบ้านก่อนถอนหายใจเสียงหนัก ค่อยเก็บจานชามที่ว่างเปล่าเพื่อนำไปล้างจนสะอาดค่อยปิดล็อคบ้านแล้วไปทำงาน

ถึงจะพยายามลบภาพความสนิทสนมของคนทั้งสองออกไปก็ไม่อาจทำได้ในทันที ยังคงกังขาอยู่เหมือนเดิมแต่ก็รู้ว่าทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น

เมื่อเราทั้งสองไม่ได้รักกัน เป็นเพียงแค่สามีภรรยาในนามที่อีกสี่เดือนก็จะต้องหย่าแล้ว...

วันหยุดที่แสงอรุณยังไม่ตื่นแต่เธอลุกมาทำความสะอาดบ้านตั้งแต่เช้า วันนี้ลางานที่ร้านซักผ้าเพราะรับเย็บผ้ามาเยอะจนกลัวว่าจะทำไม่ทัน หญิงสาวจึงต้องเลือกงานเพียงอย่างเดียว ทำอาหารไว้คอยเขาเรียบร้อยก็ออกไปรดน้ำต้นไม้จนกลับมาสดชื่น

หญ้าหน้าบ้านที่เคยเหลืองกรอบก็กลับมาเขียวชอุ่มอีกครั้ง มีแผนอยากปลูกพืชผักสวนครัวแต่ว่าไม่กล้าทำอะไรโดยพลการ จึงคิดจะถามชายหนุ่มก่อนว่าทำได้หรือเปล่า

ทว่าช่วงนี้เขาไม่ค่อยว่าง ลงพื้นที่ตลอดกลับบ้านมาก็กินข้าวอย่างเดียวแล้วเข้าห้องนอน ไม่ได้ไปสังสรรค์เหมือนสัปดาห์ก่อน เธอโล่งใจที่เขาไม่ได้ดื่มเหล้าเพียงอย่างเดียว และดีใจที่ชายหนุ่มกินอาหารที่ตนทำบ้างแล้ว

“หอม หอม!” เสียงเรียกดังหน้าบ้านทำให้ต้องรีบลุกไปเปิดประตูรั้วอย่างรวดเร็ว กลัวว่าจะรบกวนคนที่กำลังหลับใหลในวันหยุด อยู่ที่นี่เธอก็พยายามทำตัวให้มีประโยชน์และไม่สร้างปัญหาแก่เจ้าของบ้าน กลัวว่าจะถูกไล่ออกก่อนครบกำหนด

ตอนนี้หาเงินมาคืนเขาได้ไม่ถึงห้าพันเลย ขาดอีกตั้งสี่หมื่นห้าพันไม่รู้ว่าจะไปหามาจากไหน เงินเก็บก็ไม่มีเหมือนคนอื่นเขา เธอใช้ชีวิตให้ผ่านไปในแต่ละวันเท่านั้น ไม่มีแผนฉุกเฉินจนนึกกังวลกับตัวเอง

เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่...

อาจต้องหางานเพิ่มเพื่อจะได้มีเงินมาคืนชายหนุ่มโดยเร็วที่สุด

“พี่แคท มีอะไรหรือเปล่ามาแต่เช้า” เปิดรั้วก็เห็นคนที่มาหากันแต่เช้า มองไปยังรถยนต์ของพี่เขยที่จอดอยู่หน้าบ้าน โดยมีพี่สาวต่างสายเลือดกำลังอุ้มลูกชายทั้งยังยื่นกระเป๋าของหนูน้อยมาให้เธออีกต่างหาก

“ฝากไอ้พุหน่อย พี่จะเข้ากรุงเทพฯ ไปซื้อสุ่มไก่กับพี่เอก ฝากไว้กับแม่ก็ขี้เกียจฟังแกบ่น เดี๋ยวพรุ่งนี้ ตอนเย็นจะมารับ” รับหลานมาอุ้มเอาไว้ทันทีเมื่อพี่สาวบอกถึงธุระจำเป็นของตัวเอง แคทรียา ชโรธารเป็นลูกติดของนางรมณี เปลี่ยนมาใช้นามสกุลเดียวกับเธอนับถือกันเป็นพี่น้อง

ไม่ได้มีความสนิทสนมมากนักเพราะอีกฝ่ายก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน มักจะมีแฟนและไปอยู่บ้านแฟนตลอด เพิ่งแต่งงานกับสามีคนที่สองและมีลูกด้วยกัน แต่ช่วงนี้ทำกิจการขายอุปกรณ์เลี้ยงไก่ต้องเดินทางไปดูของที่นำมาขายบ่อยไม่ค่อยได้อยู่บ้าน

ตอนเธออยู่ด้วยก็มักเลี้ยงหลานช่วยพี่ ตอนนี้หญิงสาวออกมาอยู่กับสามีจึงไม่มีใครคอยดูแลเด็กชาย ให้คุณรมณีเลี้ยงก็มักจะบ่นจนคร้านจะฟัง

“น้าหอมอยู่ด้วยน้า” น้องพุกอดคอน้าสาวเอาไว้แล้วอ้อนทันที

“ได้สิพี่ เสาร์อาทิตย์ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว” ยิ้มกว้างด้วยความเอ็นดูหลานเป็นทุนเดิม เลี้ยงมาแต่เล็กจนเหมือนเป็นลูกชายของตนไปแล้ว

“ขอบใจมาก” มื่อได้ยินอย่างนั้นก็สบายใจหายห่วง ฝากลูกชายไว้กับน้องเสร็จก็เดินไปขึ้นรถพร้อมโบกมือลาคนทั้งสอง ไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูลูกเพราะรู้ว่าฝากไว้กับหอมนวลลูกจะได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ขาดตกบกพร่องสักอย่าง

เธอยกมือหลานให้โบกลาพ่อแม่ กระทั่งรถเลี้ยวออกจากซอยพักอาศัย จึงได้พากันเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ที่หนูน้อยเพิ่งเข้ามาเป็นครั้งแรก

“เข้าไปในบ้านดีกว่า...กินข้าวหรือยัง” หน้าบ้านมีลานหญ้ากว้างน่าวิ่งเล่น ในบ้านก็กว้างขวางสะอาดตามีกลิ่นหอมอีกต่างหาก เด็กชายเอ่ยชมไม่หยุดแล้วยังอ้อนอยากมาอยู่กับคุณน้าอีกต่างหาก เธอยิ้มขำก่อนเปลี่ยนเรื่อง

เพราะรู้ดีว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว

“ยังคับ อยากกินทอดหมูของน้าหอมได้ไหม” นั่งลงบนเก้าอี้สำหรับนั่งกินข้าว อ้อนขอกินของโปรดและคิดถึงฝีมือการทำอาหารของน้าสาว เธอได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้าทันที วัตถุดิบมีเต็มตู้เย็นไม่ว่าหลานอยากกินอะไรก็ได้ทั้งนั้น

“ได้อยู่แล้ว น้าจะทอดปีกไก่เพิ่มให้ด้วยดีไหม”

“ดี!” ปรบมือทันทีแล้วตีขาไปมากลางอากาศระหว่างมองคุณน้าทำอาหารให้ตัวเอง

กับข้าวที่ทำไว้ให้สามียังวางไว้เหมือนเดิม ไม่รู้ว่าเขาจะตื่นมากินเมื่อไหร่ แต่สงสัยกลิ่นหมูทอดของน้ำพุจะลอยไปทั่วบ้านทำให้คนหลับใหลตื่นลงมากินข้าวได้ เธอมองไปทางบันไดแล้วพบสัตวแพทย์หนุ่มเดินหัวยุ่งลงมาข้างล่าง ไม่มีการรักษาภาพลักษณ์ใดๆ ต่อหน้าหล่อนทั้งสิ้น

“เสียงดังอะไรแต่เช้า คนจะนอนไม่ต้องนอนเลยมั้ง...เด็กนี่มาจากไหน” นอกจากเห็นอาหารที่วางเต็มโต๊ะ สายตาก็มองมายังเด็กที่ไม่คุ้นหน้าซึ่งกำลังนั่งกินปีกไก่ทอดอย่างเอร็ดอร่อย

“พุค่ะ เป็นลูกของพี่สาวหอมเอง พอดีพี่ต้องไปกรุงเทพฯ เลยเอาพุมาฝากไว้ที่บ้านเดี๋ยวพรุ่งนี้จะมารับ...” พูดจบก็รอดูปฏิกิริยาของเขา กลัวชายหนุ่มจะไล่ตะเพิดหลานชายออกจากบ้าน แต่เด็กน้อยกลับหยิบเนื้อหมูยื่นไปตรงหน้าเขาแทน

“ลุงกินทอดหมูด้วยกันไหม” คำชวนไม่เท่าไหร่ แต่คำเรียกทำหัวเสียพอสมควร

“เรียกใครลุง เรียกน้าก็พอ” นั่งลงข้างเด็กชายที่พบตั้งแต่วันไปบ้านหล่อนแต่ก็ได้เจอกันอีกเลย กระทั่งวันนี้และดูเหมือนเด็กตรงหน้าจะไม่กลัวคนเสียด้วย ทักทายเขาทั้งยังชวนคุยไม่มีกลัวเลยแม้แต่น้อย

“น้า...น้าอะไร” เคี้ยวข้าวแล้วหันมาถาม ดวงตากลมแป๋วจ้องไม่วางตา

“แสง” บอกชื่อของตัวเอง

อายุแค่สามสิบจะมาเรียกตนว่าลุงได้ยังไง รับไม่ได้!

“น้าแสงกินทอดหมูด้วยกันสิ น้าหอมทำอร่อยมากนะ กินไหม” ยื่นหมูทอดให้คนอายุมากกว่า เขาแอบกลืนน้ำลายลงคอเพราะข้าวเช้าไม่ได้มีแค่หมูทอด กลับทำไว้ครบเซ็ทจนต้องพยักหน้าเหมือนขอไปที แล้วลุกไปคดข้าวใส่จาน

“กินก็ได้”

เธอแอบอมยิ้มมองเขากินข้าวกับหลานชาย ตอนแรกนึกกลัวว่าชายหนุ่มจะไม่ยอมให้น้ำพุอยู่ที่นี่เสียอีก แต่เห็นพูดคุยกันได้ก็ค่อยเบาใจหน่อย เผลอมองเขานานกว่าปกติเห็นแสงอรุณเจริญอาหารก็ยิ่งยิ้มกว้างชอบใจมากกว่าเดิม

“พี่แสงจะไปไหนหรือเปล่าคะ” เธอใช้โอกาสที่เขากำลังอารมณ์ดีชวนคุย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel